หลังจากที่ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซัด 2 ประตูให้ทีมชาติไทย ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 ที่ถล่มเอาชนะ เมียนมา 4-0 ศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หัวหอกวัย 33 ปี ขึ้นแท่นดาวซัลโวตลอดกาลประจำทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ลูกหนังภูมิภาคอาเซียนเท่ากับ "นอห์ อลัม ชาห์" ของสิงคโปร์ ทันที
   
โดย"มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา อดีตดาวเตะชิมิสึ เอส-พัลส์ กระทุ้งตาข่ายเพิ่มเป็น 17 ประตู แซงหน้า "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี ที่สมัยเป็นพ่อค้าแข้งตะบันให้ทัพ "ช้างศึก" ไป 15 ลูก ยิงขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดของรายการเท่ากับ "นอห์ อลัม ชาห์" ยอดกองหน้าตำนานทีมชาติสิงคโปร์ ที่ทำไว้ 17 ประตู ในช่วงปี 2001-2010 ได้สำเร็จ
 
"มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา  มีโอกาสยิงประตูแซงหน้าและขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดเดี่ยว ๆ ทันที หากยิงเพิ่มอีกประตูเดียวใน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" กับเกมที่เหลืออยู่ต่อจากนี้

ทำเนียบดาวยิงสูงสุดตลอดกาล มีดังนี้
- 17 ประตู : นอห์ อลัม ชาห์ (สิงคโปร์), ธีรศิลป์ แดงดา (ไทย) 
- 15 ประตู : วรวุธ ศรีมะฆะ (ไทย), เล คง วินห์ (เวียดนาม)
- 14 ประตู : เล ฮุยห์ ดุ๊ค (เวียดนาม)
- 13 ประตู : คูร์เนียวัน ดวี ยูเลียนโต้ (อินโดนีเซีย)
- 12 ประตู : บัมบัง ปามุงกัส (อินโดนีเซีย), เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (ไทย)
- 11 ประตู : อากู คัสเมียร์ (สิงคโปร์)
- 10 ประตู : คอยรุล อัมรี (สิงคโปร์) , อดิศักดิ์ ไกรษร (ไทย)

สำหรับ ธีรศิลป์ แดงดา ประเดิมลงเล่นรายการชิงแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2008 ในรอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในกลุ่มบี ซึ่งลงเตะที่สนามสุระกุล จ.ภูเก็ต แม้จะไม่สามารถพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ได้ แต่สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมไปครองด้วยผลงาน 4 ประตู โดยร่วมกับ บูดี้ ซูดาร์โซโน่ (อินโดนีเซีย) และ อากู คัสเมียร์ (สิงคโปร์) ที่ยิงได้ 4 ลูกเท่ากัน