ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ช้างศึกโรเตชั่นยกชุดปราบสิงคโปร์อยู่หมัดซิวแชมป์กลุ่ม

ช้างศึกโรเตชั่นยกชุดปราบสิงคโปร์อยู่หมัดซิวแชมป์กลุ่ม

Posted 19/12/2021 by siamsport

เก็บชัยชนะได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทั้งที่ "มาโน่ โพลกิ้ง" กุนซือใหญ่ จัดการเปลี่ยนยกชุดเพื่อพักนักเตะตัวหลักเอาไว้ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการเอาชนะ เจ้าภาพสิงคโปร์ 2-0 คว้าแชมป์กลุ่ม เอ ได้สำเร็จ ชนิดที่ลงสนาม 4 เกม ชนะรวด เก็บ 12 แต้มเต็ม
   
จากการที่ขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยา เอาชนะทีมจากแดนลอดช่องได้อย่างสวยงามในเกมนี้ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของนักเตะไทย ไม่ว่าจะเป็นชุดตัวจริงหรือตัวสำรอง แต่ก็สามารถทดแทนกันได้อยู่หมัดทุกราย
 
เรามาประกาศผลสอบกันหน่อย กับเกมที่ทีมชาติไทย สยบ สิงคโปร์ 2-0 ซิวแชมป์กลุ่ม เอ !
 
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน : ได้รับโอกาสเฝ้าเสาเป็นเกมแรก แต่นายด่านจอมเก๋าวัย 37 ปี ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วงครึ่งหลังมีโอกาสเซฟช่วยทีมหนึ่งจังหวะเน้น ๆ ภาพรวมรักษามาตรฐานได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ
 คะแนน : 8
 
เอเลียส ดอเลาะ : เกมนี้ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเบิกสกอร์แรกให้ทีมชาติไทย ได้ทันที ซึ่งเป็นประตูนี้สำคัญอย่างมากหลังจากสถานการณ์ช่วงนั้นเป็นรองสิงคโปร์ พอทีมขึ้นนำทุกอย่างดูเป็นเกมของทีมทันที นอกจากนี้ตลอดเกม 90 นาทีทำผลงานได้ดีเอามาก ๆ ดูแล้วโอกาสมีแย่งตัวจริงในรอบรองชนะเลิศได้เลย คะแนน 8.5
 
ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ : ลบคำสบประมาทจากแฟนบอลบางส่วนทันที เมื่อกองหลังจากราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมนี้ท็อปฟอร์มโชว์ความแข็งแกร่งในแนวรับทั้งเข้าบอลหนัก สกัดบอลแม่น คอยปัดกวาดชนิดผู้เล่นแนวรุกคู่แข่งทำเอาไปไม่เป็นเลย เรียกได้ว่าเป็นตัวที่สามารถทดแทนนักเตะตัวจริงได้อีกคน คะแนน 8
 
ทริสตอง โด : เติมเกมรุกได้ค่อนข้างที่จะสุดเร้าใจพอสมควร รวมถึงเกมรับที่คอยวิ่งช่วยมาไล่อยู่ตลอด แต่อาจต้องขอติอยู่นิดเดียวคือจังหวะจ่ายบอลให้กับเพื่อน ที่เกมนี้อาจดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสียหายอะไรมากนัก คะแนน : 7.5

สุริยา สิงห์มุ้ย : ได้รับโอกาสลงประเดิมสนามในรายการนี้อีกคน แต่ก็ถือว่าตลอด 45 นาทีแรกที่เขาอยู่บนสังเวียนแข้ง ถือว่าทำได้ดีแถมใจนักสู้ แม้ว่าคิ้วแตกแต่ก็ยังกัดฟันลงเล่นจบจบครึ่งแรก ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกไปพัก คะแนน : 6.5
 
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ : ยังคงเป็นผู้เล่นที่พลังเหลือล้นจริง ๆ วิ่งแย่งบอลกลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยเกมรับค่อนข้างดีเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเกมรุกก็ค่อนข้างดุดันเอาการ เรียกได้ว่ากองกลางพลังไดนาโมรายนี้ ยังรักษาผลงานได้ดีเหมือนเดิม แม้จะมีโอกาสยิงเน้น ๆ ในช่วงครึ่งแรก แต่ก็ดันไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูก็ตาม คะแนน : 7.5
 
วีระเทพ ป้อมพันธุ์ : ได้รับโอกาสลงเล่นเกมแรกก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เล่นได้นิ่ง จ่ายบอลได้คมอย่างกับเท้าชั่งทอง ไม่แปลกใจเลยที่ทำสถิติยืนหนึ่งผู้เล่นที่จ่ายบอลมากที่สุดในไทยลีก 2021-22 ช่วงเลกแรกที่ผ่านมา เกมนี้เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า ฝีเท้าฉกาจของเขาไม่เป็นสองรองใคร และพร้อมยืนตัวจริงให้ทีมชาติไทยในเกมต่อ ๆ ไป คะแนน : 8.5
 
วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ : จัดแอสซิสต์ให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้ทำประตูอย่างสวยงาม นอกจากนี้การจ่ายบอลชนิดคมกริบหลาย ๆ ครั้ง ทำเอาเพื่อนร่วมทีมได้เล่นอย่างสบาย ถือเป็นนักเตะอนาคตของทีมชาติไทย ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ชั้นนำของเมืองไทยในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน คะแนน : 8.5
 
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ : ตลอด 45 นาทีแรกที่เขาอยู่ในสนาม สร้างความปั่นป่วนทางฝั่งซ้ายได้เป็นบางช่วง แต่ก็ยังพยายามวิ่งเพรสซิ่งคู่แข่งอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้ว่าจะได้ลงเละแค่ครึ่งเวลาเดียวก็ตาม คะแนน : 6.5
 
บดินทร์ ผาลา : มีเวลาลงสนามในช่วงครึ่งแรก แต่ประตูแรกที่เกิดขึ้นนั้น เขามีส่วนร่วมหลังเป็นคนปั่นฟรีคิกทำให้ ฮัสสัน ซันนี่ ปัดมาเข้าทาง เอเลียส ดอเลาะ ทำประตูขึ้นนำได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็มีข้อผิดพลาดจ่ายบอลไม่ดี จนถูกคู่ต่อสู้ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม แต่ยังดีที่ทีมไม่เสียประตู คะแนน : 6.5
 
ศุภชัย ใจเด็ด : เกมนี้สามารถโชว์ฟอร์มได้เฉียบเอามาก ๆ หลังวิ่งกดดันคู่แข่งในแดนหน้าจนออกบอลได้ยาก ก่อนจะมาเป็นคนซัดประตูที่สองให้ทัพ "ช้างศึก" ช่วงท้ายครึ่งแรก จนทีมเล่นง่ายขึ้นในครึ่งหลัง นอกจากนี้ตลอดชั่วโมงเศษฟอร์มโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมจน "เอเอฟเอฟ" ต้องยกรางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ให้กับเขาไปครองในเกมนี้ คะแนน : 8.5

(สำรอง)

ฟิลิป โรลเลอร์ : ลงมาแล่นแทน สุริยา สิงห์มุ้ย ใน น.46 แสดงถึงความวูบวาบทันที สปีดอย่างรวดเร็วดุดั่งสายไฟ ทำเอาเกมรับคู่ต่อสู้ปั่นป่วนกันระนาว แถมยังขยับเล่นได้ทั้งฝั่งขวาและฝั่งซ้ายอีก ถือเป็นเกมแรกของเขาที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ คะแนน : 7
 
ปกเกล้า อนันต์ : ลงมาเล่นแทน ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ใน น.46 อาจไม่ค่อยมีบทบาทและโดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพยายามที่จะคอยมาเชื่อมบอลกับเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง เพื่อพาบอลขึ้นไปเจาะทำประตู โดยรวมถือว่ายังช่วยทีมต่อบอลได้อย่างดีไม่มีข้อเสียอะไร คะแนน : 6.5
 
อดิศักดิ์ ไกรษร : ลงมาเล่นแทน บดินทร์ ผาลา ใน น.46 มีโอกาสมีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ก็ดันโฉบเข้ามาชาร์จจากลูกเปิดของ ทริสตอง โด ไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้บอลโด่งออกหลังไป ถือว่าเกมนี้เจ้าตัวแสดงความมุ่งมั่นที่จะพยายามทำประตูให้ได้ แม้สุดท้ายจะทำไม่ได้ก็ตาม คะแนน : 6.5
 
พิชา อุทรา : ลงมาเล่นแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ใน น.66 มีเวลาให้เล่นไม่มากนัก จึงยังโชว์ของอะไรมากไม่ค่อยได้ แต่ก็ถือเป็นเกมรแกในรายการนี้ของเจ้าตัว คงจะสร้างแรงจูงใจเป็นอย่างมากในเกมต่อ ๆ ไป คะแนน : 6
 
ศิวกรณ์ เตียตระกูล : ลงมาเล่นแทน ศุภชัย ใจเด็ด ใน น.66 เป็นอีกคนที่ลงมาแล้วมีเวลาลงเล่นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามมีส่วนร่วมในการต่อบอลแดนของสิงคโปร์อยู่บ่อยครั้ง ภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดีกับเวลาที่อยู่ในสนาม คะแนน : 6
 
สำหรับโปรแกรมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ จะลงเตะกับทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม บี ในวันพฤหัสบดีที่ 23 ธ.ค.64 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ช่อง 7 HD ยิงสดเช่นเดิม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • “เอเอฟเอฟ” ทึ่งฟอร์ม “ธีราทร” ยกรางวัลแข้งเจ๋งที่สุด 2 เกมติด
    นอกเหนือจากความยอดเยี่ยมของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย ที่สามารถเบิ้ลสองเม็ดพาทัพ “ช้างศึก” เฉือนเอาชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 เมื่อวันอังคารที่ 14 ธ.ค.64 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ได้สำเร็จ อีกทั้งยังคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” สองเกมติดต่อกันทันที
  • “ช้างศึก” ตกมัน เจอใครก็ไม่หวั่น
    การันตีเข้ารอบรองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ แน่นอนแล้ว สำหรับทีมชาติไทย หลังจากที่ลงเล่นเกมนัดที่ 3 บดเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไป 2-1 ทำให้ เก็บ 9 แต้มเต็ม ใน 3 เกม ถือว่าเป็นฟอร์มที่เพอร์เฟคมากๆ ของ “ช้างศึก”
  • มาโน่ซูฮกลูกยิง"ธีรศิลป์"เป็นประตูระดับโลกของจริง
    กุนซือช้างศึก มาโน่ โพลกิ้ง ถึงกับยกนิ้วลูกยิงประตูสุดเทพของ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ในการซัดเบิกร่องให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ ว่าเป็นการยิงประตูระดับโลก และ "มุ้ย" คือกองหน้าที่ยอดเยี่ยมเสมอของทีมชาติไทย
  • มาแล้ว! "รายชื่อ 11 แข้งทีมชาติไทย" พบ ฟิลิปปินส์ ในศึก ซูซูกิ คัพ 2020
    "ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่มีโปรแกรมสำคัญลงสนามนัดที่สามพบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ในการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ในวันอังคารที่ 14 ธันวาคม นี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »