จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม อดีตดาวดังทีม ลิเวอร์พูล ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่แฮปปี้อย่างแรงหลังย้ายมาค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีกเมืองน้ำหอมเนื่องจากไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามจากทีมยักษ์ของ ลีกเอิง อย่างที่คาดหวังเอาไว้
   สตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์เปิดปากแบบไม่อ้อมค้อมต่อชีวิตการค้าเกือกในกรุงปารีสก่อนเกมที่ อัศวินสีส้ม จะดวลกับ ยิบรอลต้า ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อ 11 ต.ค. ว่าไม่มีความสุขแม้แต่น้อย และทำให้เขาหงุดหงิดมาก

   ดาวเตะวัย 30 ปีอำลา เร้ด แมชีน แบบไม่มีค่าตัวเมื่อช่วงซัมเมอร์เนื่องจากตกลงต่อสัญญากับรั้ว แอนฟิลด์ ไม่ได้แม้จะมีผลงานที่ดีกับสโมสรห้าปี และเป็นคีย์แมนอีกรายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันต่อการคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019 และแชมป์ พรีเมียร์ลีก โดยเขาเซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปี หรือจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024 พร้อมรับค่าเหนื่อยราว 150,000 ปอนด์ (ราว 6.6 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

   นอกจากนี้ทีมดังเมืองน้ำหอม ยังดึงซูเปอร์สตาร์อย่าง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, แซร์ฆิโอ รามอส และ ลิโอเนล เมสซี่ เข้ามายิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม อย่างไรก็ตามเมื่อทีมแกร่งมากขึ้น การแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงนั้นยิ่งดุเดือดซึ่งโอกาสการลงสนามไม่เหมือนกับสมัยที่เล่นกับลิเวอร์พูล ด้วยเหตุนี้ ไวจ์นัลดุม จึงได้ลงเป็นตัวจริงเพียง 6 จาก 12 เกม ที่เหลืออีก 5 เกม ก็มาจากม้านั่งสำรอง

    จากความสม่ำเสมอในการลงเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล แต่กลับต้องมานั่งสำรองที่เปแอสเช ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์กับ เอ็นโอเอส ทำให้รู้ว่าเขาไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก

    “พูดตามตรง ผมไม่สามารถพูดได้ว่า ผมมีความสุขอย่างเต็มที่ (ที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) เพราะสถานการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ บางครั้งถ้าคุณไม่ได้เล่น มันก็น่าเป็นห่วง"

       "แต่ฟุตบอลก็เป็นอย่างนี้ และผมจะต้องเรียนรู้เพื่อรับมือกับมัน ผมเป็นนักสู้ ผมต้อมองบวก และทำงานหนักเพื่อพลิกสถานการณ์ให้ได้"

      ขณะเดียวกัน ไวจ์นัลดุม เคยยอมรับก่อนย้ายออกจาก เร้ด แมชีน ว่าแม้จะไม่โอเคกับบอร์ด แต่เขาก็มีความรู้สึกที่ดีกับสาวก เดอะ ค็อป และจะยังเชียร์ ลิเวอร์พูล ต่อไป

 "หากเป็นไปได้ ผมก็อยากกลับมา ผมรู้สึกเหมือนว่ามีครอบครัวอยู่กับสโมสรนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องเดียว"

 "ผมหวังว่าหากเป็นไปได้ ผมจะกลับมาดูเกม และเชียร์ ลิเวอร์พูล เพราะผมจะเป็นกองเชียร์ ลิเวอร์พูล ไปตลอดชีวิต"

    ต้องติดตามกันว่า ไวจ์นัลดุม จะสามารถสอดแทรกตัวเองให้กลับเข้าสู่แผนการของ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลได้หรือไม่ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการจากทีมไปอย่างรวดเร็ว