ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » อิตาลี,โปรตุเกสเหนื่อยต่อ!คอนเฟิร์ม10ชาติยุโรป(ชุดแรก)ได้ตั๋วลุยบอลโลก2022

อิตาลี,โปรตุเกสเหนื่อยต่อ!คอนเฟิร์ม10ชาติยุโรป(ชุดแรก)ได้ตั๋วลุยบอลโลก2022

Posted 17/11/2021 by siamsport

ตอนนี้โซนยุโรปได้ 10 ชาติ จากทั้งหมด 13 โควตา เข้าไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ เรียบร้อย ซึ่งชาติยักษ์ใหญ่อย่าง เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สเปน, เนเธอร์แลนด์ และ อังกฤษ มากันครบ จะขาดก็แค่ อิตาลี และ โปรตุเกส ที่ต้องไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ เพราะดันฟอร์มตกในช่วงโค้งสุดท้าย และนี่คือโฉมหน้า 10 ชาติจากทวีปยุโรปชุดแรก ที่การันตีการผ่านเข้าไปลุยบอลโลกเวอร์ชั่นตะวันออกกลางช่วงปลายปีหน้า
 
- เซอร์เบีย (แชมป์กลุ่ม เอ)
ทัพลูกหนังเซิร์บที่มีสตาร์ดังอย่าง ดูซาน วลาโฮวิช, ดูซาน ทาดิช, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช แซง โปรตุเกส เข้าป้ายคว้าแชมป์กลุ่ม เอ ได้อย่างสุดอลังการ หลังบุกไปเชือด "ฝอยทอง" ถึงบ้าน 2-1 ในการแข่งขันนัดสุดท้าย เมื่อคืนวันอาทิตย์ โดยที่ได้ประตูชัยในนาทีที่ 90 จากการโขกของ มิโตรวิช ซึ่งปัจจุบันอยู่กับ ฟูแล่ม ถือเป็นอีกทีมที่น่าจับตาดูเป็นอย่างมากในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ หลังจบรอบคัดเลือกแบบไร้พ่าย (ชนะ 6, เสมอ 2)
 
- สเปน (แชมป์กลุ่ม บี)
แม้ระยะหลังยิงคู่แข่งไม่มาก แต่ก็เพียงพอกับการเป็นแชมป์กลุ่ม บี สำหรับทัพ "กระทิงดุ" ของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ที่มีสถิติชนะ 6 จาก 8 เกม (เสมอ 1, แพ้ 1) หลังปิดฉากนัดสุดท้ายด้วยการเปิดบ้านเชือด สวีเดน 1-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ โดยที่ได้ประตูชัยนาทีที่ 86 จาก อัลบาโร่ โมราต้า ซึ่งถือเป็นเกมตัดสินให้พวกเขาจบอันดับหนึ่งของกลุ่ม

- สวิตเซอร์แลนด์ (แชมป์กลุ่ม ซี)
แซง อิตาลี คว้าแชมป์กลุ่ม ซี ในนัดสุดท้าย หลังเปิดบ้านกด บัลแกเรีย 4-0 เมื่อคืนวันจันทร์ ขณะที่ อิตาลี ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ไอร์แลนด์เหนือ 0-0 ซึ่งแน่นอนว่า จุดเปลี่ยนสำคัญคือเกมนัดก่อนหน้าที่พวกเขาออกไปเสมอ "อัซซูร์รี่" 1-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พ.ย. โดยที่พวกเขาเสียจุดโทษนาทีสุดท้าย แต่ จอร์จินโญ่ ยิงไม่เข้า ทำให้พวกเขาได้ 1 แต้มสุดสำคัญกลับบ้าน จุดแข็งของทีมแดนนาฬิกาชุดนี้อยู่ที่เกมรับ เพราะในรอบคัดเลือกหนนี้ เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น จากการลงแข่ง 8 นัด

- ฝรั่งเศส (แชมป์กลุ่ม ดี)
ถึงแม้มีฟอร์มฝืดบ้างในบางนัด แต่ทีมแชมป์เก่าของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ก็ยังสามารถคว้าตั๋วเข้าไปป้องกันแชมป์ได้แบบไม่ยากเย็น ด้วยสถิติไร้พ่ายตลอดการลงเล่น 8 นัด (ชนะ 5, เสมอ 3) และด้วยขุมกำลังนักเตะที่ดูเหนือกว่าชาวบ้าน โดยเฉพาะแนวรุกที่อุดมไปด้วยแข้งระดับสตาร์ดัง แน่นอนว่า "ตราไก่" ยังคงถูกมองเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์เหมือนเดิม แถมเพิ่งได้แชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มาหมาดๆ เมื่อเดือนก่อนด้วย

- เบลเยียม (แชมป์กลุ่ม อี)
"ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ที่คว้าอันดับ 3 จากครั้งที่แล้ว และทีมเบอร์ 1 ใน ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง ปัจจุบัน ยังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน และคว้าแชมป์กลุ่ม อี ได้แบบสบายๆ ด้วยสถิติไร้พ่าย (ชนะ 6, เสมอ 2) ซึ่งน่าสนใจเหลือเกินว่า เบลเยียม ยุค "โกลเด้น เจเนอเรชั่น" จะไปได้ไกลแค่ไหนในทัวร์นาเมนต์ที่ กาตาร์ เพราะยุคทองของพวกเขาใกล้หมดเวลาเต็มทีแล้ว

- เดนมาร์ก (แชมป์กลุ่ม เอฟ)
ถึงแม้เกมสุดท้ายออกไปพ่าย สกอตแลนด์ 0-2 แต่ทัพลูกหนังแดนโคนม คว้าแชมป์กลุ่มได้อย่างเหนือชั้น แถมทำผลงานได้ดีเกินคาดด้วย เพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาคว้าชัยรวด 9 นัด ทำได้ถึง 30 ประตู และเสียแค่ประตูเดียว ทำให้ เดนมาร์ก ถือเป็นอีกทีมที่น่าสนใจ หลังทำผลงานดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ศึก ยูโร 2020 

- เนเธอร์แลนด์ (แชมป์กลุ่ม จี)
ชัยชนะเหนือ นอร์เวย์ 2-0 ในนัดสุดท้าย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ทัพ "อัศวินสีส้ม" คว้าแชมป์กลุ่ม จี พร้อมคว้าตั๋วลุยบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ได้แบบอัตโนมัติ หลังจากที่พวกเขาไม่ได้ไปเล่นในหนก่อน (ปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย) นอกจากนี้ยังถือเป็นประสบการณ์ในศึก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ หนสองสำหรับกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล วัย 70 ปี ด้วย หลังจากที่เจ้าตัวเคยพา เนเธอร์แลนด์ คว้าอันดับ 3 เมื่อปี 2014 ที่ประเทศบราซิล

- โครเอเชีย (แชมป์กลุ่ม เอช)
รองแชมป์เก่าอย่าง "ตาหมากรุก" ยังคงเป็นทีมที่ไม่อาจมองข้ามได้ หลังแซง รัสเซีย คว้าแชมป์กลุ่ม เอช ในแมตช์ชี้ชะตานัดสุดท้าย ที่พวกเขาเปิดบ้านเชือด "หมีขาว" 1-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทีมของกุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช มีจุดแข็งอยู่ที่เกมรับ ซึ่งเสียแค่ 4 ประตูเท่านั้น (จาก 10 เกม) และมีแดนกลางที่อัดแน่นไปด้วยแข้งคุณภาพ นำโดย ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ มาริโอ ปาซาลิช ขณะที่แนวรุกก็มีดาวดังอย่าง อีวาน เปริซิช และ อันเดร ครามาริช เป็นตัวชูโรง

- อังกฤษ (แชมป์กลุ่ม ไอ)
แม้ต้องลุ้นยันเกมสุดท้าย แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับ "สิงโตคำราม" ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในการคว้าตั๋วลุยบอลโลกรอบสุดท้าย หลังบุกไปกระซวกสมันน้อยอย่าง ซาน มาริโน่ 10-0 เมื่อคืนวันจันทร์ ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ยอดดาวยิงประจำทีม กระตุ้งไปถึง 12 ลูก ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในศึกบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป หนนี้ ร่วมกับ เมมฟิส เดอปาย ของ เนเธอร์แลนด์

- เยอรมนี (แชมป์กลุ่ม เจ)
ทีมแชมป์โลก 4 สมัย คว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายได้แบบสบายๆ และถือเป็นชาติแรก (ไม่นับชาติเจ้าภาพ) ที่ทำได้สำเร็จ โดยตลอด 10 เกมในรอบคัดเลือก พวกเขาแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น (ชนะ 9) ซึ่งนั่นก็คือเกมที่พลิกล็อกพ่าย มาซิโดเนียเหนือ คาบ้าน 1-2  เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่ 7 เกมหลังจากนั้น ภายใต้การนำทัพของกุนซือคนใหม่อย่าง ฮันซี่ ฟลิค พวกเขาเดินหน้าเก็บชัยรวด พร้อมกับทำได้ถึง 31 ประตู เสียแค่ 2 ลูกเท่านั้น!!!

12 ชาติที่จะต้องไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ
สำหรับอีก 12 ชาติยุโรปที่จะได้ไปลุ้นต่อในการแข่งขันเพลย์ออฟ เพื่อคว้าสิทธิ์ลุยบอลโลกรอบสุดท้ายอีก 3 โควตาที่เหลือนั้น ประกอบไปด้วย 10 ทีมที่เป็นรองแชมป์กลุ่มรอบคัดเลือก + 2 ทีมแชมป์กลุ่มจากศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่มีผลงานดีที่สุด และ "ไม่ได้" จบที่อันดับ 1 หรือ 2 ในการเตะรอบคัดเลือกบอลโลก ซึ่งมีดังต่อไปนี้

 1. โปรตุเกส (รองแชมป์กลุ่ม เอ)
 2. สกอตแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม เอฟ)
 3. อิตาลี (รองแชมป์กลุ่ม ซี)
 4. รัสเซีย (รองแชมป์กลุ่ม เอช)
 5. สวีเดน (รองแชมป์กลุ่ม บี)
 6. เวลส์ (รองแชมป์กลุ่ม อี)
 7. ตุรกี (รองแชมป์กลุ่ม จี)
 8. โปแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม ไอ)
 9. มาซิโดเนียเหนือ (รองแชมป์กลุ่ม เจ)
 10. ยูเครน (รองแชมป์กลุ่ม ดี)
 11. ออสเตรีย (แชมป์ เนชั่นส์ ลีก บี กลุ่ม 1)
 12. สาธารณรัฐเช็ก (แชมป์ เนชั่นส์ ลีก บี กลุ่ม 2)


หมายเหตุ : จากการเรียงอันดับทั้ง 12 ทีมที่ได้เตะเพลย์ออฟนั้น 6 อันดับแรก ถือเป็น 6 ทีมรองแชมป์กลุ่มที่มีผลงานดีสุด ดังนั้นพวกเขาจะได้เป็นทีมวางในการประกบคู่รอบรองชนะเลิศ ส่วนทีมอันดับ 7-10 และ 2 ทีมที่ได้สิทธิ์จากการเป็นแชมป์กลุ่ม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะไม่ได้เป็นทีมวาง

ทั้งนี้ การแข่งขันรอบเพลย์ออฟจะแบ่งเป็น 3 สาย (Part A, Path B และ Path C) สายละ 4 ทีม จับคู่เตะรอบรองฯ (แข่งนัดเดียว) เพื่อหาทีมเข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งแชมป์ในแต่ละสายนั้น ก็คือ 3 ชาติยุโรปชุดสุดท้าย ที่จะได้ไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ พร้อมกับ 10 ชาติที่ได้สิทธิ์เรียบร้อย ในฐานะแชมป์กลุ่มรอบคัดเลือก

สำหรับการจับสลากประกบคู่รอบรองฯ ของการเตะเพลย์ออฟ จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยการแข่งขันรอบรองฯ จะมีขึ้นช่วงวันที่ 24-25 มีนาคม 2022 ส่วนรอบชิงฯ จะเตะช่วงวันที่ 28-29 มีนาคม 2022

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ชนะ10-0แบบไร้ค่า!โอเว่นรับเบื่อเกมทีมชาติ
    ไมเคิ่ล โอเว่น รับ ทุกวันนี้ไม่อยากดูเกมทีมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบอกว่ามันควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างได้แล้ว
  • เคนโหด,เทรนต์-ซาก้าเด่น!ตัดเกรดแข้งอังกฤษเกมบุกกระซวกซานมาริโน่10แผล
    "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ไม่พลาดกับการคว้าสิทธิ์ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีหน้า หลังคว้าแชมป์กลุ่ม ไอ ด้วยการบุกไปถล่ม ซาน มาริโน่ ชนิดไม่เกรงใจ 10-0 ในการแข่งขันนัดสุดท้าย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยที่เกมนี้ แฮร์รี่ เคน โชว์ฟอร์มโหดอีกแล้ว ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, บูกาโย่ ซาก้า และ เอมิล สมิธ โรว์ ต่างก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และนี่คือผลสอบของทัพนักเตะ "ทรี ไลอ้อนส์" แต่ละคนในแมตช์นี้ ที่พวกเขาเดินหน้าซัดคู่แข่งแบบไม่ปราณี
  • เคน-สเตอร์ลิงน่าผิดหวัง!ตัดเกรดแข้งอังกฤษเกมเปิดบ้านเจ๊าฮังการี
    "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ทำได้แค่เปิดสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เสมอ ฮังการี 1-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งแม้ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเหมือนเดิม แต่ถือเป็นเกมที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะเกมรุกไร้ประสิทธิภาพ เล่นไม่ดุดันเหมือนหลายๆ นัดที่ผ่านมา แถมนักเตะแกนหลักหลายคนเค้นฟอร์มเก่งไม่ออก และนี่คือผลสอบลูกทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต แต่ละคนในแมตช์นี้
  • ไม่ไหวอย่าฝืน! โปรตุเกสจ่อส่งโชต้าคืนทัพลิเวอร์พูล
    ดีโอโก้ โชต้า สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสส่อแววพลาดลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกวันอังคารนี้สูงลิบเนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย และจะได้รับอนุญาติให้กลับมารับการประคบประหงมกับ ลิเวอร์พูล ต้นสังกัดในลีกอิงลิช

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »