ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ใหญ่ฟัดใหญ่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 12

ใหญ่ฟัดใหญ่! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 12

Posted 20/11/2021 by siamsport

ช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของปีนี้ ผ่านไปเรียบร้อย สุดสัปดาห์นี้มาระเบิดความมันส์กันต่อกับโปรแกรม พรีเมียร์ลีก ที่มีหลายคู่น่าสนใจลงขับเคี่ยวกัน

    "เลสเตอร์-เชลซี"

 เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นในถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ไม่แพ้ เชลซี เลยตลอดการเจอกันในลีก 3 นัดหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 2) โดยหนสุดท้ายที่ "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่แพ้ "สิงห์บลูส์" ยามเล่นบ้านตัวเองนานกว่านี้เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 1985 ถึงเดือนพฤษภาคม 1995 สมัยยังเล่นที่ ฟิลเบิร์ต สตรีท คือเสมอ 4 นัดติด

    เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกวัยดึกของ เลสเตอร์ ขาดแค่ 2 สกอร์เท่านั้นก็จะทำให้เขาก้าวขึ้นไปเทียบสถิติ เอียน ไรท์ ในการที่เป็นแข้งที่ยิงมากที่สุดหลังจากเข้าสู่วัย 30 ปีไปแล้ว(93 ประตู) อย่างไรก็ดี การเจอกับทีมจ่าฝูง 9 เกมหลังสุดที่ วาร์ดี้ เผชิญหน้า เจ้าตัวทำได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น คือเกมที่เอาชนะ แมนฯซิตี้ 5-1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018

    การออกเล่นเกมเยือนของ เชลซี ทำได้ดีเอาสุด ๆ โดยเฉพาะ 3 เกมหลังที่คว้าชัยได้เรียบวุธ    และมีผลต่างสกอร์ 7-0 ถึงกระนั้น นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2018 พวกเขายังไม่เคยบุกเก็บชัยนอกถิ่นในลีก 4 เกมติดแบบเก็บคลีนชีตทุกนัดได้เลย (ในยุคของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ทำไว้ติดต่อกัน 6 นัด)

    โรเมลู ลูกากู ซัดประตูใส่ทีมที่มี เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คุมทัพไปแล้ว 5 ลูกจาก 8 เกมลีกหลังสุด โดยไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ทำสถิติในด้านนี้มากกว่าเขาอีกแล้ว (เทียบเท่ากับ แฮร์รี่ เคน)

    "วัตฟอร์ด-แมนฯ ยูไนเต็ด"

    หากย้อนไปยังจุดเริ่มต้นที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 ยอดแข้งโปรตุกีส มีส่วนร่วมกับประตูที่ทำทีมทำได้ต่อทีมน้องใหม่ 104 ประตูจากการลงเล่น 91 เกม (83 ประตู 21 แอสซิสต์) โดยมีค่าเฉลี่ยกระทุ้งประตูได้ทุก ๆ 71 นาที อีกทั้งเมื่อนับตอนอยู่ เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ด้วยนั้น 14 เกมลีกหลังสุดที่เจอทีมน้องใหม่ โรนัลโด้ ซัดไปถึง 20 ประตู

    21 เกม พรีเมียร์ลีก หลังสุดของ วัตฟอร์ด พวกเขาเสียอย่างน้อย 1 ประตูทุกนัด ซึ่งเป็นสถิติไร้คลีนชีตติดต่อกันนานี่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุด

    "ปีศาจแดง" เอาชนะ "แตนอาละวาด" บนเวทีลีกสูงสุด 18 นัดจาก 26 เกม (เสมอ 4 แพ้ 4) คิดเป็น 69% และนับเฉพาะการเจอกับทีมอื่น ๆ อย่างน้อย 20 นัด มีแค่ ลูตัน ทาวน์ เท่านั้นที่พวกเขามีสถิติดีกว่า( 73% เจอ 30 นัด ชนะ 22 เกม)

    ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ไร้ชัยชนะต่อทีมน้องใหม่ใน พรีเมียร์ลีก ไล่ตั้งแต่ เวสต์บรอมฯ , ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ฟูแล่ม ถึงกระนั้น พวกเขาไม่เคยไม่ชนะต่อทีมน้องใหม่ 4 นัดติดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1997 ที่ไม่ชนะต่อ ซันเดอร์แลนด์, ดาร์บี้ เคาน์ตี้, เลสเตอร์ และ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส

    "ลิเวอร์พูล-อาร์เซน่อล"

   โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงใส่ อาร์เซน่อล ในศึก พรีเมียร์ลีก 9 ครั้ง ( 7 ประตู 2 แอสซิสต์) โดยสำหรับการเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ เจอ "เดอะ กันเนอร์ส" ดาวเตะอียิปต์ ทำไป 4 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 4 เกม

    ลิเวอร์พูล เพิ่งเสียสถิติไม่แพ้ใครในลีก 20 เกมต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อเกมก่อน และความปราชัยในลีก 3 เกมหลังสุดเกิดขึ้นกับการเจอทีมจากกรุงลอนดอน โดยมี เชลซี กับ ฟูแล่ม เป็นทีมต้นเหตุ

    ถึงตอนนี้ อาร์เซน่อล กลายเป็นทีมที่ไม่แพ้ใครนานสุดในพรีเมียร์ลีก ( 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 2 ) โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาไม่แพ้ติดต่อกันนานสุดเกิดขึ้นในยุคของ อูไน เอเมรี่ ที่ทำไว้ 14 นัดตอนช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนธันวาคม ปี 2018

    "เดอะ กันเนอร์ส" เก็บคลีนชีต 6 นัดจาก 9 เกมหลังสุดในการเล่นเกมเยือนบนศึก พรีเมียร์ลีก รวมถึงทำได้ตลอด 3 เกมสุดหลังอีกด้วย อย่างไรก็ดี อาร์เซน่อล ยังไม่สามารถเก็บคลีนชีตนอกบ้าน 4 เกมติดต่อกันได้เลยนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2005

    "แมนฯ ซิตี้-เอฟเวอร์ตัน"

   ท่ามกลางทีมที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก นั้น เอฟเวอร์ตัน คือทีมที่สามารถเอาชนะทีมแชมป์เก่าได้มากที่สุด(14 ครั้ง) โดยเมื่อซีซั่นที่แล้วพวกเขาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่เป็นแชมป์เก่าเมื่อปีก่อนได้ 2-0 ที่ แอนฟิลด์ ตอนเดือนกุมภาพันธ์

    แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ได้ตลอด 7 เกมหลังที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก โดยซัดไป 21 ลูก และเสียแค่ 5 ประตูเท่านั้น

    กาเบรียล เชซุส กองหน้าแซมบ้าของ ซิตี้ ทำประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน ไปแล้ว 8 ลูกจาก 8 เกมที่เจอกันหลังสุด เหนือกว่าทีมอื่น ๆ ที่เขาเผชิญหน้ามา โดยหัวหอกทีมชาติบราซิล มีค่าเฉลี่ยยิงใส่พลพรรค "ทอฟฟี่เมน" ทุก ๆ 69 นาที

    เอฟเวอร์ตัน ไร้ชัยในลีกมาแล้ว 5 นัดติด(เสมอ 2 แพ้ 3) โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่ชนะใครนานสุดเกิดขึ้นในยุคของ "บิ๊กแซม" แซม อัลลาไดซ์ ที่ไม่ชนะ 6 เกมติดตอนช่วงเดือนมกราคม 2018

    "สเปอร์ส-ลีดส์"

    นี่จะเป็นเกมแรกที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ลงคุม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในรังเหย้าของตัวเอง และจะเป็นการทำหน้าที่เจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยที่ผ่าน คอนเต้ เผชิญหน้าในฐานะผู้จัดการทีมไม่ว่าสมัยที่ เซเรีย อา อิตาลี หรือใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขาเอาชนะคู่แข่งมาแล้ว 53 ทีม

    เกมนี้จะเป็นนัดที่ 100 ทุกรายการที่ สเปอร์ส เจอกับ ลีดส์ ซึ่งทีมจากเมืองหลวง เป็นฝ่ายคว้าชัย 37 นัด ส่วน "ยูงทอง" ชนะไป 33 เกม และเสมออีก 29 นัด

    โรดริโก้ แนวรุกสแปนิชของ ลีดส์ ประตูใส่ "ไก่เดือยทอง" 2 ประตูจาก 3 เกมที่เจอกันทุกรายการ โดยทำได้ตั้งแต่สมัยอยู่ เบนฟิก้า ที่เจอกันในศึก ยูโรปา ลีก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2014 และทำได้อีกครั้งเมื่อซีซั่นก่อน บนชัยชนะ 3-1 เหมือนกันทั้งสองเกม

    ลีดส์ ออกเยือนถิ่นของ สเปอร์ส 4 ครั้งหลังสุดในลีก ปรากฏว่ากลับออกมาด้วยการไร้แต้มทุกนัด โดยชัยชนะที่สนาม "ไก่เดือยทอง" ครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2001 ด้วยสกอร์ 2-1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »