ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ถ้าไม่ใช่ร็อดเจอร์ส! 4 กุนซือทีมชาติที่แมนยูสมควรแต่งตั้ง

ถ้าไม่ใช่ร็อดเจอร์ส! 4 กุนซือทีมชาติที่แมนยูสมควรแต่งตั้ง

Posted 13/11/2021 by siamsport

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกมองว่ากำลังซื้อเวลาต่อลมหายใจของตัวเองหลังคุมทีมสร้างผลงานได้อย่างเลวร้าย
     โดยเฉพาะในสองเกมกับทีมคู่แค้นสำคัญที่พวกเขาพ่ายคารังให้กับทั้ง ลิเวอร์พูล 5-0 และ แมนฯ ซิตี้ 2-0 ส่งผลให้สาวก ปีศาจแดง รุมสวดน้าลูกอมยับ และยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ากุนซือชาวนอรเวย์สมควรโดนไล่ออกได้แล้ว

     แม้นาทีนี้บอร์ดของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร แต่สื่อเมืองผู้ดีพากันมั่นใจว่าอีกไม่นาน โซลชา จะต้องตกเก้าอี้แน่

     ต่อชื่อกุนซือใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ล่าสุดกลายมาเป็น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูมากที่สุดหลังจากตัวเลือกรายอื่นๆทั้ง เอริค เทน ฮาก , เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ ราล์ฟ รังนิค ไม่มีวี่แววจะลงเอยกับ ผีแดง ได้เลย

     อย่างไรก็ดี หากจะลองหันไปมองกุนซือทีมชาติซึ่งล้วนเคยผ่านงานคุมทีมระดับสโมสรมาก่อน ก็มี 4 ชื่อที่ แมนเชสเตอร์อีฟนิ่งนิวส์ มองว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สมควรทาบทามให้มารับงานแทนโซลชา

 - หลุยส์ เอ็นรีเก้

 (คุมสโมสรได้แต้มเฉลี่ยต่อเกม 1.90 จาก 314 เกม)

     ปัจจุบันเป็นนายใหญ่ทีมชาติสเปน และเคยผ่านงานกุมบังเหียนทีม บาร์ซ่า , โรม่า และ เซลต้า บิโก้ แถมสร้างผลงานพาทีมจากกาตาลันคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้อีกด้วย

     แน่นอนว่าการมีสตาร์ระดับพระกาฬทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ , เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรซ อยู่ในสังกัดมีส่วนช่วยให้ เอ็นรีเก้ หยิบสามแชมป์ได้ง่ายขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นอันขาดว่าไม่ใช่งานง่ายเลยที่คนเป็นกุนซือจะเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดของนักเตะแบบรายตัวออกมาได้

     และจุดนี้เองที่หลายคนมองตรงกันว่า โซลชา ขาดคุณสมบัติในด้านนี้

     แม้จะไปได้ไม่สวยกับ โรม่า หลังผ่านงานคุมทีม บาร์ซ่า ชุดบี แต่ เอ็นรีเก้ นำเอาประสบการณ์ที่ย่ำแย่ในกรุงโรมมาพัฒนากับ เซลต้า ได้สำเร็จ และมันส่งผลให้เขาได้กุมบังเหียนทีม กระทิงดุ หลังลุกจากเก้าอี้กุนซือทีมชุดใหญ่ของถิ่น คัมป์นู ซึ่งเป็นเรื่องยากมหันต์ที่จะมีนายใหญ่คนไหนสร้างผลงานได้เทียบเทียบกับที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทิ้งเอาไว้

     พร้อมกันนี้ เอ็นรีเก้ ยังคุมทีมชาติสเปนได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันแม้จะยังไม่มีโทรฟี่ติดมือก็ตามหลังพ่ายให้กับอิตาลีด้วยการดวลลูกโทษในนัดชิงชนะเลิศศึก ยูโร 2020 แถมพ่ายต่อฝรั่งเศสอีกในนัดชิงดำ เนชั่นส์ลีก

 - โรแบร์โต้ มันชินี่
 
 (คุมสโมสรได้ต้มเฉลี่ยต่อเกม 1.90 จาก 508 เกม)

     การได้แชมป์ ยูโร 2020 กับอิตาลีทำให้ มันโช่ เพิ่มบารมีมากขึ้นไปอีกหลังเคยประสบความสำเร็จกับ แมนฯ ซิตี้ ใน พรีเมียร์ลีก มาก่อน

     ในมุมของกองเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด การแต่งตั้ง มันชินี่ ไม่สมควรอยู่ในความคิดของสโมสรเนื่องจากเขาเคยทำงานให้กับทีมคู่แค้นร่วมเมือง

     อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่ากุนซือสัญชาติมะกะโรนีมีประสบการณ์ไม่ด้อยไปกว่าใครเลยจากการเป็นบิ๊กบอสของหลายสโมสรทั้งในประเทศ และต่างแดนไม่ว่าจะเป็น ฟิออเรนติน่า , ลาซิโอ , อินเตอร์ มิลาน , กาลาตาซาราย และ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

     ต่อความสำเร็จในระดับสโมสร มันชินี่ ได้แชมป์ เซเรียอา สามสมัยติดต่อกันกับ งูใหญ่ ก่อนย้ายไปหยิบแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ กับ เรือใบสีฟ้า

 - ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์

 (คุมสโมสรได้แต้มเฉลี่ยต่อเกม 1.74 จาก 309 เกม)

     อาจไกลตัว และเป็นชื่อที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์หากจะนำมาโยงกับแมนฯ ยูไนเต็ด

     แต่อย่างน้อยก็เชื่อกันว่า "เดเด้" จะอำลาตำแหน่งกุนซือทีมชาติฝรั่งเศสในไม่ช้า หลังจากเขายึดครองเก้าอี้ตัวนี้มานานตั้งแต่ปี 2012 และพาทีมเมืองน้ำหอมคว้าแชมป์โลก , แชมป์ เนชั่นส์ลีก และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูโร 2016

     ฉันใดก็ฉันนั้น ไม่ใช่งานง่ายเช่นกันที่ เดส์ช็องส์ จะคุมซูเปอร์สตาร์ทีม เลส์ เบลอส์ อย่าง ปอล ป็อกบา , คาริม เบนเซม่า , อ็องตวน กรีซมันน์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ไม่ให้แตกแถว แต่เขาทำได้เยี่ยมอย่างไร้ที่ติ
 
     ด้วยเหตุนี้ ผีแดง จึงน่าจะได้ประโยชน์จากการแต่งตั้งอดีตกองหลังเลือดน้ำหอมให้กุมบังเหียนเนื่องจากเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวเตะร่วมชาติอย่าง ราฟาแอล วาราน และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ด้วยนอกเหนือไปจากกองกลางจอมแฟชั่น

     แต่หากจะวัดกันที่ความสำเร็จระดับสโมสร เดส์ช็องส์ อาจมีไม่มากเท่าไหร่เนื่องจากเขาได้แชมป์ เซเรียบี กับ ยูเวนตุส และได้แชมป์ ลีกเอิง กับ มาร์กเซย์ ในซีซั่น 2009/10 ก่อนที่ เปแอสเช จะผงาดขึ้นมาผูกขาดความสำเร็จ

 - หลุยส์ ฟาน กัล

 (คุมสโมสรได้แต้มเฉลี่ยต่อเกม 2.00 จาก 609 เกม)

 
     "แอลวีจี" กลืนน้ำลายกลับมาคุมทีมชาติฮอลแลนด์เป็นคำรบสามแทนที่ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ทั้งๆที่เคยประกาศวางมืออย่างเป็นทางการไปแล้วหลังรับภาระกุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นงานชิ้นสุดท้าย
     ฉะนั้นแล้ว หากโค้ชจอมเก๋าชาวเมืองกังหันลมจะหวนคืนสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกรอบ มันก็เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้เช่นกัน

     อาจถูกมองว่าเป็นกุนซือตกยุค แต่เท่าที่ผ่านมา ฟาน กัล ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับทีมชั้นนำของทวีปยุโรปทั้งได้แชมป์ บุนเดสลีกา กับ บาเยิร์น มิวนิค , แชมป์ลีกดัตช์กับ อาแซด อัลค์มาร์ และ อาแจ็กซ์ รวมถึงแชมป์ ลา ลีกา กับ บาร์เซโลน่า
 
     จากดีกรีดังกล่าว ส่งผลให้ ฟาน กัล ได้ลงเอยกับ ผีแดง ซึ่งเขานำเอาสไตล์การครองบอลมาใช้กับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด หากแต่น่าเสียดายที่มันกลายเป็นความน่าเบื่อเนื่องจากเกมรุกของสโมสรไร้ซึ่งประสิทธิภาพ นอกจากได้แต่ผ่านบอลไปมาแบบเบสิก

     อย่างไรก็ดี อย่างน้อย ฟาน กัล ก็กล้ามอบโอกาสให้กับดาวรุ่งอย่างที่เขาเป็นคนฉุด มาร์คัส แรชฟอร์ด ให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ท่ามกลางความประทับใจของแฟนบอล ปีศาจแดง

     เอาเป็นว่าหากสาวก เร้ด อาร์มี่ อยากเห็นทีมรักมีเปอร์เซนต์การครองบอลที่เหนือกว่าคู่แข่งเหมือนในอดีต การฉุด ฟาน กัล กลับมาคุมทีมก็เป็นอีกทางเลือกที่ควรพิจารณาไม่น้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »