ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เมสซี่ ลา,ลินการ์ดทนอยู่! 5 เหตุการณ์สุดเศร้าปนผิดหวังตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้

เมสซี่ ลา,ลินการ์ดทนอยู่! 5 เหตุการณ์สุดเศร้าปนผิดหวังตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้

Posted 04/09/2021 by siamsport

 ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สุดเซอร์ไพรส์จริงๆ เพราะใครจะไปเชื่อว่าในยุคที่มีการแพร่ระบายของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสโมสรฟุตบอลโดนผลกระทบด้านการเงินมากมาย กลับมีดีลระดับโลกเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่น่าเชื่อ
     อย่างในกรณีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทุ่มเงินมหาศาลถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) คว้าตัว แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอังกฤษ มาจาก "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า หรือ เชลซี ควักกระเป๋า 97 ล้านปอนด์ (ราว 4,268 ล้านบาท) ดึง โรเมลู ลูกากู กลับจาก อินเตอร์ มิลาน กลับสู่อ้อมกอด "สิงโตน้ำเงินคราม" อีกครั้ง

     รวมไปถึงการย้ายออกจากบ้านอันเป็นที่รักของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่จำใจลา บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือการหวนกลับบ้านหลังที่สองของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     แม้หลายคนหลายสโมสรจะได้สุขสมหวังกับตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ แต่ก็มีบางคนที่ต้องผิดหวังกับการต้องแยกทางจากสโมสรที่ปลุกปั่น หรือบางทีมที่เซ็งจิตกับการพลาดคว้าแข้งเป้าหมายไปอย่างน่าเจ็บปวด 

     แล้วมีนักเตะคนไหนหรือสโมสรใดที่ต้องพบกับความผิดหวังในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้บ้าง ไปดูกันดีกว่า
 

1. ลิโอเนล เมสซี่ อำลา บาร์เซโลน่า
     การย้ายไปเล่นให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมงของ เมสซี่ มีเหตุผลอะไร เขาอยากได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหรอ ? หรือต้องการเล่นร่วมกับ เนย์มาร์ อีกครั้ง ! แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าตัวต้องเดินทางไปทำมาหารับประทานที่ฝรั่งเศส


     เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ เติบโตและยิ่งใหญ่จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกตลอดกาล กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเขานับตั้งแต่ที่อำลาถิ่นกำเนินในประเทศอาร์เจนตินา ตั้งแต่เยาว์วัย

     หากถาม เมสซี่ ว่าต้องการย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู ไหม ? คำตอบร้อยเปอร์เซนต์ว่า "ไม่" อยู่แล้ว คิดดูก็แล้วกันว่าเขายอมลดค่าเหนื่อยถึง 50 เปอร์เซนต์เพื่อช่วยสถานะการเงินของสโมสร แต่ก็ไม่สำเร็จ

     ความล้มเหลวในการบริหารงานของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ในช่วงที่นั่งเก้าอี้ประธานสโมสรได้สร้างหนี้มากมายมหาศาลให้กับทีม แม้สโมสรกับ เมสซี่ พยายามทำทุกวิถีทางแล้วแต่สุดท้ายตามกฎของ ลา ลีกา เรื่องฐานเงินเดือนนักเตะต้องไม่เกินที่กำหนดเอาไว้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องจบชีวิต 21 ปีแสนสุขกับ "เจ้าบุญทุ่ม" ไปด้วยคราบน้ำตา และความเจ็บปวด

     สิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกโดยเฉพาะสาวกบาร์เซโลน่า รู้สึกเสียดายที่สุดก็คือ เมสซี่ ไม่ได้แขวนสตั๊ดกับสโมสรที่เขาสร้างชื่อกระฉ่อนโลก !!
 

2. ลินการ์ด ต้องทนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป
     สำหรับบางคนการได้อยู่กับสโมสรใหญ่และคว้าแชมป์มากมาย แม้จะไม่ได้ลงสนามก็พอใจ ไม่คิดกระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อไปเติบโต โดยยอมที่จะเป็นหางราชสีห์มากกว่าจะเป็นหัวสุนัข !

     กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในหัวของ เจสซี่ ลินการ์ด เลย เพราะเขาต้องการที่จะลงสนามเพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพของตัวเอง หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตอนที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อช่วงครึ่งซีซั่นหลังเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

     มันน่าเสียดายตรงที่กุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่กล้าที่จะใช้งาน ลินการ์ด หรืออาจจะไม่เชื่อมั่นในฝีเท้าของเขา ทำให้ตำแหน่งประจำของ ดาวเตะเลือดผู้ดี ต้องอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้

     แม้ โซลชา ไม่กล้าใช้ แต่สำหรับ เดวิด มอยส์ นายใหญ่ "ขุนค้อน" มองเห็นความสามารถของ ลินการ์ด และรู้ว่าจะต้องใช้งานเขายังไงเพื่อให้นักเตะระเบิดฟอร์มเก่งออกมา ซึ่งก็แสดงให้เห็นแล้วจากผลงานในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม โดยนำ เวสต์แฮม จบอันดับท็อปซิกซ์อย่างงดงาม

      น่าเสียดายที่ ลินการ์ด ไม่ได้ย้ายไปเล่นกับ เวสต์แฮม และทำให้เขาต้องปักหลักสู้ต่อไปเพื่อแย่งตำแหน่งในทัพ "ปีศาจแดง" แต่ดูเหมือนว่าโอกาสของเขาที่จะได้ลงสนามคงหนีไม่พ้นฟุตบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ หรือ คาราบาว คัพ เท่านั้น ส่วนเกมลีกทำใจไปได้เลย


3. รถขันหมาก แมนฯ ซิตี้ สู่ขอ โรนัลโด้ เบรกแตกโค้งสุดท้าย
     ช่วงโค้งสุดท้ายตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ไม่มีข่าวไหนฮือฮาเท่ากับกรณีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เตรียมเก็บเสื้อผ้าอำลา "ม้าลาย" ยูเวนตุส โดยมีเป้าหมายไปที่เมืองแมนเชสเตอร์ แต่ไม่ใช่ฝั่งสีแดง เพราะเป็นฝั่งสีฟ้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

     เรื่องดังกล่าวถือมีมูลความจริงมากๆ เพราะสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันเป๊ะ และงานนี้ทำเอาสาวก "เร้ดส์ อาร์มี่" รวมทั้งบรรดาตำนานของสโมสร และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเดินเรื่องเพื่อติดกับ "เฮียโด้" เป็นการส่วนตัว โดยหวังโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจ

     เพียงแค่ 12 ชั่วโมงหลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องกินแห้วกระป๋องโต เมื่อ โรนัลโด้ ประกาศพลิกลิ้นเลือกกลับมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สโมสรที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเขา ที่สำคัญ "ผีแดง" ยังให้ความประทับใจด้วยการมอบเสื้อเบอร์ 7 ซึ่งเจ้าตัวใส่ก่อนอำลาทีมไปเมื่อ 12 ปีก่อน สวมใส่ในการหวนคืนรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คำรบ 2

     แม้หากมองจากความเป็นจริงถ้า โรนัลโด้ ย้ายมาทำงานร่วมกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จมีมากเหลือเกิน แต่หัวใจของ "ซีอาร์ 7" มันเรียกร้องสิ่งนี้ และแน่นอนว่าแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกคนต่างดีใจที่เห็น "ฮีโร่" ของพวกเขากลับมากู้วิกฤติ เพื่อนำความสำเร็จคืนสู่สโมสรอีกครั้ง 


4. วูล์ฟส์ อดได้ เรนาโต้ ซานเชส ในวันสุดท้าย
     คืนก่อนที่ตลาดจะปิดตัว มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส พยายามที่จะเจรจาดึง เรนาโต้ ซานเชส กองกลางชั้นดีทีมชาติโปรตุเกส กลับมาโชว์ฝีเท้าในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกครั้ง

     ย้อนอดีตไปหน่อย ซานเชส คือมีโอกาสมาเล่นในพรีเมียร์ลีก กับ สวอนซี ซิตี้ แบบยืมตัวจาก บาเยิร์น มิวนิค แต่ผลงานไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก หลังจากนั้นเจ้าตัวย้ายไปอยู่กับ ลีลล์ และระเบิดฟอร์มนำทีมคว้าแชมป์ ลีก เอิง เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนจะมาโชว์ฟอร์มเลิศหรูให้ โปรตุเกส ในศึกยูโร 2020 ด้วย

     บรูโน่ ลาช กุนซือ "หมาป่า" ซึ่งเคยทำงานกับ ซานเชส มาก่อนหน้านี้ ต้องการที่จะหานักเตะมาเสริมทัพเพื่อเล่นเคียงข้าง รูเบน เนเวส และ ชูเอา มูตินโญ่ แน่นอนว่าชื่อของ ซานเชส คือเบอร์ 1 ในใจของเขา

      วูล์ฟส์ หวังจะนำ ดาวเตะวัย 24 ปีมาเล่นแบบยืมตัวพร้อมออปชั่นซื้อขาด แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงยืมกับ ลีลล์ ได้ส่งผลให้ดีลต้องล่มไปโดยปริยาย ทำให้ทัพ "หมาป่า" ต้องพลาดโอกาสำคัญในการเสริมทัพไปอย่างน่าเจ็บปวด


5. เอ็มบัปเป้ ได้แต่ร้องเพลงรอ เรอัล มาดริด
     เรอัล มาดริด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มาร่วมทัพให้ได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ และพร้อมทุ่มเงินมหาศาลมากกว่า ทั้งๆ ที่นักเตะเหลือสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แค่ปีเดียวเท่านั้น และดูเหมือนเขาจะไม่ขยายสัญญาใหม่ซะด้วย

     "โลส บลังโกส" พยายามโน้มน้าว "เปแอสเช" ให้ปล่อย หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส มาอยู่ร่วมกับพวกเขา ด้วยการหยั่งเชิงด้วยข้อเสนอแรกจำนวน 160 ล้านยูโร (ราว 6,400 ล้านบาท) แต่ก็โดนปฏิเสธไปแบบไม่ใยดี

     อย่างไรก็ตาม ทีมของกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ ได้พยายามอีกครั้งด้วยการยื่นข้อเสนอใหม่ด้วยเม็ดเงินจำนวน 170 ล้านยูโร (ราว 6,800 ล้านบาท) บวกออปชั่นอีก 10 ล้านยูโร (ราว 400 ล้านบาท) คำตอบก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะ แซงต์-แชร์กแมง ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อย่าง
   
     จนกระทั่ง เรอัล ทุ่มแบบไม่ยั้งด้วยการยื่นข้อเสนอครั้งที่ 3 ด้วยจำนวน 200 ล้านยูโร (ราว 8,000 ล้านบาท) ก่อนจะถึงเส้นตายตลาดซัมเมอร์ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ และตัวเลขขนาดนี้ "เปแอสเช" อาจจะเปลี่ยนใจยอมปล่อย เอ็มบัปเป้ มาสู่ถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว

     แต่ก่อนที่ แซงต์-แชร์กแมง จะได้ตอบ "YES" ,"NO" หรือ "OK" อยู่ดีๆ "ราชันชุดขาว" กลับลำพับข้อเสนอทั้งหมดเก็บเรียบวุธ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมาเหนือเมฆ ด้วยการรอให้ถึงช่วงเดือนมกราคมปีหน้า เพราะหากนักเตะยังไม่ต่อสัญญาใหม่กับ "เปแอสเช" เขาจะมีสิทธิ์เซ็นสัญญาล่วงหน้าเพื่อย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2022

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »