ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ทางเลือกอื่นก็มี! 4 เหตุผลที่แมนยูควรเซ็น วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แทน ไรซ์ กับ ฟิลลิปส์

ทางเลือกอื่นก็มี! 4 เหตุผลที่แมนยูควรเซ็น วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แทน ไรซ์ กับ ฟิลลิปส์

Posted 13/10/2021 by siamsport

ดูเหมือนว่าตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการเสริมทัพมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น "กองกลางตัวรับ" เพราะนี่คือจิ๊กซอว์ที่น่าจะชี้ชะตาความสำเร็จของทัพ "ปีศาจแดง" ในอนาคตเลยทีเดียว
    
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามอย่างยิ่งที่จะควานหาผู้เล่นตำแหน่งนี้เนื่องจากที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้ง เนมานย่า มาติช กับ เฟร็ด ที่ลงทำหน้าที่ดังกล่าว โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง และไม่สามารถพึ่งพาได้เลย

แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมาชื่อของ เดแคลน ไรซ์ กองกลางเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ คาลวิน ฟิลลิปส์ ห้องเครื่องลีดส์ ยูไนเต็ด ได้รับการเรียกร้องจากสาวก "เร้ด อาร์มี่" ให้สโมสรคว้าคนใดคนหนึ่งมาเสริมทัพให้ได้

อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ของ 2 แข้งที่ยังมีสัญญาผูกมัดกับต้นสังกัด และค่าตัวที่แพงเอาเรื่อง งานนี้ แมนฯ ยูฯ ยังมีทางเลือกที่น่าสนใจอีกรายนั่นก็คือ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ มิดฟิลด์ชั้นดีของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีศักยภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ไรซ์ และ ฟิลลิปส์

เอ็นดิดี้ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ "จิ้งจอกสยาม" ในช่วงหลายซีซั่นที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะโบกมือลาสโมสร เพราะผิดหวังที่่ไม่ค่อยได้ลงเล่นตัวจริงในฤดูกาล 2021/2022

ยิ่งไปกว่านั้นผลงานของ เลสเตอร์ ในเวลานี้ก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะพวกเขาหล่นไปอยู่ในอันดับ 13 ของตารางลีก และยังไม่สามารถชนะใครได้เลยเกมลีก 4 แมตช์ติดต่อกัน นั่นทำให้นักเตะเริ่มคิดเกี่ยวกับการออกไปหาประสบการณ์ใหม่

หลายคนอาจจะคิดว่า เอ็นดิดี้ น่าจะมีศักยภาพด้อยกว่า ไรซ์ และ ฟิลลิปส์ แต่ขอบอกว่าผลงานของ กองกลางทีมชาติไนจีเรีย ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ยิ่งหากอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มเขาก็ไม่เป็นสองรองใครในตำแหน่งนี้ ฉะนั้นมาดูเหตุผลกันว่าทำไม ดาวเตะวัย 24 ปีถึงเหมาะกับ "ปีศาจแดง"
 
1. ประสบการณ์ในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป

เอ็นดิดี้ ถือว่าเป็นนักเตะที่ผ่านสมรภูมิการฟาดแข้งที่เขี้ยวลากดินอย่างในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาได้พิสูจน์ผลงานของตัวเองในระดับเวทีใหญ่สุดในวงการลูกหนังระดับสโมสร 

หลังจากย้ายมาในเดือนมกราคม 2017 กองกลางชาวไนจีเรีย สามารถลงสนามในตำแหน่งตัวจริงให้กับทัพ "เดอะ ฟ็อกซ์" ได้ทันทีในการลงสนามเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปะทะ เซบีย่า

มิดฟิลด์วัย 24 ปี ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดมาตลอดจนกระทั่งทีมร่วงตกรอบการชิงชัยโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" ด้วยฝีเท้าของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ขณะเดียวกันเขายังมีโอกาสลงสนามถึง 11 แมตช์ในการเล่น ยูโรปา ลีก ทั้งกับ เลสเตอร์ และ เคอาร์ซี เกงค์ในลีกเบลเยียม

สำหรับ ฟิลลิปส์ ถือว่าเสียเปรียบอย่างมากเพราะไม่เคยได้ลงเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปทุกรายการ ส่วน ไรซ์ มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขา แต่สำหรับ แชมเปี้ยนส์ ลีก เจ้าตัวก็ไม่เคยได้ลิ้มรสเช่นกัน

2. ไม่มีการเจรจาเรื่องขยายสัญญาใหม่

ไรซ์, ฟิลลิปส์ และ เอ็นดีดี้ มีสัญญาปัจจุบันกับต้นสังกัดจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม มีออปชั่นที่สามารถขยายสัญญากับ ไรซ์ ได้แบบอัตโนมัติ 1 ปี ซึ่งนั่นทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคิดหนักเพราะจะต้องทุ่มเงินสูงมากหากต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีม

นอกจากนี้ สองกองกลางทีมชาติอังกฤษ ยังตกเป็นข่าวมาตลอดว่ากำลังเจรจาเรื่องการขยายสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรของพวกเขา แถมสื่อบางฉบับยังอ้างว่าตอนนี้ ไรซ์ จ่อที่จะต่อสัญญากับ "ขุนค้อน" มะรอมมะร่ออยู่แล้ว

