ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมากสำหรับ ลิเวอร์พูล กับการที่ล่าสุดสามารถบุกไปชนะ วัตฟอร์ด 5-0 ได้ถึง คราเว่น ค็อตเทจ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนนจากการลงเล่น 8 นัด และยังคงเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ด้วย
   
ที่น่าทึ่งมากกว่านั้นก็คือในเกมนั้น 3 แนวรุกสุดโหดของ ลิเวอร์พูล สามารถทำประตูกันได้อย่างพร้อมหน้าด้วย แบ่งเป็นการทำแฮตทริกของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับอีกคนละ 1 ประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งวันนี้เรามีเกร็ดเกี่ยวกับฟอร์มของ 3 แนวรุกทั้งในด้านการร่วมแรงร่วมใจกันและผลงานส่วนตัวของพวกเขามานำเสนอสักหน่อย

- มาเน่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าซีซั่น 2020-21 ถือเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังของ มาเน่ จากการที่เขาทำประตูได้เพียง 16 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการ 48 นัด ทั้งที่ก่อนหน้านั้นสามารถทำประตูให้ทีมได้อย่างน้อย 20 ลูกมาถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน แม้กระทั่งตัวดาวเตะชาวเซเนกัลยังเคยออกมาบอกเลยว่าผิดหวังกับผลงานของตัวเองอย่างมาก

ทั้งนี้ ถึงแม้บางครั้งในฤดูกาล 2021-22 มาเน่ จะดูเล่นแบบฝืนๆ ไปบ้าง แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยิงในลีกไปแล้ว 5 ประตู จนทำให้เขาเป็นรองดาวซัลโวสูงสุดของลีก ร่วมกับ มิคาอิล อันโตนิโอ ดาวเตะ เวสต์แฮม ส่วนถ้านับรวมทุกรายการก็อยู่ที่ 6 ลูก ทำให้เป้าหมายของเขาที่จะยิงให้แตะหลัก 30 ประตูในซีซั่นนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้

- ฟีร์มีโน่
ฤดูกาลก่อน ฟีร์มีโน่ ก็ไม่ได้มีผลงานที่น่าประทับใจเท่าไหร่เหมือนกับ มาเน่ โดยตลอดทั้งซีซั่นเขายิงได้เพียง 9 ลูกจากการลงเล่น 48 นัด อย่างไรก็ตาม จากการที่ตอนนี้เขาทำประตูไปแล้ว 6 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการ ทำให้ตอนนี้ค่าเฉลี่ยการทำประตูของ ฟีร์มีโน่ สูงถึง 1 ประตูต่อทุกๆ 39.6 นาทีเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น หากนับเฉพาะในลีกแล้วล่ะก็ ดาวเตะชาวบราซิเลียนก็ถือเป็นคนที่มีค่าเฉลี่ยการยิงตรงกรอบต่อ 1 เกมในลีกสูงสุดของ ลิเวอร์พูล ด้วยจำนวน 2.06 ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว และในจำนวนนั้นเขาก็เปลี่ยนให้เป็นประตูได้ 0.80 ลูกต่อการยิงตรงกรอบ 1 ครั้ง ซึ่งตัวเลขในด้านนี้ของเขาก็ดีกว่า มาเน่ และ ซาลาห์ เช่นกัน

- ซาลาห์
แน่นอนว่านับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก อาแอส โรม่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2017 ซาลาห์ ก็ถือเป็นนักเตะที่มีความสำคัญกับ ลิเวอร์พูล อย่างมากจากการที่มีผลงานอันโดดเด่นอยู่เสมอ แต่นี่นับเป็นซีซั่นที่เขามีส่วนร่วมกับประตูของต้นสังกัดมากที่สุดหากนับเฉพาะการลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในช่วง 14 นัดแรกของทุกฤดูกาล จากการมีส่วนร่วมกับประตูถึง 14 ลูก แบ่งเป็นการยิงเอง 10 ประตู และทำอีก 4 แอสซิสต์ โดยในจำนวนนั้นเป็นการมีส่วนร่วมกับประตูในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก 11 ลูก

ทั้งนี้ ในช่วงต้นฤดูกาล 2021-22 มีนักเตะแนวรุกหลายคนที่ออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรง และแน่นอนว่า ซาลาห์ ก็คือหนึ่งในนั้น โดยหากเทียบเฉพาะผลงานใน 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรป (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส) แล้วล่ะก็ ซาลาห์ ก็ถือเป็นคนที่มีส่วนร่วมกับประตูในลีกมากที่สุดเป็นอันดับ 3 แพ้แค่ คาริม เบนเซม่า กองหน้า เรอัล มาดริด (16 ประตู) กับ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ (12 ประตู) เท่านั้น

- 3 ประสาน
ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ได้รับการยอมรับตั้งแต่หลายฤดูกาลก่อนแล้วว่าเป็นหนึ่งใน 3 แนวรุกที่เก่งที่สุดของวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบัน เพียงแต่การที่ฤดูกาลก่อนมี ซาลาห์ แค่คนเดียวที่ทำผลงานได้โดดเด่นทำให้เครดิตตรงนั้นเสียไปในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าความเข้าขากันของทั้ง 3 คนจะกลับมาแล้ว เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาทำประตูในการลงเล่นทุกรายการรวมกันได้ถึง 22 ลูก แบ่งเป็น 10 ประตูของ ซาลาห์ กับอีกคนละ 6 ลูกของ มาเน่ กับ ฟีร์มีโน่ นั่นทำให้ค่าเฉลี่ยการทำประตูระหว่างพวกเขาอยู่ที่ 1 ลูกในทุกๆ 83.6 นาที

ยิ่งไปกว่านั้น หากนับเฉพาะเกมลีกในซีซั่นนี้แล้วล่ะก็ ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ก็ทำประตูไปรวมกันแล้ว 16 ประตู นั่นทำให้อีก 19 ทีมที่เหลือของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ ยังไม่มีทีมไหนเลยที่ทำประตูได้มากกว่าผลงานของทั้ง 3 คนรวมกัน อย่างดีที่สุดคือ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยิงไป 16 ลูกพอดิบพอดี