ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่า คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าแห่งอนาคตทีมชาติฝรั่งเศส ต้องการที่จะย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพื่อไปหาประสบการณ์ใหม่ในลีกอื่น โดยเป้าหมายคงหนีไม่พ้นการได้สวมชุด เรอัล มาดริด สโมสรที่เขาหลงใหลได้ปลื้มมาตั้งแต่เยาว์วัย

เอ็มบัปเป้ ให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดผ่านรายการ RMC Sport  ที่มี เฌโรม โรเต็น อดีตกองกลางเปแอสเช, โมนาโก และทีมชาติฝรั่งเศส เป็นพิธีกร ยืนยันจุดยืนของตัวเองว่าต้องการแยกทางกับ "เปแอสเช" ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ล่าสุด

แม้สุดท้ายนักเตะจะไม่ได้ย้ายทีมอย่างที่ตั้งใจ แต่การออกมาพูดแบบนี้เป็นการเปิดเผยความต้องการอย่างชัดเจน ฉะนั้นโอกาสที่ แซงต์-แชร์กแมง จะพยายามโน้มน้าวให้เขาขยายสัญญาใหม่แทนที่สัญญาเดิมที่เหลืออยู่ปีสุดท้าย น่าจะแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นทีมที่น่าจะได้ตัว เอ็มบัปเป้ มากที่สุด คงต้องเตรียมขยับตัวทันที หลังจากที่พวกเขาเคยพยายามมาแล้วในช่วงเดดไลน์ตลาดนักเตะรอบแรกเมื่อเดือนสิงหาคม แต่สุดท้ายข้อเสนอจำนวนมหาศาลโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

อย่างไรก็ตามการที่ เอ็มบัปเป้ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ก็เหมือนเป็นการโยนระเบิดลูกใหญ่ใส่ต้นสังกัด และงานนี้บอร์ดบริหาร "ราชันชุดขาว" น่าจะถือไฟ่เหนือกว่าในการยื่นข้อเสนอให้นักเตะเพราะเดือนมกราคมนี้ เขาสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้า และย้ายมาแบบฟรีๆ เมื่อจบฤดูกาลนี้ หรือ "เปแอสเช" จะยอมรับข้อเสนอราคาถูกเพื่อปล่อยนักเตะไปเลยในช่วงฤดูหนาว

หาก "โลส บลังโกส" ได้ตัว เอ็มบัปเป้ มาร่วมทีมแน่นอนว่าคนที่โดนผลกระทบเต็มๆ คงหนีไม่พ้น เอแด็น อาซาร์ เพราะปัจจุบันเขาก็ต้องเจองานยากลำบากในการเบียดแย่งตำแหน่งกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และถ้า ดาวยิงเลือดเฟร้นช์ วัย 23 ปีย้ายมาร่วมทีม น่าจะกลายเป็นฝันร้ายของ เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียมแน่นอน

สำหรับเกมรับ คาร์โล อันเชลอตติ เทรนเนอร์จอมเก๋า ยังคงไว้วางใจให้ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทำหน้าที่ยืมเฝ้าเสาเป็นมือ 1 ต่อไปในฤดูกาลหน้า ขณะที่แผงแบ็กโฟร์จะเป็น ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา และ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ขณะที่ มาร์เซโล่ คงจะไม่อยู่กับทีมอีกแล้ว ส่วน นาโช่ เฟร์นานเดซ อาจจะถูกขยับขึ้นไปเล่นตำแหน่งปีก

อย่างไรก็ตาม อันเชลอตติ สามารถปรับเปลี่ยนแท็กติกเพื่อให้เหมาะสมในการเจอคู่แข่งแต่ละประเภทโดยตำแหน่งแบ็กโฟร์ อาจจะเปลี่ยนไปใช้ นาโช่ แทนที่ มิลิเตา ส่วนแดนกลางหากต้องการได้ความดุดันและรวดเร็ว ก็อาจต้องถอด โครส ออกเพื่อให้แข้งที่มีความดุดันอย่าง บัลเบร์เด้ เข้ามาเติมเต็ม

ในส่วนในแดนหน้าถ้า "คาร์เล็ตโต้" ต้องการความวูบวาบจากแนวรุกทางกราบ เขาอาจจะใช้งาน อาซาร์ ไปยืนทางฝั่งซ้าย และขยับ เอ็มบัปเป้ ไปเล่นทางขวา โดยปล่อยให้ เบนเซม่า ยืนทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า ซึ่งเรื่องความเฉียบคมในการยิงประตูเรื่องคุณภาพของ "เบนซ์" ได้เลย

ขณะที่ คาเซมิโร่ ยังคงเป็นตัวหลักในแผงกองกลาง ส่วน โทนี่ โครส น่าจะได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามคอยคุมจังหวะการเล่น สำหรับ ลูก้า โมดริช มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะต้องโดนดร็อปไปเป็นตัวสำรอง

งานนี้ "อันเช่" คงจะใช้งาน เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า ลงไปกระชากลากเลื้อย ส่วน เฟเด บัลเบร์เด้ จะทำหน้าที่เติมเต็มตำแหน่งของ โครส ที่อายุมากแล้ว และอาจจะไม่สามารถยืนระยะการเล่นได้นานเหมือนเดิม

สำหรับเกมรุก วินิซิอุส จูเนียร์ คงจะได้ลงเล่นทางฝั่งซ้ายซึ่งน่าจะทำให้เขาระเบิดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ โรดรีโก้ ในส่วนของ เอ็มบัปเป้ จะยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ คาริม เบนเซม่า ต้องหลบทางให้กับแข้งรุ่นน้อง และคอยเป็นกำลังเสริมเมื่อทีมต้องการสร้างความแตกต่าง