สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า นำต้นสังกัดเปิดรังวิลล่า พาร์ค พลิกสถานการณ์ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ทีมพุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 10 แล้ว
    
ตำนานกัปตันทีม ลิเวอร์พูล สร้างผลงานดีมีคุณภาพนับตั้งแต่ที่คุม "สิงห์ผงาด" โดย 4 เกมที่ผ่านมาทีมเก็บชัยชนะ 3 แมตช์แพ้ 1 เกม ซึ่งเป็นการแพ้อย่างสูสีในการปะทะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมตช์นี้ "สตีวี่จี" แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการคุมทีมและการแก้เกมที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ วิลล่า สามารถพลิกสถานการณ์จากตามหลังทีมเยือน ก่อนจะซัดคืนสองลูกแซงชนะได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับเกมต่อไป วิลล่า มีคิวเยือน ลิเวอร์พูล แน่นอนว่ามันคงจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายทั้งกับสาวก "เดอะ ค็อป" และ เจอร์ราร์ด  เพราะนี่คือการกลับบ้านในฐานะคู่แข่งไม่ใช่มิตรสหาย !!

1. เจอร์ราร์ดโชว์กึ๋น

เจอร์ราร์ด แสดงให้เห็นแล้วว่าสไตล์การเล่นฟุตบอลของเขาคือการเน้นเกมบุก และสู้ทุกจังหวะ ในแมตช์นี้แม้ว่า วิลล่า จะโดนขึ้นนำไปก่อนก็ตาม แต่นักเตะเจ้าบ้านยอมแพ้ไล่บี้ขยี้แหลกผู้มาเยือนจนกระทั่งได้ประตูตีเสมอ

ในครึ่งหลัง "สตีวี่จี" โชว์กึ๋นในการแก้เกมได้อย่างสุดยอด โดยหลังจากที่ลงมาเล่นในช่วง 45 นาทีหลังนักเตะวิลล่าขยันวิ่ง และไล่บี้จนทำให้ เลสเตอร์ ตั้งเกมไม่ติด โดยเฉพาะแนวรับที่ปั่นป่วนอย่างหนัก และสุดท้ายก็ต้องมาเสียประตู

หลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 บรรดานักเตะวิลล่า ยังคงเดินหน้าพยายามที่จะทำประตูเพื่อหวังจบเกมให้ได้ แต่น่าเสียดายที่แนวรุกของพวกเขาขาดความเฉียบคม ไม่อย่างนั้นแฟนบอลวิลล่าคงไม่ต้องมาลุ้นจนหัวใจจะวายในช่วงท้ายเกมแบบนี้

2. ร็อดเจอร์สเก้าอี้ร้อน

หลังจากที่กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมถึงขนาดเคยขึ้นเป็นเต็งหนึ่งในการเข้ามาคุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กำลังกลายเป็นผู้จัดการทีมที่มีสิทธิ์โดนปลดออกจากตำแหน่งสูงมากๆ

ผลงานในเกมลีกของ "บีร็อด" 6 แมตช์ล่าสุดพวกเขาชนะแค่เกมเดียว ที่เหลือเป็นเสมอ 2 และแพ้ 3 เกม ทำให้ตอนนี้มีแค่ 19 แต้มหล่นมาอยู่อันดับ 11 โดยมีคะแนนห่างจากพื้นที่ท็อปโฟว์ซึ่งเป็นโควตาสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 8 คะแนน

ในแมตช์ต่อไป ร็อดเจอร์ส ต้องนำขุนพล "จิ้งจอกสยาม" รับมือ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมหนีตาย งานนี้หากเขาไม่สามารถดึงศักยภาพทีมออกมาได้ และผลการแข่งขันน่าผิดหวัง อาจจะเกิดเรื่องเซอร์ไพรส์หลังจบเกมก็ได้ !!

3. ขาด ตีเลอมันส์ กระทบเลสเตอร์

สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของ ร็อดเจอร์ส ที่มักแสดงให้เห็นตั้งแต่สมัยคุมลิเวอร์พูล จนกระทั่งปัจจุบันคุม เลสเตอร์ ก็คือการที่เขามักจะสร้างผลงานได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อขาดนักเตะแกนหลัก

แมตช์นี้ ยูรี่ ตีเลอมันส์ ซึ่งคีย์แมนสำคัญของทีมไม่สามารถลงสนามได้ทำให้ ฟอร์มของ "เดอะ ฟ็อกซ์" ดร็อปลงไปทันตาเห็นโดยเฉพาะในเกมรุกที่ขาดความหลากหลายในการเข้าทำ

ตีเลอมันส์ เป็นหนึ่งในกองกลางที่เลี้ยงบอลได้ดี และสร้างสรรค์โอกาสสวยๆให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างต่อเนื่อง แต่การไม่มีเขาลงสนามและทีมต้องใช้งาน เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ ทำให้ เลสเตอร์ ขาดความแน่นอนในแดนกลาง ทำให้แผงมิดฟิลด์เจ้าบ้านเล่นได้สบาย

4.  คอนซ่า แกร่งทำรุกและรับ

เอซรี่ คอนซ่า ปราการหลังมีส่วนสำคัญอย่างมากในชัยชนะของ วิลล่า โดยในจังหวะที่เสียประตูเขาไม่สามารถบล็อกลูกยิงของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่ซัดบอลลอดขาเข้าไปซุกก้นตาข่าย แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มาแก้ตัวได้เมื่อโหม่งตีเสมอ

ในขณะเดียวกันการเล่นเกมรับ คอนซ่า ก็ทำได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจัดการกับแนวรุกของทีมเยือนได้อยู่หมัด ในขณะเดียวกันเมื่อมีจังหวะขึ้นไปเล่นลูกตั้งเตะเจ้าตัวก็จะขึ้นไปช่วยกดดันตลอด

นอกจากนี้ คอนซ่า ยังช่วยทีมโหม่งประตูชัยในครึ่งหลังด้วย ฟอร์มการเล่นของ ดาวเตะเลือดผู้ดี วัย 24 ปี คงทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ โดยเฉพาะการเล่นลูกตั้งเตะของ วิลล่า ที่ค่อนข้างอันตรายอย่างมาก

5. เยือนแอนฟิลด์บ้านเก่าที่แสนอบอุ่น

เจอร์ราร์ด เตรียมนำทัพ "สิงห์ผงาด" เยือนแอนฟิลด์ ในเกมลีกวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคมนี้ โดยนอกจากจะเป็นการกลับสู่บ้านหลังเก่าที่แสนอบอุ่นแล้ว หากพวกเขาสามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้จะทำให้อันดับบนตารางลีกพุ่งพรวดจนมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลถ้วยยุโรปทันที

ตำนานกัปตันทีม "หงส์แดง" จะเดินทางไปพบกับทีมรักของเขาด้วยการพกสถิติที่ยอดเยี่ยมในการคุมวิลล่า โดยคว้าชัยชนะในเกมลีก 3 แมตช์ แพ้แค่เกมเดียว ในการปะทะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น

ฟอร์มของ วิลล่า ในยุค "สตีวี่จี" คงทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" หวาดหวั่นเช่นกัน และแน่นอนว่าหากเลือกได้ก็คงอยากเห็น เจอร์ราร์ด ต้องผิดหวังในเกมที่แอนฟิลด์ แม้มันจะเจ็บปวดที่เห็นตำนานต้องพ่ายแพ้ แต่ก็ยังดีกว่าทำให้การลุ้นแชมป์ลีกของทีมต้องสะดุด