ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แนวรุกเต็มร้อย, ฮึกเหิมรอแดงเดือด! ผ่า 5 ข้อก่อนเกม แมนยู ปะทะ อตาลันตา

แนวรุกเต็มร้อย, ฮึกเหิมรอแดงเดือด! ผ่า 5 ข้อก่อนเกม แมนยู ปะทะ อตาลันตา

Posted 20/10/2021 by siamsport

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีโอกาสนำทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แก้ตัวจากเกมล่าสุดที่แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการรับมือ อตาลันตา ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่ง กลุ่ม กลุ่ม  เอฟ วันพุธที่ 20 ตุลาคมนี้
    "ปีศาจแดง" กำลังอยู่ในฟอร์มกระท่อนกระแท่นสุดๆ ทำให้แมตช์นี้พวกเขาต้องรวมพลังประจัญบานจัดการผู้มาเยือนจากดินแดนรองเท้าบู้ทให้อยู่หมัดต่อหน้าสาวก "เร้ด อาร์มี่" ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ได้

    ชัยชนะในเกมนี้นอกจากจะต่อชะตาชีวิตการทำงานให้กับ "น้าลูกอม" แล้ว ยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญก่อนเตรียมตัวทำศึก "แดงเดือด" ดวล ลิเวอร์พูล ช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่หากแพ้หรือเสมอ ขอบอกเลยว่าบรรยากาศในทีมมาคุยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า !!

 

1. คาวานี่-แรชฟอร์ดทางเลือกเกมบุกกลับมาแล้ว
    โซลชา จะได้ผู้เล่นสำคัญอย่าง เอดินสัน คาวานี่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาเป็นตัวเลือกในเกมรุกอีกครั้ง โดยฝ่ายแรกไม่ได้ลงสนามในช่วงเกมลีกนัดล่าสุดเนื่องจากมีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปรับใช้ทีมชาติอุรุกวัย ขณะที่ "แรชชี่" เพิ่งฟิตเต็มร้อย และได้ลงเล่นไม่กี่นาทีเกมแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้

    ต้องยอมรับว่าแนวรุกของ "ปีศาจแดง"มีปัญหาพอสมควรเพราะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , เมสัน กรีนวู้ด ยังไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ ปอล ป็อกบา ทำเกมแดนกลางไม่ได้ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้สร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งมากนัก

    การที่ "น้าลูกอม" ได้สองผู้เล่นเกมรุกอย่าง "เอล มาทาดอร์" กับ "ดร.แรชชี่" กลับมาฟิตเต็มร้อย ทำให้เขามีทางเลือกในการจัดเกมรุกให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และน่าจะทำให้คู่แข่งอย่างอตาลันตาต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในการรับมือกับเกมบุกที่สุดอันตรายของทีมเยือน

    สิ่งที่น่าจะทำให้แฟนบอล แมนฯ ยูฯ รู้สึกดีมากๆ ก็คือการที่ แรชฟอร์ด กลับมาลงสนามในแมตช์ล่าสุด และยิงประตูได้ด้วย ซึ่งน่าจะทำให้เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และอยากจะสร้างผลงานให้ดีที่สุดเพื่อโอกาสกลับมายึดตัวจริงถาวร

 

2. วาน-บิสซาก้า กลับมาประจำตำแหน่ง
     เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดล่าสุดสาวก "เร้ด อาร์มี่" คงเห็นจุดอ่อนของทีมว่าอยู่ในตำแหน่งแบ็กขวา เนื่องจาก ดีโอโก้ ดาโลต์ ไม่สามารถทดแทนตำแหน่งของ อารอน  วาน-บิสซาก้า ได้เลย และทีมโดน บียาร์เรอัล เจาะทางฝั่งขวาตลอด

     สำหรับตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นข่าวดีสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากโทษแบน 2 แมตช์ของ วาน-บิสซาก้า ได้รับการลดโทษเหลือแค่เกมเดียว และนักเตะก็ชดใช้ไปแล้วในแมตช์ปะทะกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" ทำให้เกมรับมือ อตาลันต้า พวกเขาจะได้นักเตะกลับมาประจำตำแหน่งตามเดิม

     อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของ วาน-บิสซาก้า ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ก็ยังไม่ได้โดดเด่นมากนัก โดยในเรื่องเกมรับที่ถือเป็นจุดเด่นของนักเตะแต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก อย่างในเกมล่าสุดก็โดนเกมรุกของ เลสเตอร์ ปั่นป่วนจนเสียกระบวนไปหลายครั้ง

     กระนั้นการที่ วาน-บิสซาก้า กลับมาอยู่ในตำแหน่งแบ็กขวา น่าจะทำให้ทีมอุ่นใจมากกว่าการที่ทีมต้องใช้งาน ดาโลต์ เพราะอย่างน้อยๆ ฝั่งขวาของ แมนฯ ยูฯ คงไม่เป็นบ่อน้ำมันให้เกมบุกของ อตาลันตา ไล่ปู้ยี่ปู้ยำแน่นอน


 
3. แม็กไกวร์ แก้ตัวจากเกมล่าสุด
     แมตช์ที่แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ หลายคนมองว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่ฟิตเต็มร้อย แต่ โซลชา ฝืนส่งลงสนามทำให้นักเตะเล่นผิดพลาดหลายจังหวะจนเป็นเหตุให้ต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง

     อย่างไรก็ตามในเกมดวลกับทีมดังแดนมะกะโรนี แม็กไกวร์ น่าจะฟิตเต็มร้อย และสามารถกลับมายืนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง ส่วนคู่หูของเขาคงหนีไม่พ้น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ เอริก ไบยี่ คงต้องนั่งรอโอกาสของเขาต่อไป

     สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ โซลชา ไม่สามารถใช้งาน ราฟาแอล วาราน ไปอีกอย่างน้อยๆ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากนักเตะมีปัญหาบาดเจ็บจากการรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสเมื่อเร็วๆ นี้ ฉะนั้นเกมรับของ แมนฯ ยูฯ อาจจะไม่ค่อยนิ่งมากนัก และน่าจะเป็นจุดอ่อนที่ อตาลันตา อาจจะฉกฉวยโอกาสก็ได้


 
4. อตาลันตามักทำได้ดีเวลาเจอทีมจากอังกฤษ
     สำหรับแมตช์นี้เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างทั้งสองทีม แต่สำหรับ อตาลันตา เคยผ่านการเผชิญหน้ากับสโมสรจากอังกฤษมาแล้ว ถึง 6 ครั้ง และผลงานของพวกเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

     จะว่าไปแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีโอกาสได้ดวลกับทีมจากดินแดนมะกะโรนีมาแล้วทั้งการดวลกับ ฟิออเรนติน่า, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, ลาซิโอ, เอซี มิลาน และ โรม่า ฉะนั้นพวกเขาคุ้นเคยกับบอลสไตล์อิตาลีพอสมควร

     ส่วน อตาลันตา ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเจอกับทีมจากเมืองผู้ดีเพราะในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปพวกเขาเคยดวลกับ ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญผลงานไม่ธรรมดาชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 2 เกม

     อตาลันต้า เคยเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ในเกมเยือนที่กูดิสัน พาร์ค และแมตช์เหย้าด้วยตอนที่พวกเขาเจอกันในศึก ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2017/2018 และบุกสอย ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เดือนพฤศจิกายน 2020

     ดังนั้นผลงานของทีมดังจากเมืองแบร์กาโม่ ไม่ธรรมดาแน่นอน และหาก โซลชา ไม่สามารถรับมือกับเกมบุกที่วูบวาบของเจ้าถิ่นได้ งานนี้มีหวังเก้าอี้กุนซือของเขาคงร้อนยิ่งกว่านั่งอยู่บนเตาไฟแน่นอน

 

5.อนาคต โซลชา อาจอยู่ที่เกมต่อไป
     แมตช์ปะทะ อตาลันตา อาจจะไม่ใช้ตัวชี้วัดอนาคตของโซลชา เพราะเกมต่อไปที่จะต้องทำศึก "แดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์นี้มีสิทธิ์ที่จะเป็นแมตช์ตัดสินชีวิตการทำงานของ "น้าลูกอม" เลยก็ว่าได้

     ด้วยเหตุนี้ในเกมพบ อตาลันตา บรรดาขุนพล "ผีแดง" ต้องระเบิดฟอร์มการเล่นออกมาให้เต็มที่ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมก่อนที่จะรับมือกับคู่อริตลอดกาล ที่ตอนนี้ฟอร์มโหดเหลือเกิน

     อย่างไรก็ตามหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือจากการเล่นในบ้านเกมนี้ ต้องบอกเลยว่าขวัญกำลังใจของพวกเขาคงหายไปมากกว่าครึ่ง และการที่จะเจอกับ "หงส์แดง" ที่กำลังมั่นใจเต็มเปี่ยม ยิ่งทำให้อาการน่าเป็นห่วงเข้าไปอีก

     สำหรับตอนนี้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการวางแท็กติก และการกระตุ้นทีมของ โซลชา เพราะขึ้นชื่อว่าเกม "เร้ด วอร์" ผลงานในช่วงที่ผ่านมาตัดทิ้งไปได้เลย เนื่องจากทั้งสองทีมมักจะโชว์ฟอร์มได้สุดยอดเวลาปะทะกัน

     กระนั้นจุดที่น่าเป็นห่วงก็คือลีลาในการกระตุ้นทีมของ โซลชา ยังหน่อมแน้มเมื่อเทียบกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ และนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่มีผลต่อการแข่งขันก็ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »