ต้องขอขอบคุณพรีเมียร์ลีก ที่มีเกมที่น่าตื่นเต้นทุกนาที นักเตะที่สามารถทำงานโดดเด่นสับเปลี่ยนหมุนเวียนได้สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า และมีความสำคัญต่อทุกทีม ด้วยรูปเกมซูเปอร์แอ็คชั่นสูง ที่สามารถผ่านคุณหรือล้มคุณได้ หากคุณตามไม่ทัน
   
วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับทีมที่จะแพ้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ คือการมีกองกลางที่มีผู้เล่นที่ไม่สามารถหยุดความโจมตีที่รุนแรง ด้วยผู้เล่นสมรรถสูงของลีกได้ ซึ่งการถูกโจมตีในตำแหน่งมิดฟิลด์เป็นปัญหาหลักสำหรับโค้ช และหากมิดฟิลด์ไม่สามารถ
เสริมกำลังและต่อสู้ในแดนกลางได้ ทีมของพวกเขาจะอ่อนแอ

การปกป้องในแนวรับนั้นจำเป็นสำหรับทุกทีม กองกลางตัวรับ จึงเป็นตำแหน่งที่ต้องการผู้เล่นที่เก่งในการแย่งบอลกลับมา และสามารถกระจายบอลให้ทีมกลับมาเดินหน้าเกมตัวเองได้ใหม่อีกครั้ง

การแย่งบอลกลับมาในแดนกลางไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เล่นจำเป็นต้องมีความสามารถในการอ่านเกม และคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่จะเข้าไปแทรกแซงและเข้าไปที่นั่น ก่อนฝ่ายตรงข้าม

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดู 5 มิดฟิลด์พรีเมียร์ลีก ที่สกัดบอลได้มากที่สุดในฤดูกาล 2021-22 มีใครกันบ้างกัน

5 คริสเตียน นอร์การ์ด (เบรนท์ฟอร์ด) - สกัดบอล 13 ครั้ง

เบรนท์ฟอร์ด เป็นทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา แต่กลับสร้างผลงานที่น่าประหลาดใจในฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีก พวกเขากล้าหาญและกล้าได้กล้าเสีย โดยมีผลงานที่สดใสในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่

สิ่งสำคัญในการต่อสู้ของพวกเขาคือ คริสเตียน นอร์การ์ด มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์ก นอร์การ์ด ได้ทำการสกัดบอลทั้งหมด 13 ครั้งในปีนี้

 เขาเป็นนักเตะที่เล่นได้โดดเด่นของเบรนท์ฟอร์ดมาหลายนัดแล้ว ในปีนี้

 นอร์การ์ด ยังเป็นแข้งที่เข้าชนได้ดี และชนะการดวลคู่แข่งไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้

4 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) - สกัดบอล 14 ครั้ง

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ในพรีเมียร์ลีกได้น่าอัศจรรย์ ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า อย่างไรก็ตาม หลังจากเก็บชัยชนะได้อีกสองสามครั้ง พวกเขาก็เริ่มร่วงโรย

สเปอร์ส แพ้สี่ในเก้าเกมของพวกเขาจนถึงตอนนี้ และโชคดีที่ยังคงนั่งอยู่ในอันดับหกของตารางคะแนน ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันทั้งหมด ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก เป็นที่ไว้วางใจในตำแหน่งกองกลาง สำหรับผู้ชายที่ชื่อ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต

ฮอยเบิร์ก สกัดบอลได้ 14 ครั้งจาก 9 นัดในพรีเมียร์ลีก นักเตะทีมชาติเดนมาร์กรายนี้ ยังครองบอลได้ดี และจ่ายบอลเฉลี่ยเกือบ 70 ครั้งต่อเกม โดยมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จ 89.3%

3 จอช บราวน์ฮิลล์  (เบิร์นลีย์) - สกัดบอล 15 ครั้ง

จอช บราวน์ฮิลล์ กองกลางของเบิร์นลีย์ เป็นกองกลางแนวบู๊ ที่มีความสามารถในการป้องกันที่โดดเด่นมาก นักเตะวัย 25 ปีรายนี้ มีชื่อในด้านความสามารถในการแย่งบอลกลับคืนมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเชี่ยวชาญทั้งการดวลบนพื้นดินและ
การดวลลูกกลางอากาศ

อย่างไรก็ตามการผ่านบอลของเขานั้นยังห่างไกลจากค่าเฉลี่ยที่ควรจะทำได้เยอะ แข้งชาวอังกฤษจะต้องแก้จุดบกพร่องเหล่านั้นออกจากเกมของเขา และถ้าเขาทำได้ เขาอาจจะกลายเป็นมิดฟิลด์ที่เก่งกาจได้ บราวน์ฮิลล์ สกัดบอลได้ทั้งหมด 15
ครั้งจาก 9 นัดในฤดูกาลนี้

2 วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์) - สกัดบอล 15 ครั้ง

วิลฟรีด เอ็นดิดี้  เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก นักเตะทีมชาติไนจีเรียรายนี้ ทำให้แดนกลางของเลสเตอร์ ซิตี้ มีความน่าสนใจ และเขาเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ ในการจัดทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

เอ็นดิดี้สกัดบอลได้ทั้งหมด 15 ครั้งจากการแข่งขันเพียง 6 นัด ด้านเกมรับของเขานั้นยอดเยี่ยมเสมอมา เขาชนะลูกโหม่ง 18 ครั้งในซีซั่นนี้ และชนะการดวลลูกกลางอากาศเกินครึ่งเช่นกัน

ทีมจิ้งจอกสยาม สามารถพึ่งพานักเตะวัย 24 ปีได้เสมอ เพื่อนำพลังมากมายมาสู่แดนกลาง เขาจะมีความสำคัญ ต่อเป้าหมายการไปฟุตบอลยุโรปในซีซั่นนี้ของ เลสเตอร์ อย่างไม่ต้องสงสัย

1 ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม) - สกัดบอล 18 ครั้ง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ ดีแคลน ไรซ์ ในช่วงซัมเมอร์ จนกระทั่งพวกเขาเซ็นสัญญากับ คริสเตียโน โรนัลโด้ เมื่อมองย้อนกลับไป ดูเหมือนการตัดสินใจที่แย่มาก แม้ว่า โรนัลโด้ จะทำประตูได้ แต่ทีม ปีศาจแดง ไม่ได้ขาดนักเตะทำประตู แต่ขาดตำแหน่งกองกลาง ทำให้พวกเขาดูวุ่นวายในเวลานี้

ดีแคลน ไรซ์ จะเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา แต่สำหรับตอนนี้ เขายังคงเป็นกองกลางของเวสต์แฮมต่อไป การอ่านเกมและการทำงานที่ยอดเยี่ยมของ ไรซ์ ทำให้เขากลายเป็นดั่งหนามหยอกของฝ่ายตรงข้าม

เขาทำสถิติชนะลูกโหม่งได้ 21ครั้ง อัตราความสำเร็จ 67% แข้งวัย 22 ปี สร้างชื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็วในฐานะหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก การผ่านบอลของเขา ก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยอัตราการผ่านบอลโดยเฉลี่ยสูงถึง 92.5% จากเก้านัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

ไรซ์เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในอังกฤษในตอนนี้ และตอนนี้ก็กลายเป็นขาประจำของทีมสิงโตคำรามด้วยเช่นกัน