ลิเวอร์พูล ส่อแววเสียสองสตาร์ดังในแดนหน้าทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ให้กับศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่จะระเบิดการฟาดแข้งกันในเดือนหน้า
         มีการยืนยันเป็นมั่นเหมาะจากฝ่ายจัดการแข่งขันว่าจะไม่เลื่อนทัวร์นาเมนต์ออกไปอย่างที่สื่อเมืองผู้ดีพยายามลืออย่างเด็ดขาด แม้ทวีปแอฟริกากำลังประสบกับปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นกันก็ตาม

         หากเป็นไปตามนั้น หงส์แดง ก็จะได้รับผลกระทบไม่น้อยเพราะไม่ใช่แค่สองตัวรุกเท่านั้นที่พวกเขาต้องเสียให้กับทีมชาติ แต่ นาบี้ เกอิต้า มิดฟิลด์ทีมชาติกินีก็ถูกเรียกตัวลงเล่นในรายการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ดี เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม เร้ด แมชีน จะเสียลูกทีมทั้งสามไปนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละชาติจะผ่านเข้ารอบลึกหรือไม่

         แต่ที่แน่ๆ ลิเวอร์พูล จะไม่มีสามขุนพลลงบู๊ในศึก เอฟเอคัพ รอบสามดวลกับ ชรูว์สบิวรี่ และเกม พรีเมียร์ลีก นัดฉะกับ เบรนท์ฟอร์ด ในเดือนม.ค.

         อันรวมถึงเกมบู๊กับ คริสตัล พาเลซ ที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค และศึก เอฟเอคัพ รอบสี่ด้วยหาก เร้ด แมชีน ผ่านเข้ารอบได้ตามความคาดหมาย

         กระทั่งล่าสุด ทีมชาติอียิปต์ได้แจ้งข่าวดีออกมาแล้วว่าพวกเขายินดีปล่อยให้ ซาลาห์ ลงเล่นเกมทิ้งทวนในศึก พรีเมียร์ลีก บุกไปเยือน เชลซี วันที่ 2 ม.ค.ได้ก่อนที่ คิง ออฟ อียิปต์ จะอำลาเมืองผู้ดีบินมาลงเล่นให้แผ่นดินเกิด

         แต่จะอย่างไร ลิเวอร์พูล ก็จะไร้สองตัวรุกชาวแอฟริกันไประยะหนึ่งซึ่งเมื่อถึงวันนั้น คล็อปป์ ก็น่าจะมีทางเลือกในการจัดทัพแดนหน้าอยู่สามทางเลือกดังนี้

- ดิว็อค โอริกี้/โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่/ดีโอโก้ โชต้า

         ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในเมื่อ คล็อปป์ ปราศจากทั้ง ซาลาห์ และ มาเน่ โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงก็จะตกเป็นของ ฟีร์มิโน่ ขุนพลทีมชาติบราซิลซึ่งระยะหลังหล่นไปเป็นตัวสำรองอย่างถาวรซะแล้ว

         ก่อนหน้านี้ ฟีร์มิโน่ คือหนึ่งในสามพระกาฬแดนหน้าของ หงส์แดง แต่หลังจากฟอร์มตก แถม โชต้า ที่ย้ายมาจาก วูล์ฟส์ มีผลงานการสอยตาข่ายที่เด็ดขาดกว่า จึงทำให้สตาร์โปรตุกีสถูกส่งลงบู๊อย่างถี่ยิบ

         อย่างไรก็ดี ทั้งสองมีโอกาสได้ประสานงานร่วมกันหาก ลิเวอร์พูล ขาดทั้ง ซาลาห์ และ มาเน่ ไปพร้อมๆกัน

         ส่วนอีกตำแหน่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โอริกี้ ยอดซูเปอร์ซับขวัญใจแฟนบอล เดอะ ค็อป ซึ่งทุกคนย่อมอยากเห็นเขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงด้วยกันทั้งนั้น

         และที่สำคัญ หัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยมสามารถลงเล่นในตำแหน่งไหนก็ได้ในแดนหน้าฐานที่เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ตัวจริงเสียงจริงซึ่งพร้อมยิงประตูสำคัญให้กับทีมเสมอ

- อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน/ฟีร์มิโน่/โชต้า

         ในกรณีนี้หมายความว่า คล็อปป์ ตัดสินใจใช้งาน ฟีร์มิโน่ เป็นตัวจริง ขณะที่ โอริกี้ ถูกวางตัวให้เป็นซูเปอร์ซับอันเป็นบทบาทถนัดของดาวยิงผิวสี

         หากเป็นอย่างนั้น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ก็จะได้ออกสตาร์ตในตำแหน่งปีกเนื่องจากเขาสร้างชื่อกับตำแหน่งนี้มาก่อนสมัยเป็นขุนพลทีม เซาธ์แฮมป์ตัน

         แม้ระยะหลัง อดีตดาวเตะทีม อาร์เซน่อล จะขยับเข้ามาเล่นข้างในมากกว่า แต่ซีซั่นนี้เขาถูก ลิเวอร์พูล ส่งลงประจำการณ์ในตำแหน่งปีกขวามาแล้วเหมือนกัน

         ดังจะเห็นว่าเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดบุกไปคว่ำ เอซี มิลาน 3-2 เมื่อเดือนก.ย. อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองให้รับผิดชอบพื้นที่ทางกราบขวา

         ยิ่งไปกว่านั้น สตาร์วัย 28 ปียังมอบสิ่งที่เหนือกว่า โอริกี้ และ ซาลาห์ ให้กับทีมด้วยเนื่องจากเขาสามารถถอยลงต่ำไปช่วยงานเกมรับได้ นอกเหนือจากการสร้างสรรค์เกมรุก

- ทาคูมิ มินามิโนะ/ฟีร์มิโน่/โชต้า

         ทางเลือกสุดท้ายที่เป็นไปได้ยังมี ฟีร์มิโน่ ลงเล่นเป็นตัวหลักเช่นเดิม

         หากแต่หมากเกมนี้ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจนับตั้งแต่ย้ายมาจากทีม เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก จะได้รับโอกาสลากเลื้อยทางกราบขวา

         อีกทั้งในบรรดาตัวรุกที่เหลืออยู่ของถิ่น แอนฟิลด์ พ่อค้าแข้งชาวเมืองปลาดิบเป็นนักเตะในตำแหน่งปีกโดยธรรมชาติซะด้วย

         อย่างไรก็ดี เท่าที่ผ่านมาเขาถูกเจ้านายชาวเมืองไส้กรอกส่งลงเล่นเป็นปีกซ้ายโดยส่วนใหญ่ แต่ในเมื่อสโมสรขาดทั้ง ซาลาห์ และ มาเน่ ไปในคราวเดียวกัน คล็อปป์ อาจสลับตำแหน่งระหว่าง มินามิโนะ กับ โชต้า ก็เป็นได้

         ในซีซั่นนี้ แม้ มินามิโนะ จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่สี่นัด แต่เขามีผลงานยิงประตูที่น่าประทับใจสี่เม็ดจากการลงสนามรวม 12 นัด เฉลี่ยแล้วสามารถส่งบอลเข้าประตูได้ทุกๆหนึ่งลูกในเวลา 109 นาที

         เท่านั้นไม่พอ ในเกม คาราบาวคัพ รอบแปดทีมนัดต้อนรับ เลสเตอร์ เจ้าตัวยังซัดลูกตีเสมอ 3-3 ในช่วงทดเวลาได้อีกด้วย

         และแม้ในการดวลลูกโทษตัดสิน มินามิโนะ จะสังหารพลาดไปชนคานเต็มๆ แต่ โชต้า ซึ่งรับหน้าที่เป็นเพชฌฆาตคนสุดท้ายก็ซัดตุงตาข่ายช่วยให้ทีมเข้าสู่รอบตัดเชือกถ้วย คาราบาว คัพได้เป็นผลสำเร็จ