ลิเวอร์พูล เกือบต้องร้างแชมป์พรีเมียร์ลีก นานกว่า 30 ปีแหงๆ หากเมื่อปี 2013 เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจรับปากจะคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่วางมือ แต่เดชะบุญที่กุนซือชาวเยอรมันปฏิเสธโอกาสทอง ก่อนจะกลายเป็นตำนาน "หงส์แดง"
     เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ย้อนความหลังถึงเหตุผลที่ปฏิเสธรับทายาท เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะก้าวเข้ามาเป็นตำนาน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

     กุนซือเลือดด๊อยท์ช รับงานกุมบังเหียน "เดอะ เร้ดส์" ในปี 2015 ก่อนที่จะนำสโมสรประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 6 ตามด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรกในรอบ 30 ปี

     นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังได้สร้างระบบการเล่นที่ทำให้ "หงส์แดง" กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดัน และยิงประตูคู่แข่งระเบิดเถิดเทิง ด้วยความสุดยอดของเขาทำให้ตอนนี้เจ้าตัวได้รับการยกย่องสาวก "เดอะ ค็อป" ว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของสโมสร

     ความสำเร็จมากมายของ ลิเวอร์พูล เกือบจะไม่เกิดขึ้นหาก คล็อปป์ ตัดสินใจรับงานคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013 แทน "เซอร์เฟอร์กี้" ที่ประกาศเกษียณตัวเอง

     คล็อปป์ กล่าวว่า "เราคุยพูดคุยกัน เราก็ไม่ได้คุยกันเยอะแต่สำหรับผมถือว่าเยอะเลยละ บอกตามตรงว่ามันเป็นเกียรติอย่างสูง แต่ผมไม่สามารถทิ้ง ดอร์ทมุนด์ ไปได้  คุณอยู่ในช่วงเดือนเมษายน และคุณอยู่ระหว่างกลางของแผนสำหรับฤดูกาลต่อไป"

     "คุณได้นักเตะคนนี้ และคนนี้ซึ่งกำลังจะย้ายมาร่วมทีมแต่หลังจากนั้นคุณดันไม่อยู่กับทีมแล้ว แบบนั่นมันไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่ตัวผม ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของเสนอจริงจังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด"

     "แต่หากมันมีจริงๆ ผมก็ไม่สามารถรับงานได้ สิ่งแรกผมต้องการจบงานของผมกับ ดอร์ทมุนด์ และจากนั้นค่อยคิดเกี่ยวกับเรื่องอื่น บางทีมันคงเป็นเรื่องไม่ค่อยฉลาดนัก แต่นี่แหละสไตล์ผม ก็เหมือนกับตอนที่อยู่ไมนซ์" คล็อปป์ ระบุ

     ทั้งนี้หลังจากพลาดตัว คล็อปป์ พวกเขาตัดสินใจแต่งตั้น "กุนซือผู้ถูกเลือก" อย่าง เดวิด มอยส์ เข้ามาสานต่องาน "ป๋า" และก็อยู่ได้ไม่ได้ก็โดนปลด หลังจากนั้นทีมก็จ้างผู้จัดการทีมอีกหลายคนทั้ง หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่บทสรุปก็คือทีมยังไม่ประสบความสำเร็จในลีกเมืองผู้ดี