ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ใครคือราล์ฟ รังนิค? 4 ประเด็นต้องรู้จักว่าที่กุนซือขัดตาทัพของแมนยู

ใครคือราล์ฟ รังนิค? 4 ประเด็นต้องรู้จักว่าที่กุนซือขัดตาทัพของแมนยู

Posted 26/11/2021 by siamsport

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวจ่อแต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิค ให้รับตำแหน่งผู้จัดทีมชั่วคราวของสโมสรในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
     รายงานข่าวแจ้งว่ากุนซือวัย 63 ปีตกลงที่จะเซ็นสัญญาหกเดือนกับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากสโมสรยักษ์แห่ง พรีเมียร์ลีก อัปเปหิ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
 
     ด้วยเหตุที่เป็นผู้รอบรู้ และมีกิตติศัพท์ในวงการลูกหนังของลีกเมืองเบียร์มาเป็นเวลายาวนาน แมนฯ ยูไนเต็ด จึงพร้อมฝากอนาคตเอาไว้กับนายใหญ่ชาวด๊อยทช์รายนี้

     และแน่นอนว่าบรรดาโค้ชร่วมชาติทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ , โธมัส ทูเคิ่ล และ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ ต่างก็ยกย่อง และเรียนรู้แท็คติกของกุนซืออาวุโสรายนี้ด้วยกันทั้งนั้น

     ด้วยฉายา "เดอะ โปรเฟสเซอร์" มันฟ้องให้เห็นว่า รังนิค คือหนึ่งในผู้คิดค้นระบบการเล่น เกเก้นเพรสซิ่ง อันเป็นสไตล์ที่ทีมนั้นๆจะต้องไล่บี้แย่งบอลกลับคืนมาจากฝ่ายตรงข้ามทันทีหลังเสียการครองบอล

     ดังจะเห็นได้ว่าฟุตบอลสมัยใหม่ต่างก็ใช้กลยุทธ์นี้ด้วยกันทั้งนั้น หรือไม่อย่างน้อยๆหลายทีมก็นำไปประยุกต์ใช้กันเป็นทิวแถว

     ว่าแต่ว่า รังนิค คือใครกัน? เรามาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันได้เลย

1. ช่วงเริ่มต้น

     น่าทึ่งไม่น้อยเลยที่ รังนิค เริ่มจับงานโค้ชตั้งแต่อายุ 25 ปีในปี 1983 หลังผ่านการเล่นฟุตบอลในระบบเซมิโปร

     อย่างไรก็ดี ปรัชญาของเขาขัดแย้งกับเทรนด์ในยุคนั้นซึ่งทีมชาติเยอรมันลงบู๊ในระบบ 3-5-2 และมีการเล่นแบบแมน มาร์คกิ้ง

     แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทีมชาติเยอรมันตะวันตกด้วยเนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จจากสไตล์ดังกล่าวด้วยการคว้าแชมป์โลกปี 1990 หลังได้ตำแหน่งรองแชมป์เมื่อสี่ปีก่อน

     อย่างไรก็ดี รังนิค มีไอเดียเป็นของตัวเองถึงการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม

     ในปี 1997 เขาประสบความสำเร็จหนแรกในการจับงานคุมทีมเล็กๆที่ชื่อ อูล์ม 1846 โดยพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นสี่ได้

     หลังจากนั้นอีกปีเดียว เขาก็ถูกเชิญให้ไปปรากฏตัวในรายการทีวีของประเทศเพื่ออธิบายถึงทฤษฏีฟุตบอลของเขา

     เท่านั้นแหละ สื่อเมืองไส้กรอกก็มอบฉายา "โปรเฟสเซอร์" ให้กับเขาซึ่งเชื่อว่าเป็นไปแบบเยอะเย้ย และดูแคลนซะมากกว่าเนื่องจากกลวิธีของเขาแตกต่างไปจากระบบการมีสวีปเปอร์ที่ ฟร้านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ตำนานของชาติชื่นชอบ

     "ปฏิกริยาของสื่อรวมถึงคนในวงการฟุตบอลน่าตลกมาก" รังนิค เอ่ยกับ อีเอสพีเอ็น

     "เหตุผลหลักเป็นเพราะว่าเมื่อ 30 ปีก่อน ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ วางรากฐานให้ประเทศของเราด้วยการเล่นแบบมีสวีปเปอร์ หรือลิเบอโร่เพื่อตัวของเขาเอง"

     "ฟร้านซ์ เองยังพูดออกมาเลยว่าในช่วงกลางยุค 90 คุณไม่อาจเล่นแบบคุมโซนได้สำหรับแผงแบ็คโฟร์เพราะนักเตะเยอรมันไม่เข้าใจว่ามันเล่นกันยังไง"

     "ผมถามตัวเองว่านักเตะเยอรมันฉลาดน้อยกว่านักเตะเบลเยี่ยม หรือสเปน หรือฮอลแลนด์หรือไง? สำหรับผม มันไม่สมเหตุสมผลเลย"

2. เกเก้นเพรสซิ่ง

     ย้อนเวลากลับไปในอดีตก่อนหน้านั้น เกเก้นเพรสซิ่ง ของ รังนิค ทำเอา วาเลรี่ โลบานอฟสกี้ ผู้จัดการทีมชาติยูเครนถึงกับสะอึกมาแล้วสมัยที่เขาคุมทีม ดินาโม เคี๊ยฟ และถูก วิคตอเรีย บัคนัง ทีมระดับดิวิชั่นหกของ รังนิค ไล่บี้จนนักเตะของเขาแทบไม่ได้หายใจหายคอในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 1983

     และมันเป็นแท็คติกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจริญรอยตามภายใต้แบรนด์ของตัวเอง "เฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอล"

     "หนึ่งในโค้ชที่เยี่ยมที่สุด หากไม่ได้เยี่ยมที่สุดในเยอรมัน" คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล เอ่ยถึง รังนิค เอาไว้แบบนี้

     ต่อปรัชญาของระบบ เกเก้นพรสซิ่ง รังนิค ระบุว่า "มันเรียบง่ายมาก"
       
     "มันเป็นสไตล์ฟุตบอลเชิงรุกซึ่งคล้ายกับที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล เล่นในยุคของ คล็อปป์" รังนิค เสริม

     "เราชอบการเพรสสูง เมื่อเราได้ครองบอล เราจะไม่ผ่านบอลแบบขวางสนาม หรือว่าส่งคืนหลัง"

     "นายทวารไม่ใช่คนที่ต้องสัมผัสบอลมาก ในลีกส่วนใหญ่ของทุกประเทศ นายทวารมีเทคนิคที่จำกัดที่สุดในสนาม ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องทำให้มั่นใจว่าเขาจะได้สัมผัสบอลด้วยเท้าน้อยที่สดุ"

     "มันเป็นการเล่นเกมรุกที่รวดเร็วฉับไว รวมถึงการโต้กลับด้วย มันเป็นสไตล์ฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น และน่าสนุก"

3. ความสำเร็จ

     นับจากปี 2001-2004 รังนิค กุมบังเหียน ฮันโนเวอร์ และเขาสามารถพาทีมเลื่อนขึ้นสู่ บุนเดสลีกา ได้

     จากนั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาพลาดได้ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติเยอรมันในยุคของ โยอัคคิม เลิฟ และมาได้งานคุมทีม ชาลเก้ แทน

     ถึงกระนั้นมันก็เป็นช่วงเวลาทองของ ราชันสีน้ำเงิน เนื่องจากพวกเขาได้ตำแหน่งรองแชมป์ บุนเดสลีกา โดยเป็นรอง บาเยิร์น มิวนิค

     แต่ก็มาพ่าย เสือใต้ ด้วยเช่นกันในนัดชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล ปี 2005

     หลังจาก ชาลเก้ มีผลงานย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง รังนิค ก็ถูกปลด แต่เขาได้กุมบังเหียน ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในปี 2006

     และบางทีกับสโมสรเล็กๆแห่งนี้ที่ รังนิค น่าจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในฐานะโค้ชเนื่องจากเขาพาทีมระดับดิวิชั่นสามเลื่อนชั้นได้ทุกปี กระทั่งผงาดขึ้นสู่ บุนเดสลีกา

     อย่างไรก็ดี เขาอำลา ฮอฟเเฟ่นไฮม์ ซึ่งมีสถานภาพที่น่าอุ่นใจในลีกสูงสุดของประเทศกลับไปกุมบังเหียน ชาลเก้ เป็นคำรบสองเนื่องจากยังปฏิบัติภารกิจได้ไม่ลุล่วง

     และในที่สุด เขาก็พาทีมซิวแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ได้ และผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่กุนซือจอมเก๋าจะเริ่มอ่อนระโหย และสละเก้าอี้ในปี 2011

4.โปรเจ็คใหม่

     รังนิค ปลีกตัวออกจากการคุมทีมข้างสนาม  แต่หันไปรับบทบาทใหม่กับทีมในเครือ เร้ดบูลล์ ทั้ง ไลป์ซิก ,ซัลซบวร์ก และ นิวยอร์ค ในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของบริษัท

     ภายใต้การดูแลของเขาซึ่งมีเงินสนับสนุนจากมหาเศรษฐีพันล้าน ดีทริช เมเทสชิตซ์ ไลป์ซิก สร้างความฮือฮาปีนจากดิวิชั่นสี่ขึ้นสู่ บุนเดสลีกา ได้ในเวลาแค่หกปี

     แฟนบอลไม่ชอบสิ่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันขัดแย้งกับกฏ 50+1 อันเป็นโมเดลของลีก แต่แน่นอนว่าแฟนบอล ไลป์ซิก ไม่สนใจ

     แม้จะไม่เป็นที่นิยมชมชอบ ไลป์ซิก ก็กลายมาเป็นท๊อปโฟร์ของลีกเมืองเบียร์เช่นเดียวกับการเป็นแขกขาประจำของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

     จนในที่สุด รังนิค ก็กลับมานั่งเก้าอี้กุนซือด้วยตัวเองคุมทีม ไลป์ซิก ระหว่างปี 2015-16 และ 2018-19 แต่ชั่วโมงนี้เขาชอบบทบาทที่ปรึกษามากกว่าแล้ว
 
     หลังทำงานได้ลุล่วง เขาก็ย้ายทีมอีกครั้งโดยมีข่าวแพร่ออกมาว่า เอซี มิลาน จะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของเขา

     ทว่าน่าเซอร์ไพรส์อย่างแรงที่ รังนิค เลือกรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนากีฬาของ โลโคโมทีฟ มอสโกว์ ทีมลูกหนังของรัสเซียเมื่อซัมเมอร์ก่อนภายใต้สัญญาสามปี
 
     กระทั่งมาได้รับการทาบทามจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มันจึงเป็นความเย้ายวนที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้

     เอาเป็นว่าเราคงต้องมาลุ้นกันดูล่ะว่าปรมาจารย์จากเมืองเบียร์จะช่วยปลุกยักษ์หลับรายนี้ให้ตื่นขึ้นมาอาละวาดได้ดังเดิมอีกหนหรือเปล่า?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ม้ามืดเข้าวิน!แมนยูจ่อตั้งรังนิคคุมทีมชั่วคราว
    ดิ แอธเลติก รายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จ่อได้ผู้จัดการทีมขัดตาทัพอย่างแน่นอนแล้วหลังจาก ราล์ฟ รังนิค พ่อมดลูกหนังชาวเมืองเบียร์ตกลงปลงใจรับงานกับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเตรียมอำลาตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาการกีฬาของ โลโคโมทีฟ มอสโกว์ สโมสรในลีกรัสเซีย
  • ผมไม่ใช่กุนซือชั่วคราวนะ!เผยคำพูดรังนิคที่เคยปัดเชลซีก่อนเลือกคุมแมนยู
    งานนี้สาวก "ปีศาจแดง" มีงง... ราล์ฟ รังนิค ว่าที่กุนซือชั่วคราว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยหลุดคำพูดด้อยค่าบทบาทกุนซือคั่นเวลา ตอนที่ได้รับการทาบทามจาก เชลซี เมื่อช่วงต้นปี
  • เท่าไหร่?เปิดค่าเหนื่อยโซลชาตลอดช่วงคุมแมนยู
    101เกร็ทโกลส์ เว็บไซต์ข่าวสารวงการฟุตบอล เปิดเผยว่าโดยรวมแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้ค่าเหนื่อยในช่วงที่กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเงินทั้งหมด 26.33 ล้านปอนด์ โดยที่จริงก่อนหน้านี้เขาได้ค่าชดเชยไปแล้ว 7.5 ล้านปอนด์ด้วยกัน
  • มีเงื่อนไข?รังนิคพร้อมรับงานคุมแมนยูชั่วคราว
    เดอะ ไทม์ส สื่อของอังกฤษ ตีข่าว ราล์ฟ รังนิค ยินดีที่จะมาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด แบบชั่วคราว แต่มีเงื่อนไขว่าอยากได้รับตำแหน่งสำคัญๆ กับสโมสรหลังจบซีซั่นนี้ด้วย ขณะที่ เดอะ เทเลกราฟ สื่ออีกเจ้าของเมืองผู้ดีบอกว่า "ปีศาจแดง" หวังที่จะหากุนซือขัดตาทัพตัวจริงให้ทันสำหรับการทำหน้าที่ในเกมกับ เชลซี วันอาทิตย์นี้เลย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »