ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » รังนิกเปิดตัวสวย! เฟร็ดกดชัยสุดงาม-แมนยูอัดพาเลซตามท็อปโฟร์3แต้ม

รังนิกเปิดตัวสวย! เฟร็ดกดชัยสุดงาม-แมนยูอัดพาเลซตามท็อปโฟร์3แต้ม

Posted 06/12/2021 by siamsport

ราล์ฟ รังนิก กุนซือเยอรมันประเดิมคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการคว้า 3 คะแนนหลังเปิดรังเบียดชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของ เฟร็ด ช่วยให้ "ปีศาจแดง" แซง อาร์เซน่อล ขึ้นมารั้งที่ 6 พร้อมมีแต้มตามพื้นที่ท็อปโฟร์เหลือ 3 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 พบ คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 11 ของตาราง

    แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะได้ถึง 2 จาก 3 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ โดยเกมนี้  ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน จะได้ประเดิมคุมทีมเป็นเกมแรกหลังจากที่ได้เวิร์กเพอร์มิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวาง 11 ตัวจริงแทบจะชุดเดิมจากยุคของ ไมเคิ่ล คาร์ริค แนวรุกวาง เจดอน ซานโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำเกมรุกอยู่หลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยืนเป็นหอกตัวเป้า

    ด้าน คริสตัล พาเลซ ของ ปาทริค วิเอร่า ส่ง 3 ประสานแนวรุกทั้ง จอร์แดน อายิว, คริสติย็อง เบนเตเก้ และ วิลฟรีด ซาฮา ลงล่าตาข่าย โดยมี คอเนอร์ กัลลาเกอร์ มิดฟิลด์ตัวเก่งคอยปั้นเกมสนับสนุน

    เปิดฉากครึ่งแรกมา แมนยู เริ่มต้นกันอย่างคึกคักครองเกมบุกเข้าใส่ทันที และมาได้ลุ้นทักทายครั้งแรกในนาทีที่ 3 จากจังหวะเล่นเตะมุมสั้นทางฝั่งซ้าย ก่อนบอลจะมาจบที่ อเล็กซ์ เตลลิส ที่ได้ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

    จากนั้น พาเลซ ได้โต้กลับมาบ้าง นาทีที่ 9 ได้ลุ้นจากลูกยิงของ วิลเฟร็ด ซาฮา ได้เขตโทษแต่บอลยังไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา รับเข้าซองไม่ยาก
   แมนยู ยังเดินหน้าบุกใส่ได้มากกว่า นาที 12 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้กดฟรีคิกด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลยังเหินข้ามคาน

    เจ้าถิ่นขึ้นเกมหลากหลายซ้ายทีขวาทีเร่งเครื่องจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้ นาที 19 ดีโอโก้ ดาโลต์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ โรนัลโด้ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ

    ถัดมานาที 26 แมนยู หวิดขึ้นนำอีกครั้งจากการประสานงานของโปรตุกีสคอนเน็คชั่น โรนัลโด้ จ่ายถวายพานให้ บรูโน่ ได้ตวัดยิงโล่งๆด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลกแต่ยังโดน บิเซนเต้ กวยต้า พุ่งปัดไว้ได้

    นาทีที่ 33 เจดอน ซานโช่ รับบอลก่อนลากจากซ้ายเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาบอลไปติดบล็อกแนวรับ พาเลซ ไปตกบนตาข่าย
 ช่วงเวลาที่เหลือ แมนยู ยังเจาะแนวรับ พาเลซ เข้าไปทำประตูไม่ได้ โดยมาได้โอกาสส่งท้ายในช่วงทดเจ็บนาที 45+1 จากลูกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษของ ดีโอโก้ ดาโลต์ บอลข้าคานไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 โดยที่ แมนยู ครองบอลมากกว่าถึง 66 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสจบสกอร์ไป 12 ครั้ง

     ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 49 บรูโน่ แฟร์นันด์ส แต่งเข้าขวาแล้วซัดหน้าเขตโทษบอลยังเหินข้านคานออกไป

    เกมผ่าน 60 นาที แมนยู ยังครองเกมได้มากกว่าแต่ยังมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์หลังจากครึ่งหลังมีโอกาสลุ้นประตูแค่หนเดียว ส่งผลให้ รังนิก แก้เกมด้วยการส่ง เมสัน กรีนวู้ด ลงมาเล่นแทน เจดอน ซานโช่ ในนาทีที่ 62

    จกานั้นนาทีที่ 68 แมนยู ใกล้เคียงที่จะขึ้นนำสุดๆ อเล็กซ์ เตลลิส กดฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวาบอลพุ่งไปตกบนคาน

    โอกาสลุ้นประตูของ แมนยู ลดลงไปจากครึ่งแรกอย่างชัดเจน นาที 75 พาเลซ ได้โต้กลับมาบ้าง และเกือบจะทำช็อกเจ้าถิ่นจากจังหวะเตะมุม เจมส์ ทอมกิ้นส์ โหม่งตั้งให้ จอร์แดน อายิว ได้ยืนซัดโล่งๆคนเดียวที่เสาไกลแต่บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป

    นาที 76 รังนิก ตัดสินใจส่ง แอนโธนี่ อีแลงก้า กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ลงมาเล่นแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด

    จนกระทั่งนาที 78 ความพยายามของ แมนยู มาสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ เมสัน กรีนวู้ด ไหลบอลย้อนไปที่หน้าเขตโทษใหเ แล้วเป็น เฟร็ด ปั่นด้วยขวาแบบไม่จับส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 แซง อาร์เซน่อล ขึ้นมารั้งที่ 6 พร้อมมีแต้มตามพื้นที่ท็อปโฟร์เหลือ 3 คะแนน

   
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ดิโอโก้ ดาโลต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - เจดอน ซานโช่ (เมสัน กรีนวู้ด น.72), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.86), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า น.76) - คริสเตียโน่ โรนัลโด้

คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ กวยต้า - นาธาเนียล ไคลน์, เจมส์ ทอมกิ้นส์, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - คอเนอร์ กัลลาเกอร์, เจฟฟรีย์ ชลูปป์, ชีคฮู คูยาเต้ - จอร์แดน อายิว, คริสติย็อง เบนเตเก้, วิลฟรีด ซาฮา  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »