ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 4 มีบรรดาแข้งทีมใหญ่พาเหรดติดเข้ามามากมาย โดยเฉพาะ เชลซี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ส่งมารวมกันถึง 6 คน ส่วนคนอื่น ๆ จะมีใครบ้าง ไปดูกันได้เลย
   
ผู้รักษาประตู : เอดูอาร์ เมนดี้ (เชลซี)

โชว์ฟอร์มเซฟให้แฟน ๆ เชลซี เห็นหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งหากไม่มีนายด่านทีมชาติเซเนกัล รายนี้แล้วล่ะก็ "สิงห์บลูส์" อาจไม่ได้ชนะด้วยสกอร์ท่วมถ้นถึง 3-0

เมนดี้ ป้องกันประตูไปทั้งสิ้น 6 ครั้ง และนับตั้งแต่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุม เชลซี เจ้าตัวเก็บคลีนชีตไปทั้งหมด 12 นัด มากที่สุดในบรรดาผู้รักษาประตู พรีเมียร์ลีก

กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

มีส่วนกับการได้ประตูของ "หงส์แดง" เมื่อเขาเติมเกมบุกอันเป็นของถนัดทำแอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ ชาร์จบอลเข้าประตู

เทรนท์ บันทึกตัวเลขแอสซิสต์ไปแล้ว 35 ครั้งบนเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 22 ปี 340 วัน ซึ่งในประวัติศาสตร์มีแค่ เชส ฟาเบรกาส, เวย์น รูนี่ย์ และ ไรอัน กิ๊กส์ เท่านั้นที่ทำได้ตอนอายุน้อยกว่าเขา

กองหลัง : เฟอร์นานโด มาร์ซาล (วูล์ฟส์)

ในที่สุด วูล์ฟส์แฮมป์ตัน ก็เจาะตาข่ายคู่แข่ง และเก็บชัยชนะได้สักที โดยทั้งสองประตู วิงแบ็กเลือดแซมบ้ามีส่วนกับทั้งสองลูก

กองหลัง : ลุค ชอว์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

โชว์ไหวพริบ แทงบอลทะลุช่องจ่ายให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พังประตูที่สอง โดยในเกมนี้ ชอว์ เป็นผู้เล่น "ปีศาจแดง" ที่สร้างโอกาสได้มากที่สุด (4 ครั้ง)

กองกลาง : เบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้)

กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจ หลังทำผลงานได้ดีจากเกมทีมชาติ โดยแข้งโปรตุกีส ทำประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ในรอบ 10 นัด นับตั้งแต่สอยตาข่าย เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

กองกลาง : มัตเตโอ โควาซิช (เชลซี)

ขับเคลื่อนเกมแดนกลางให้กับ เชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ทั้งลูกคิลเลอร์พาสให้ โรเมลู ลูกากู หลุดไปเบิกสกอร์แรก รวมถึงเก็บส้มหล่นจาก ไทโรน มิงส์ เข้าไปสังหารประตูอย่างเฉียบขาด

กองกลาง : ฟาบินโญ่ (ลิเวอร์พูล)

แม้จะโดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม แต่จากนั้น ฟาบินโญ่ ก็ประคองตัวยกระดับแผงกลางของ "หงส์แดง" ได้ดีเอามาก ๆ ตัดบอลได้ถึง 5 ครั้ง และทำประตูได้ด้วย

กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เป็นตัวคอยขับเคลื่อนเกมรุก แม้บทบาทเข้าหากรอบประตูจะน้อยลงไป ก่อนที่จะมีประตูสุดสวยจากลูกยิงนอกกรอบ

กองกลาง : แอนดรอส ทาวเซนด์ (เอฟเวอร์ตัน)

ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุด ๆ ทั้งลูกครอสให้ ไมเคิ่ล คีน โขกทำประตูตีเสมอ ก่อนจะมายิงไกลสุดสวยส่งบอลซุกก้นตาข่ายให้ เอฟเวอร์ตัน พลิกกลับมานำ เบิร์นลี่ย์ และเอาชนะไปได้ 3-1 ในที่สุด

กองหน้า : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เป็นแมตช์คัมแบ็กที่ผลลัพธ์ออกมาราวกับความฝัน สองประตูของ โรนัลโด้ มาจากการเข้าทำที่แตกต่างกัน โดยลูกแรกอาศัยไหวพริบการพังประตู ส่วนลูกสองพิสูจน์ให้เห็นว่าความเร็วและความเฉียบคมของเขายังไม่หมดไป

ในวัย 36 ปี 218 วัน โรนัลโด้ กลายเป็นผู้เล่น พรีเมียร์ลีก ที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ นับตั้งแต่ เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ทำประตูให้ เบิร์นลี่ย์ ใส่ ฮัลล์ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2010 (38 ปี 182 วัน)

กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (เชลซี)

ในวันที่ โรนัลโด้ โชว์ผลงานกระชากใจแฟนบอล ตัดภาพมายังกรุงลอนดอน ลูกากู ก็ทำให้แฟนบอลที่ เดอะ บริดจ์ ได้สะใจเช่นกัน

กองหน้าเบลเจี้ยน ทำสองประตูจากการยิงสุดเฉียบคม ซึ่งประตูที่ทำได้นี้คือลูกแรกที่เขาทำสกอร์ได้ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์