เช่นเดียวกับกรณีของ ฟิลลิปส์ ที่ตอนนี้มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่าการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ของนักเตะก้าวหน้าไปมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะอยู่ในถิ่นเอลแลนด์ โร้ด ต่อไป ที่สำคัญเรื่องนี้คาดว่าน่าจะได้บทสรุปก่อนสิ้นปีนี้ด้วยซ้ำ

สวนทางกับในกรณีของ เอ็นดิดี้ เพราะตอนนี้นักเตะกำลังพิจารณาที่จะย้ายทีม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เขาสามารถย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้มากกว่า ไรซ์ หรือ ฟิลลิปส์

3. ค่าเฉลี่ยการสกัดและตัดบอลสูง

โซลชา ยังไม่สามารถหาผู้เล่นที่เขาต้องการเพื่อมาทำหน้าที่กองกลางตัวรับเนื่องจากทั้ง เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือ มาติช ยังไม่ใช่นักเตะที่ "น้าลูกอม" ไว้วางใจให้มายืนหน้าแผงแบ็กโฟร์

"ผีแดง" มีสถิติเกมรับย่ำแย่ที่สุดเท่ากับ ลิเวอร์พูล ในบรรดาทีมท็อปโฟร์ตอนนี้ โดยพวกเขาเสียประตูไปแล้ว 6 ประตู ฉะนั้นนี่คือปัญหาที่ โซลชา ต้องรีบแก้ไข เพราะการที่แดนกลางไม่สามารถตัดเกมคู่แข่งได้ ส่งผลให้กองหลังต้องทำงานหนัก และนำไปสู่การเสียประตูอย่างต่อเนื่อง

ผลงานของ เอ็นดิดี้ น่าจะทำให้ โซลชา สามารถไว้วางใจให้คอยทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูในแผงมิดฟิลด์ก่อนที่จะมาถึงแนวรับ เพราะเขามีสถิตที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในการตัดบอลจากคู่แข่งซึ่งเหลือกว่า ไรซ์ หรือ ฟิลลิปส์ เลยทีเดียว

ดาวเตะชาวไนจีเรีย มีสถิติเสียบสกัดสำหรับ 3 ครั้ง และตัดบอลเฉลี่ยแล้ว 2.5 เปอร์เซนต์ในการลงสนามทุกๆ 90 นาที โดยในเรื่องการเสียบสกัดเหนือกว่า ไรซ์ กับ ฟิลลิปส์ ถึง 1.1 และ 0.7 ขณะที่การตัดบอลก็เหนือกว่า 0.5 และ 1.7 ตามลำดับ

ฉะนั้นหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการผู้เล่นที่สามารถควบคุมเกมและยังสามารช่วยเกมรับได้เหนียวแน่น แน่นอนว่าชื่อของ เอ็นดิดี้ น่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับทีมในเวลานี้เลยจริงๆ
 
4. พร้อมย้ายทันทีแถมค่าตัวถูกอีกต่างหาก

อย่างที่เกริ่นไปในช่วงต้นว่า ไรซ์ กับ ฟิลลิปส์ ดูเหมือนจะยังรู้สึกมีความสุขกับการเล่นให้กับต้นสังกัดในปัจจุบันของพวกเขา และยังมีข่าวเรื่องการเจรจาเพื่อขยายสัญญาฉบับใหม่อย่างต่อเนื่อง สวนทางกับ เอ็นดิดี้ มีอนาคตของเขากับ เลสเตอร์ ดูเหมือนจะสั่นคลอนเต็มที

ไม่น่าเป็นไปได้ที่ ฟิลลิปส์ จะเก็บเสื้อผ้าหนีออกจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด เพื่อไปเล่นให้กับ แมนฯ ยูฯ เนื่องจากทั้งสองสโมสรเป็นคู่อริกันแต่ชาติปางก่อน และการทำแบบนั้นเหมือนเป็นการหักหาญน้ำใจของสาวก "ยูงทอง" ซึ่งเคยต้องเจ็บปวดกับอดีตนักเตะอย่าง เอริก คันโตน่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ อลัน สมิธ ที่ทิ้งเสื้อขาวไปใส่เสื้อสีแดงมาแล้ว

ขณะที่ ไรซ์ อาจมีความเป็นไปได้เช่นกันที่เขาจะเลือกเดินออกจากถิ่นลอนดอน สเตเดี้ยม เพื่อไปหาความสำเร็จกับสโมสรใหญ่ แต่งานนี้ทีมของกุนซือเดวิด มอยส์ ไม่ยอมง่ายๆ แน่นอน เพราะหากต้องเสียเขาไปก็ต้องได้อะไรตอบแทนกลับมา ซึ่งว่ากันว่าพวกเขาตั้งค่าตัวของนักเตะเอาไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ด้วยเม็ดเงินที่ แมนฯ ยูฯ ลงทุนไปในช่วงซัมเมอร์ล่าสุด แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่อยากที่จะเสียเงินเยอะในระดับ 100 ล้านปอนด์เพื่อนักเตะแค่คนเดียว ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกดึง เอ็นดิดี้ ที่น่าจะมีค่าตัวถูกกว่าเยอะ มาเสริมทัพ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »