กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจใจระดับหนึ่ง หลังจากที่ เนย์มาร์ กองหน้าตัวความหวังของทีมชาติบราซิลออกมาประกาศเองว่าศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพในปีหน้านั้น น่าจะเป็นการลงเล่น ฟุตบอลโลก ครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าไม่มั่นใจว่าหลังจากนั้นตนจะมีสภาพจิตใจแข็งแกร่งพอที่จะลงเล่นแบบต่อเนื่องอีกหรือไม่
   
ถึงแม้คำว่า "ฟุตบอลโลก ครั้งสุดท้าย" จะไม่ได้แปลว่าเขาจะบอกลาการเล่นให้ทีมชาติ เพราะมันยังเหลือรายการอย่าง โคปา อเมริกา ให้ลงเล่นอีก แต่หลายคนมองว่ามันก็แทบจะเท่ากับการอำลาทีมชาติเลยทีเดียว โดยที่จริงหากถึงตอนที่ศึก ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มขึ้นแล้วนั้น เนย์มาร์ จะมีอายุ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็มีแข้งชื่อดังหลายรายที่ตัดสินใจอำลาทีมชาติด้วยอายุที่ยังดูน้อยพอตัวเหมือนกัน และวันนี้เราจะมาย้อนตัวอย่างสักหน่อยว่าคนเหล่านั้นมีใครบ้าง เผื่อว่าสุดท้ายแล้ว เนย์มาร์ จะตามรอยรุ่นพี่เหล่านั้น

- พอล สโคลส์
ในระดับสโมสรนั้น สโคลส์ ถือเป็นตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองได้เป็นกอบเป็นกำ ที่จริงขนาดแฟนบอลของทีมอื่นยังยอมรับเลยว่า สโคลส์ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกชั้นยอด จนทำให้บางคนยกย่องเขาว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของ อังกฤษ หากเทียบกับคนในรุ่นเดียวกัน

น่าเสียดายที่ชีวิตกับการรับใช้ทีมชาติอังกฤษของ สโคลส์ มันไม่สวยหรูเหมือนตอนเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไฮไลท์ของเขาในการรับใช้บ้านเกิดมีอย่างเช่นการที่ทำประตูได้ตั้งแต่เกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นนัดแรก ในนัดที่ อังกฤษ ชนะ ตูนิเซีย 2-0 ของศึก ฟุตบอลโลก 1998 และการทำแฮตทริกแรกในรอบ 6 ปีของทัพ "สิงโตคำราม" ในเกมที่เจอกับ โปแลนด์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปี 1999

ทัวร์นาเมนท์สุดท้ายในการเล่นให้ อังกฤษ ของอดีตมิดฟิลด์หัวแดงเพลิงคือศึก ยูโร 2004 ในช่วงนั้นเขามักจะถูกจับโยกไปยืนเป็นปีกซ้ายหลายครั้งเนื่องจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถูกใช้งานในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางมากกว่า โดย สโคลส์ ประกาศหันหลังให้ทีมชาติเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2004 พร้อมให้เหตุผลว่าการอยู่กับครอบครัวและการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มันมีความสำคัญมากกว่า ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุแค่ 29 ปีเท่านั้น

- ซามีร์ นาสรี่
แม้ว่าฟอร์มของเขาอาจจะมีหลุดไปบ้างเป็นบางนัด แต่ นาสรี่ ก็ถือเป็นแนวรุกที่มีฝีเท้าโดดเด่นคนหนึ่งของ ฝรั่งเศส หากเทียบกับแข้งในรุ่นเดียวกัน น่าเสียดายที่เขาตัดสินใจอำลาทีมชาติแบบถาวรหลังจากที่ไม่มีชื่อติดทีมชุดลงเล่น ฟุตบอลโลก 2014 ทั้งที่ตอนนั้นเขามีอายุแค่ 27 ปี

อย่างไรก็ตาม หากจะว่าไปแล้วนั้น นาสรี่ ก็เคยบอกเองว่าทุกอย่างเกี่ยวกับทีมชาติมันทำให้เขาทุกข์มากๆ อย่างเช่นการที่เชื่อว่ามีเพื่อนร่วมทีมชาติแอบนินทาเขาลับหลัง และการที่ถูก วิลเลี่ยม กัลลาส กล่าวหาว่าทำตัวอวดดีตอนลงเล่น ยูโร 2008 เป็นต้น โดยถึงแม้ตอนนั้น กัลลาส จะไม่ได้ระบุชื่อ นาสรี่ โดยตรง แต่หลายคนก็ฟันธงเลยว่า กัลลาส หมายถึง นาสรี่ และหลังจากนั้น นาสรี่ ก็ออกมายอมรับเองว่าตนไม่เคยพูดกับ กัลลาส เลย ในตอนที่ยังอยู่ อาร์เซน่อล ด้วยกัน

- อลัน เชียเรอร์
เชียเรอร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่จบสกอร์ได้เฉียบคมมากที่สุดคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ ผลงาน 30 ประตูของเขาที่ทำให้เจ้าตัวเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 7 ร่วมของทัพ "สิงโตคำราม" ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนเขาอายุ 29 ปีนั้น เชียเรอร์ ประกาศตั้งแต่ก่อนจะเริ่มศึก ยูโร 2000 รอบสุดท้ายเลยว่าเขาจะอำลาทีมชาติหลังจบทัวร์นาเมนท์นั้น ทำให้โดยรวมแล้วเขาได้ลงเล่นให้ทีมชาติไปเพียงแค่ 63 เกม พร้อมกับการเคยเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึก ยูโร 1996

- เอริก คันโตน่า
28 ปี คืออายุของ คันโตน่า ในตอนที่เขาหันหลังให้กับทีมชาติ โดยเดิมทีเขาเคยถูกมองว่าเป็นคนสำคัญของทัพ "เลส์ เบลอส์" จนถึงขั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติในตอนที่ เอเม่ ฌักเก้ต์ เข้ามาคุมทีมชาติฝรั่งเศสด้วยซ้ำ

จุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ คันโตน่า กระโดดเตะแฟนบอล คริสตัล พาเลซ ตอนเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จนทำให้โดนแบนยาว โดยเหตุการณ์นั้นมันส่งผลให้เขาโดนแบนจากการเล่นให้ทีมชาติด้วย ซึ่งในช่วงนั้น ฌักเก้ต์ ตัดสินใจให้ ซีเนดีน ซีดาน มารับบทเพลย์เมกเกอร์แทน คันโตน่า และกลับกลายเป็นว่า ซีดาน เล่นได้ยอดเยี่ยมมากๆ จนทำให้ถึงแม้พอถึงตอนที คันโตน่า จะพ้นโทษแบนไปแล้ว แต่ ฌักเก้ต์ ก็ไม่สนใจที่จะเอาเขากลับมาติดทีมอยู่ดี

- แกร์ด มุลเลอร์
แชมป์ฟุตบอลโลกกับ ยูโร อย่างละ 1 สมัย, เคยเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติเยอรมนีด้วยผลงาน 68 ประตูจากการลงเล่น 62 นัด ก่อนที่จะมาโดน มิโรสลาฟ โคลเซ่ ทำลายสถิติในปี 2014 และการเคยเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ฟุตบอลโลก ปี 1970 ทั้งหมดนี้ถือเป็นผลงานที่น่าทึ่งเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า มุลเลอร์ เล่นในนามทีมชาติเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น

เจ้าของฉายา "แดร์ บอมเบอร์" หรือ "ไอ้ลูกระเบิด" บอกลาทีมชาติในตอนที่เขามีอายุ 28 ปี แถมยังเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเพิ่งช่วยให้ เยอรมัน ตะวันตก ได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 1974 มาครองหมาดๆ ด้วย เหตุผลหลักน่ะเหรอ ? เปล่าหรอก มันไม่ใช่เรื่องความล้าหรือการอยากมุ่งมั่นกับการเล่นในระดับต้นสังกัด แต่เป็นเพราะเขาไม่พอใจที่สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) ไม่อนุญาตให้เหล่าภรรยาของนักเตะมาร่วมปาร์ตี้ฉลองแชมป์ ฟุตบอลโลก 1974 ขณะที่บรรดาคนรักของเจ้าหน้าที่ เดเอฟเบ กลับมาร่วมงานปาร์ตี้ได้ต่างหาก