สัปดาห์ที่ 3 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีบิ๊กแมตช์ถึง 2 คู่ในคืนวันเสาร์ เริ่มด้วย แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือ อาร์เซน่อล และคู่ดึก ลิเวอร์พูล ทำศึกแย่งจ่าฝูงกับ เชลซี ขณะที่คืนวันอาทิตย์ แมนฯ ยูไนเต้ด ลุ้นทำสถิติไร้พ่ายนอกบ้านตลอดกาลแห่งเกาะอังกฤษ หากกลับจาก โมลินิวซ์ กราวด์ ด้วยการมีแต้ม
    "แมนฯ ซิตี้-อาร์เซน่อล"

    "แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แก้ตัวจากที่แพ้นัดเปิดสนามมาเอาคืนใส่ นอริช 5-0 ฝั่ง อาร์เซน่อล ออกอาการไม่สู้ดีนัก พ่ายสองเกมติดแถมยังยิงประตูไม่ได้

    การเจอกันของคู่นี้ เป็นฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน 8 เกมลีกที่เจอกันล่าสุดชัยชนะตกเป็นของพวกเขา ซึ่งสถิติเป็น อาร์เซน่อล แพ้ต่อทีมใดทีมหนึ่งติดต่อกันมากที่สุดเทียบเท่าที่เคยแพ้ 8 นัดติดต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด ช่วงระหว่างปี 1973-1976

    แมนฯ ซิตี้ เล่นในบ้านตัวเองสองนักล่าสุดกดคู่แข่งด้วยสกอร์ 5-0 ทั้งสองนัด โดยในประวัติศาสตร์ พรีมียร์ลีก มีแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่เคยเอาชนะคู่แข่งในบ้านตัวเองด้วยช่องว่าง 5 ประตูขึ้นไป นั่นคือครั้งที่พวกเขาเองเคยทำไว้เมื่อปี 2017 และอีกทีมคือ เชลซี เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2010

    ราฮีม สเตอร์ลิง มีส่วนร่วมกับประตู 7 ลูกจาก 6 เกมลีกหลังสุดที่เจอ อาร์เซน่อล(5 ประตู 2 แอสซิสต์) โดยทำประตูได้ตลอด 4 นัดหลัง รวมถึงประตูชัยที่พา ซิตี้ เอาชนะ "ปืนใหญ่" ครั้งล่าสุด

    อีกหนึ่งสถิติที่ "เดอะ กันเนอร์ส" ไม่อยากจำคือพวกเขาแพ้ในการเจอกับทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน โดย 3 จาก 5 นัดหลังโดนยิงไปแมตช์ละ 3 ประตู

    "นอริช-เลสเตอร์"

    นอริช ซิตี้ สุดโชคร้ายที่ต้องเจอกับทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ในช่วง 2 เกมแรก มิหนำซ้ำมานัดนี้ก็ยังเจอกับของแข็งอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้

    เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกจอมเก๋าของ "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่สามารถทำประตูเกมเยือนในลีกมาแล้ว 11 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่ทำสกอร์ใส่ สเปอร์ส ได้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดที่เขาเคยทำได้นับตั้งแต่ยิงเกมเยือนไม่ได้ 12 เกมติดช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2014 ถึงเดือนมีนาคม 2015

    "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" แพ้ต่อ เลสเตอร์ ในบ้านตัวเองแค่นัดเดียวเท่านั้นจากการเจอกัน 7 นัดหลัง (ชนะ 4 เสมอ 2) โดยเกมที่แพ้เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2015 ด้วยสกอร์ 1-2

    อย่างไรก็ตาม นอริช แพ้ในบ้านตัวเองเกม พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันถึง 12 เกมโดยทำได้แค่ประตูเดียว และเสียประตูไป 32 ลูก ซึ่งในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุด อังกฤษ มีเพียง ซันเดอร์แลนด์ (แพ้ 20 นัดติดต่อกัน ระหว่างปี 2003-2005) และ แมนฯ ยูไนเต็ด (14 นัดติดต่อกันในปี 1930) เท่านั้นที่แพ้ติดต่อกันมากกว่าพวกเขา

    ถึงกระนั้น เลสเตอร์ ก็แพ้ในลีก 4 จาก 6 เกมหลังสุด เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ 21 นัด(ชนะ 11 เสมอ 6) อย่างไรก็ดี "เดอะ ฟ็อกซ์" สามารถเอาชนะในการเจอกับทีมกลุ่มโซนตกชั้น 5 นัดติดต่อกันด้วยผลต่างสกอร์ 13-1

    "ลิเวอร์พูล - เชลซี"

    การเจอกันของสองทีมที่ต่างคว้าชัยชนะมาได้ทั้ง 2 เกมแรก
   
    หาก ดิโอโก้ โชต้า ทำประตูใส่ เชลซี ได้ในเกมนี้จะทำให้เขาเป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล คนที่ 4 ที่มีชื่อทำสกอร์ได้ตลอดทั้ง 3 เกมแรกของ พรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้มี ร็อบบี้ ฟาวเลอร์(1994/95), แดนเนี่ยล สเตอร์ริดจ์(2013/14) และ ซาดิโอ มาเน่(2017/18)

    ลิเวอร์พูล แพ้ต่อ เชลซี แค่ 2 นัดจากผลงาน 13 นัดหลังในศึก พรีเมียร์ลีก(ชนะ 6 เสมอ 5) ซึ่ง 1 ใน 2 เกมที่แพ้เกิดขึ้นในเกมล่าสุดที่เจอกันเมื่อเดือนมีนาคม และใน พรีเมียร์ลีก มีแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(12) เท่านั้นที่บุกเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้มากกว่า เชลซี (7)

    หลังจากที่ทำประตูใส่ "หงส์แดง" ได้ 4 ลูกจาก 4 เกมแรกที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก จากนั้น โรเมลู ลูกากู กลับพังตาข่าย ลิเวอร์พูล ได้แค่ลูกเดียวตลอด 11 นัดหลังสุด

    "สเปอร์ส-วัตฟอร์ด"

    สเปอร์ส เก็บชัยชนะรวด 2 นัดแบบไม่เสียประตู ถือเป็นการเริ่มงานใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ ซึ่งหากเขาพาทีมเก็บชัยชนะได้อีกเหนือ วัตฟอร์ด ก็จะทำให้เขากลายเป็นกุนซือ "ไก่เดือยทอง" คนแรกที่พาทีมออกสตาร์ตคว้าชัย 3 นัดแรกทุกนัดบนลีกสูงสุด

    ซน ฮึง-มิน ซัดประตูใส่ วัตฟอร์ด บนศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 5 ประตู ซึ่งมีแค่ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมเดียวเท่านั้นที่เขาทำสกอร์ได้มากกว่า (9)

    การออกไปเล่นเกมเยือน 7 นัดหลังในศึก พรีเมียร์ลีก ของ "แตนอาละวาด" แพ้รวดทุกนัด และ 5 จาก 7 นัดไม่สามารถทำประตูเจ้าบ้านได้เลย

    หลังจากที่บุกเอาชนะได้ใน 3 นัดแรกที่ออกปไปเยือนรังของ สเปอร์ส เมื่อระหว่างปี 1982-1985 หลังจากนั้น วัตฟอร์ด ก็แพ้กลับออก 9 จาก 10 นัดหลัง(เสมอ 1)

    "วูล์ฟส์-แมนยู"

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เกมเยือนในลีกมาแล้ว 27 นัด(ชนะ 17 เสมอ 10) ซึ่งหากเกมนี้พวกเขาออกจาก โมลินิวซ์ กราวด์ ด้วยผลชนะหรือเสมอ ก็จะทำให้ "ปีศาจแดง" สร้างสถิติเป็นทีมที่ไม่แพ้เกมเยือนติดต่อกันนานที่สุดในประวัตศาสตร์ฟุตบอลลีก อังกฤษ

    นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1967 เป็นต้นมา วูล์ฟส์ ไม่เคยแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง 2 นัดติดต่อกันเลย โดยผลล่าสุดเมื่อซีซั่นก่อนพวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ "เร้ด เดวิลส์" 1-2

    อย่างไรก็ตาม ทีม"หมาป่า" แพ้เกมในบ้านตัวเองติดต่อกันมาแล้วถึง 5 นัด และทำประตูใส่คู่แข่งได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น

    เมสัน กรีนวู้ด มีโอกาสเป็นนักเตะดาวรุ่งคนที่ 2 ที่สามารถทำประตูได้ในการออกสตาร์ท 3 เกมแรกของศึก พรีเมียร์ลีก ต่อจาก ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 1994/95