ราล์ฟ รังนิก กุนซือชาวเยอรมันยังสร้างผลงานได้ดีในการคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นนัดที่สามของเขา
   
จากเกมประเดิมพา ผีแดง เปิดบ้านชนะ คริสตัล พาเลซ ในลีก 1-0 ต่อด้วยการเสมอกับ ยังบอยส์ 1-1 ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เร้ด เดวิลส์ ก็บุกไปกำชัยเหนือ นอริช 1-0 ในลีกเป็นนัดที่สองของกุนซือด๊อยทช์

เท่ากับว่านายใหญ่วัย 63 ปียังไม่พาทีมประสบกับความปราชัย แต่ในเกมบุกไปเยือนทีมบ๊วยของ พรีเมียร์ลีก ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจเอาซะเลย

หากไม่ได้ความหนึบของ ดาบิด เด เคอา และลูกโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยทีมเยือนเอาไว้ ก็ไม่แน่ว่า นกขมิ้น อาจสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ได้เช่นกัน

และนี่คือ 5 ข้อที่สมควรถูกพูดถึงในเกมที่ แคร์โรว์ โร้ด

1. แฮททริค 11 ตัวแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด

รังนิก เริ่มงานคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในลีกด้วยผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเดียวกันเป็นนัดที่สองติดต่อกันแล้ว
 
แต่ถ้าจะย้อนกลับไปในเกมสุดท้ายที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค กุมบังเหียนพาทีมเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล 3-2 มันก็เป็น 11 ขุนพลตัวแรกชุดเดียวกันกับเกมที่บู๊กับ อินทรีผงาดฟ้า และ นกขมิ้นเหลืองอ่อน

มีเพียงแม็ตช์เจ๊ากับ ยังบอยส์ เท่านั้นที่ รังนิก ปรับทัพ 11 ตัวแรกแบบยกชุดเนื่องจาก ปีศาจแดง เข้ารอบ 16 ทีมถ้วยหูใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงต้องการทดลองทีม และเปิดโอกาสให้นักเตะตัวหลักได้พักแบบเท่าเทียม

แต่ก็นั่นแหละ อีกสามวันข้างหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องลงเล่นเกมลีกบุกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด จึงเชื่อได้เลยว่าเราจะได้เห็นโฉมหน้าของ ผีแดง 11 ตัวแรกเปลี่ยนไปจากเดิมแน่ เพียงแต่ใครจะเดาใจขรัวเฒ่าได้อย่างถูกต้องเท่านั้น

2.ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าตาจนอย่างแท้จริง

ในฐานะผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ เฮนเดอร์สัน จึงไม่ใช่นายทวารระดับขี้ไก่

อย่างไรก็ดี เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก ไม่เป็นใจกับเขาเอาซะเลยเนื่องจากการแย่งตำแหน่งมือหนึ่งในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปจาก ดาบิด เด เคอา ของ เฮนเดอร์สัน แลดูตีบตันอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เพราะถ้าไม่ได้มือกาวสแปนิชช่วยเซฟลูกอันตรายเป็นพัลวันในแต่ละนัด ย่อมเป็นเรื่องยากที่ ผีแดง จะคว้าผลลัพธ์ที่ดีได้

ถึงตรงนี้ เฮนเดอร์สัน จึงตกเป็นข่าวกระหายย้ายออกไปแบบยืมตัวอีกรอบ แต่มันคงเสียวไส้แทน ผีแดง น่าดูที่จะมีม้าแก่วัย 35 ปีอย่าง ทอม ฮีตัน รับบทผู้รักษาประตูตัวสำรองแทน เฮนเดอร์สัน

อย่างไรเสีย รังนิก ระบุออกมาแล้วว่าไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะรั้ง ปอล ป็อกบา เอาไว้หากนักเตะต้องการย้าย จึงน่าคิดไม่ใช่เล่นว่าผู้จัดการทีมชาวเมืองเบียร์จะเต็มใจขาดกองหนุนชั้นดีในช่วงเปิดตลาดเดือนม.ค.หรือเปล่า

3. 5 นัด 15 แต้มที่พอจะเป็นไปได้

นับเฉพาะในลีก รังนิก พาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บไปแล้ว 6 แต้มเต็มจาก 2 เกมแรกของเขา

และมันทำให้ ผีแดง ขยับขึ้นสู่อันดับ 5 ของตารางโดนมีแต้มเท่ากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

หลังบุกไปเฉือนเอาชนะ นอริช ได้ 1-0 ผีแดง จะลงบู๊นัดต่อไปโดยมีคิวบุกไปฟัดกับ เบรนท์ฟอร์ด ในนัดกลางสัปดาห์

จากนั้นอีกสี่เกมของพวกเขาล้วนได้ซดกับทีมที่ไม่ได้ชวนให้น่าหนักใจสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น ไบรท์ตัน , นิวคาสเซิ่ล และ เบิร์นลีย์ ก่อนตบท้ายด้วย วูล์ฟส์ ที่น่าจะทำให้ รังนิก เหนื่อยมากที่สุด

ฉะนั้นแล้ว ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด งัดฟอร์มเก่งออกมาได้ในระยะนี้ก็พอเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเดินหน้าคว้าชัยในลีกได้แบบเต็มร้อยต่อไป

แต่ทั้งนี้ รังนิก ต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี อย่าปล่อยให้ทีมเล่นได้ขี้เหร่เหมือนเกมบู๊กับ นอริช ก็แล้วกัน ไม่งั้น 15 แต้มเต็มจาก 5 นัดข้างหน้าก็คงเป็นได้แค่ฝันลมๆแล้งๆ

4. นอริช ไม่เหมือนทีมบ๊วย

นับตั้งแต่ดึง ดีน สมิธ เข้ามาคุมทีม อดีตนายใหญ่ แอสตัน วิลล่า ก็เนรมิตแนวทางการเล่นของ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ผิดไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

จากสี่เกมที่เก็บได้ห้าแต้ม ไม่เพียงจะชี้ให้เห็นว่า นอริช มีเกมรุกที่ดีขึ้น แต่เกมรับของพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน

หาไม่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะคว้าชัยออกจาก แคร์โรว์ โร้ด ได้อย่างง่ายดาย คงไม่ต้องรอให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดลูกโทษก่อนหมดเวลา 15 นาทีอย่างที่เห็น

ในทางกลับกัน ตีมู ปุ๊กกี้ ศูนย์หน้าเจ้าบ้านสร้างปัญหาให้กับแผงหลังของ ผีแดง ได้ตลอดเวลา และถ้าไม่ได้ ดาบิด เด เคอา ที่กำลังท๊อปฟอร์มสุดขีดช่วยเอาไว้ บางทีทีมของ สมิธ ก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้

5. หลากหลายสถิติ

ลูกยิงของ โรนัลโด้ เป็นลูกโทษลูกที่ 50 ในนัดเยือนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ใน พรีเมียร์ลีก มีเพียง ลิเวอร์พูล ทีมเดียวเท่านั้นที่ยิงได้มากกว่า (60)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้ 91ลูกเท่ากับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แล้ว และมีนักเตะ ผีแดง แค่ห้ารายที่ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า

ราล์ฟ รังนิก เป็นกุนซือ ผีแดง รายที่สองที่เก็บคลีนชีตในลีกได้ทั้งสองเกมแรกต่อจากที่ เออร์เนสต์ แมงก์นัลล์ เคยทำได้ในปี 1903

นอริช แพ้ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นนัดที่ 9 จาก 11 นัดหลังที่ทั้งสองทีมพบกันใน พรีเมียร์ลีก (นอริชชนะสอง) และเป็นการแพ้ ผีแดง สี่นัดรวดในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เคยแพ้เจ็ดนัดรวดระหว่างเดือนธ.ค.1990-ส.ค.1993

นอริช แพ้ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ใน พรีเมียร์ลีก มากกว่าที่พวกเขาแพ้ต่อคู่แข่งทุกทีมในรายการเดียวกัน (15ครั้ง)