"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ตัดสินใจขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางตัวรุกชาวบราซิเลียน ให้ บาร์เซโลน่า ด้วยวงเงินสูงถึง 135 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,940 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 ซึ่ง ณ เวลานั้นทำเอาสาวก "เดอะ ค็อป" หลายคนหัวเสียไม่น้อย ที่สโมสรเลือกปล่อยแข้งคนสำคัญออกจากทีมกลางซีซั่น ถึงแม้ตัวนักเตะเองก็ทำตัวงอแง อยากอำลาถิ่น แอนฟิลด์ ใจจะขาดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ดีลของ "คูตี้" ในวันนั้น กลับกลายเป็นส่วนสำคัญที่่ช่วยพลิกประวัติศาสตร์ให้กับ ลิเวอร์พูล จากสโมสรที่ทำได้แค่ "ลุ้น" คว้าสำเร็จ กลายเป็นสโมสรที่ได้ทั้งแชมป์ยุโรป และแชมป์ลีกที่รอคอยมานานร่วม 30 ปี และนี่คือ 5 ดีลสำคัญ (พร้อมจัดอันดับ) ที่ "หงส์แดง" ยุคกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เซ็นเข้ามาร่วมทัพ หลังได้งบก้อนโตจากการขาย คูตินโญ่ ให้ บาร์ซ่า ถึงแม้ตอนนี้ยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลุนญ่ายังค้างชำระอีก 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,540 ล้านบาท) ก็ตาม (อ้างอิงจาก The Sun)

 5. เซอร์ดาน ชากิรี่ จาก สโต๊ค ซิตี้ ช่วงซัมเมอร์ปี 2018, ค่าตัว 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 572 ล้านบาท)

 ได้แข้งคุณภาพดีในราคาสุดถูก เพราะตอนนั้น สโต๊ค ตกชั้นหลังจบฤดูกาล 2017/18 แม้ตอนนี้ ชากิรี่ ไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว แต่ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลในถิ่น แอนฟิลด์ เจ้าตัวก็ช่วยทีมได้พอสมควร แม้เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานเป็นระยะๆ แถมมีช่วงเวลาที่น่าจดจำไม่น้อยด้วย โดยเฉพาะการลงสำรองมากดสองประตูสำคัญ ในเกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านสอย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2018 รวมแล้ว ชากิรี่ ลงเล่นให้ทีมไปทั้งสิ้น 63 นัด ทำได้ 8 ประตู ก่อนถูกขายให้ โอลิมปิก ลียง ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ในราคา 9.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 418 ล้านบาท)

 4. นาบี เกอิต้า จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ช่วงซัมเมอร์ปี 2018, ค่าตัว 54 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,376 ล้านบาท)

 มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาตลอด นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีม แถมฟอร์มการเล่นไม่คงเส้นคงวา แต่อย่างน้อยในฤดูกาลนี้ก็ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน แม้ยังเล่นบ้างเจ็บบ้างอีกเช่นเคยก็ตาม เมื่อเทียบกับเงิน 54 ล้านปอนด์ ที่ ลิเวอร์พูล จ่ายไป อาจจะยังไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไร แต่เชื่อเหลือเกินว่า ในร่างที่ฟิตสมบูรณ์ ดาวเตะเลือดกีนีวัย 26 ปี สามารถช่วยทีมได้ไม่น้อยแน่นอน โดยจนถึงตอนนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ "หงส์แดง" ไปแล้ว 86 นัด ทำได้ 10 ประตู กับ 5 แอสซิสต์

 3. อลีสซง เบ็คเกอร์ จาก อาแอส โรม่า ช่วงซัมเมอร์ปี 2018, ค่าตัว 56 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,464 ล้านบาท)

 ลิเวอร์พูล เซ็น อลีสซง เข้ามาร่วมทีม เพราะผู้รักษาประตูที่มีอยู่ในเวลานั้นอย่าง ซิมง มิโญเล่ต์ รวมถึง ลอริส คาริอุส (ตอนนี้ก็ยังอยู่กับทีม) ไม่สามารถไว้วางใจได้ โดยเฉพาะในรายหลังที่โชว์เหวอแบบไม่น่าให้อภัยในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ กับ เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2017/18... จากวันแรกจนถึงวันนี้ อลีสซง ถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ "หงส์แดง" ขาดไม่ได้ ช่วยให้หลังบ้านของทีมมีความมั่นคงมากขึ้น ขณะที่เพื่อนร่วมทีมก็สามารถเล่นด้วยความสบายใจ โดยตอนนี้ นายทวารหน้าหล่อเลือดแซมบ้าวัย 29 ปี ลงเฝ้าเสาให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้วทั้งสิ้น 144 นัด เก็บคลีนชีตได้ 65 เกม และทำ 1 ประตู!!!

 2. ฟาบินโญ่ จาก อาแอส โมนาโก ช่วงซัมเมอร์ปี 2018, ค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,760 ล้านบาท)

 เข้ามาช่วยเติมเต็มให้แดนกลาง "หงส์แดง" มีความลงตัว และเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งอยู่ข้างหน้าแผงหลัง แถมสามารถถูกใช้งานเป็นเซนเตอร์แบ็กยามจำเป็นด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เงิน 40 ล้านปอนด์ ที่ ลิเวอร์พูล จ่ายให้ โมนาโก ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม เพราะ ฟาบินโญ่ มีผลงานดีต่อเนื่องตลอดการลงเล่น 133 นัด ในสีเสื้อ "หงส์แดง" แถมมีช่วยทำ 4 ประตู

 1. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ช่วงเดือนมกราคม ปี 2018, ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท)

 ย้ายมาในตลาดรอบเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล ขาย คูตินโญ่ ให้ บาร์เซโลน่า ซึ่งตอนแรกหลายๆ คนตั้งแง่เกี่ยวกับเรื่องค่าตัวที่แพงเกินไป แต่ตอนนี้ทุกคนที่ตั้งคำถามในวันนั้น คงได้คำตอบกันเรียบร้อย... ฟาน ไดค์ เป็นหัวใจสำคัญของทีม ไม่ใช่แค่เรื่องเกมรับ แต่ภาพรวมของทีมด้วย แม้ฤดูกาลนี้ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวยังไม่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานเดิม หลังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าช่วงต้นฤดูกาลก่อน แต่แน่นอนว่า การคว้าตัว ปราการหลังชาวดัตช์วัย 30 ปี มาจาก "นักบุญ" เมื่อช่วงต้นปี 2018 ถือเป็นดีลสุดสำคัญที่ช่วยยกระดับ ลิเวอร์พูล จนกลายเป็นสโมสรที่สามารถคว้าได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก... ขอบคุณนะ "คูตี้"