แมนฯ ยูไนเต็ด แผลงฤทธิ์ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ไม่ดีพออีกตามเคยจากการลงเล่นศึก พรีเมียร์ลีก นัดเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล คลำเป้าเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนบอลเจ้าบ้านได้ก่อน แต่ก็มาโดน แอนดรอส ทาวน์เซนด์ สอยตาข่ายแบ่งแต้มกลับออกไป
    
ว่ากันตามรูปเกม เจ้าบ้านมีโอกาสกำชัยชนะมากกว่า แต่เรื่องเซอร์ไพรส์ก็บังเกิดเนื่องจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ใส่ชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหอกคนดังเป็นแค่ตัวสำรอง และแม้จะส่งฮีโร่ในเกมกลางสัปดาห์ทำศึก แชมเปียนส์ลีก นัดเฉือนเอาชนะ บียาร์เรอัล ไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดลงบู๊ในครึ่งหลัง แต่สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำอยู่ดี

จากผลเสมอในเกมที่ โรงละครแห่งความฝัน แน่นอนว่า ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เป็นฝ่ายแฮปปี้อย่างแรงที่กีดขวางไม่ให้ ปีศาจแดง เก็บสามแต้มเต็มเข้ากระเป๋า
 
และนี่คือห้าประเด็นหลักอันเป็นบทสรุปของการดวลเกือกกันระหว่างทีม อสูรแดง กับทีมตราลูกอม

1.แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีเรื่องให้ต้องปรับปรุงอีกเพียบและเพียบ

บียาร์เรอัล อาจตกเป็นเหยื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อกลางสัปดาห์ แต่นัดปะทะกับ เอฟเวอร์ตัน เจ้าบ้านไม่ได้มากับดวงเป็นซ้ำสองอีก

แม้จะคับคั่งไปด้วยนักเตะนามกระเดื่องชนิดเต็มอัตรา แต่ เร้ด เดวิลส์ ก็ไม่ได้เหนือกว่า เรือดำน้ำสีเหลือง ทีมจากเมืองกระทิงที่เปี่ยมไปด้วยพิษสงแต่อย่างใด นอกซะจากว่าทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาได้ทีเด็ดจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พาทีมกำชัยได้แบบรากเลือด

ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นสัญญาณเตือนเจ้าของโรงละครแห่งความฝันดังจะเห็นว่า เอฟเวอร์ตัน ก็มีโอกาสพาบอลบุกขึ้นมาสร้างความเสียวซ่านบริเวณหน้าปากประตูของพวกเขามากไม่ใช่เล่นเช่นกัน

และที่สำคัญ ต่อให้ทีมของกุนซือสแปนิชจะตาข่ายขาดก่อน แต่เอาเข้าจริงพวกเขาก็ได้ประตูตีเสมออย่างสมควรไม่น้อย

มันจึงฟ้องให้เห็นว่าหลายต่อหลายครั้งแล้วที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่ายเพลงแข้งกันได้ต่ำกว่าความคาดหมายอย่างที่ควรจะเป็น และมันทำให้นายใหญ่หน้าทารกพาทีมคืบคลานไปข้างหน้าได้อย่างเชื่องช้ากับการถูกวิจารณ์ว่าไม่อาจสร้างทีมให้เล่นเกมรุกได้อย่างรวดเร็วปรู๊ดปร้าดมากพอ

รวมแล้วจึงสมควรต้องยกเครดิตให้กับ เอฟเวอร์ตัน ไปเต็มๆ แถมมันแสดงให้เห็นเช่นกันว่า ราฟาเอล เบนิเตซ มีแววพาทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ชุดนี้บินสูงได้แน่

แต่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ใครจะกล้าวางเดิมพันว่าพวกเขาจะมีโทรฟี่ใบใหญ่ติดมือในซีซั่นนี้ในเมื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคุมทีมย่ำอยู่กับที่ไม่เลิก และวนลูปจนแฟนบอล ผีแดง พากันอ่อนอกอ่อนใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

2. อองโตนี่ มาร์กซิยาล ฉวยโอกาสเอาไว้จนได้

เห็นๆกันอยู่ว่าสตาร์เฟรนช์แมนไม่ได้ถูกส่งลงสนามเป็นประจำในทุกๆสัปดาห์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เขาจะต้องคว้าโอกาสของตัวเองเอาไว้ให้จงได้

เท่าที่ผ่านมา มีการซุบซิบกันว่าเขาจะไปจากทีมในช่วงซัมเมอร์ และหลายคนเชื่อว่ามันน่าจะเป็นปีสุดท้ายของเขากับรั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ในเกม คาราบาวคัพ นัดพ่ายต่อ เวสต์แฮม ก็ยิ่งทำให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด พากันส่ายหน้าไปกับฟอร์มการเล่นของอดีตดาวเตะทีม โมนาโก รายนี้มากขึ้นเป็นทวีคูณ

อย่างไรก็ดี ในเกมต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน แม้พ่อค้าแข้งเลือดน้ำหอมจะพลาดโอกาสตั้งแต่ไก่โห่ซึ่งน่าจะลดทอนความเชื่อมั่นในตัวเองลงไปอีก แต่ในที่สุดเจ้าของเสื้อหมายเลข 9 ก็เบิกสกอร์แรกของเกมจนได้ก่อนที่เวลาในครึ่งแรกจะหมดลง

พูดได้เลยว่า อองโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นนักเตะที่มีผลงานขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังได้รับการสนับสนุนจากเจ้านายชาวนอร์วีเจี้ยนซึ่งวาดหวังเอาไว้ตลอดเวลาว่าลูกรักลูกชังรายนี้จะกลับมาร่ายเพลงเตะได้อย่างจัดจ้านเต็มศักยภาพ

น่าเสียดายก็แค่ว่าน้องหมากโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 56 ให้ เจดอน ซานโช่ ลงไปวาดลวดลายแทนซึ่งเชื่อกันว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกรงว่าเจ้าตัวจะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเพิ่มเติม หาไม่แล้วเขาก็น่าจะมีเกมในแง่บวกมากกว่าที่เป็นไป

3. น้าลูกอมเปลี่ยนตัวเพื่อ?

สุดท้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็โดนดร็อปจนได้ และแม้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะให้เหตุผลว่าต้องการเปิดโอกาสให้สตาร์ตัวฉกาจได้พักแข้งพักขาบ้างก็เท่านั้น แต่การตกเป็นตัวสำรองย่อมทำให้ดาวยิงชื่อก้องผู้ไม่เคยมีคำว่าเหนื่อยอยู่ในหัวสบอารมณ์สักเท่าไหร่

ไม่มีใครปฏิเสธว่าการย้ายกลับถิ่นเก่าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รังแต่จะทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีความน่าเกรงขามมากขึ้น หากแต่ปัญหาคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จำเป็นที่จะต้องทำให้ลูกทีมทุกรายในสังกัดแฮปปี้ให้จงได้

โดยเฉพาะทั้ง อองโตนี่ มาร์กซิยาล และ เอดินสัน คาวานี่ ที่ต้องอดทนมากเป็นพิเศษ แม้เกมนี้ทั้งสองจะได้ลงเล่นก่อนหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วไหนยังจะมี ปอล ป็อกบา และ เจดอน ซานโช่ ที่ต้องการความเอาใจใส่จากผู้เป็นนายเช่นกันแม้ในวันที่มีฟอร์มไม่สู้ดีก็ตาม

ฉะนั้นแล้ว การบริหารจัดการกับนักเตะจึงเป็นงานสุดโหดของกุนซือมาดนิ่ง อีกทั้งเขายังต้องพยายามพาทีมกำชัยชนะให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

จะอย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนตัวผู้เล่นแบบยกแผงนับเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป ดังคำกล่าวที่ว่าหากทีมชนะ คุณก็จะเป็นอัจฉริยะ แต่ถ้าคุณแพ้หรือเสมอขึ้นมา มันก็ย่อมเป็นไปในทางที่ตรงกันข้ามนั่นเอง

4. ใครไม่งงที่ เลสเตอร์ ลอยแพ เดมาราย เกรย์

มีการตั้งคำถามดังกระหึ่มว่า เลสเตอร์ คิดยังไงถึงปล่อยนักเตะอย่าง เดมาราย เกรย์ ให้พ้นไปจากทีม

แต่ที่แน่ๆ เอฟเวอร์ตัน ได้พ่อค้าแข้งที่เต็มไปด้วยความสามารถเข้ามาเสริมทัพในราคาที่เกินกว่า 1 ล้านปอนด์เล็กน้อยซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันทำให้เขาก้าวเข้าสู่ทำเนียบการเซ็นสัญญาที่แสนคุ้มค่าของปีนี้ไปแล้ว

สมัยเป็นขุนพลทีม เดอะ ฟ็อกซ์ เดมาราย เกรย์ สานฟอร์มที่ต่อเนื่องไม่สำเร็จ และไม่อาจยึดตำแหน่งในทีมตัวจริงเอาไว้ได้แม้จะแจ้งเกิดได้ไม่เลวในเกมบุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน เมื่อปี 2016

แต่หลังจากย้ายไปวาดลวดลายในเมืองเบียร์ เดมาราย เกรย์ ก็เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และมันเป็นสิ่งที่เราท่านแทบไม่เคยเห็นจากตัวเขามาก่อน

ต่อเกมบุกมาฟัดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับว่าดาวเตะผิวสีมีผลงานที่น่าประทับใจ แถมมีบทบาทช่วยให้ เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอได้ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเจ้าตัวมีคุณสมบัติไม่ด้อยไปกว่าใครเลย

5. ดาบิด เด เคอา ตายแล้วฟื้นอย่างเต็มตัว

ย้อนเวลากลับไปเมื่อซีซั่นก่อน ดาบิด เด เคอา ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมที่จะยึดตำแหน่งนายทวารมือหนึ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด เรื่อยไปจนถึงขนาดว่าเขายังจะมีอนาคตกับ ผีแดง ต่อไปอีกหรือ
 
มันเป็นเพราะว่าสโมสรมีประตูฝีมือดีอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน ที่พร้อมสอดแทรกก้าวขึ้นไปเบียดแย่งตำแหน่งจากมือกาวชาวสแปนิช แถมหลายเสียงระบุตรงกันว่าเขามีฝีไม้ลายมือที่แจ๋วกว่าอดีตสมาชิกทีม แอตเลติโก มาดริด ไปแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ในวันที่เข้าฟอร์ม ดาบิด เด เคอา ไม่เคยทำให้สาวก อสูรแดง ต้องผิดหวัง และเซฟประตูได้พัลวันราวกับผีเข้าจนทำให้วันเวลาเก่าๆของเขาฉายภาพคืนมาอีกวาระ

อย่างเมื่อเกมกลางสัปดาห์กับ บียาร์เรอัล ในถ้วยบิ๊กเอียร์ที่มนุษย์วานรออกแรงเซฟลูกยากชนิดนับครั้งไม่ถ้วน และมันทำให้เขากลับมาเป็นขวัญใจของแฟนบอลแห่งถิ่น โอลด์ แทร็อฟฟอร์ด อย่างเต็มตัวเหมือนเก่าจนได้

กระทั่งเกมฉะกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งอาคันตุกะมีโอกาสเช็คบิลหลายหนในช่วงครึ่งแรก ดาบิด เด เคอา ก็งัดฟอร์มเทพออกมาช่วยทีมได้อย่างน่ายกนิ้วให้ โดยเฉพาะการปัดป้องลูกตะบันของ เดมาราย เกรย์ แต่สำหรับจังหวะซัดประตูตีเสมอของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ มันเป็นเรื่องที่จนปัญญาอย่างแท้จริงสำหรับนายทวารเลือดกระทิงดุ

จะอย่างไรก็ตาม มันบ่งบอกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ณ บัดนี้ ดาบิด เด เคอา เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้แบบเต็มร้อยแล้วต่อการยึดครองเสื้อหมายเลขหนึ่งของถิ่นเธียเตอร์ ออฟ ดรีม