แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องทำศึกกับ แอสตัน วิลล่า คำรบสองในรอบสัปดาห์ หลังพวกเขามีคิวยกพลเยือนถิ่นวิลล่า พาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 15 มกราคมนี้ โดยแมตช์นี้ "ผีแดง" ยังคงต้องลุ้นเรื่องสภาพความฟิตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ ขณะเดียวกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กุนซือเจ้าบ้าน จะได้โอกาสแก้มืออีกครั้ง หลังนำทีมพ่ายคู่แข่งตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ เมื่อวันจันทร์ ที่สำคัญแมตช์นี้ ฟลิปเป้ คูตินโญ่ จะได้ลงเปิดตัวเกมลีกเมืองผู้ดีอีกครั้งด้วย
1. โรนัลโด้พร้อมไหม ?
     แม้ว่า ราล์ฟ รังนิก จะออกมาเปิดเผยว่า 4 นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แก่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เจดอน ซานโช่ และ ฟิล โจนส์ สภาพร่างกายน่าจะพร้อมลงสนามช่วยทีมเกมเยือน แอสตัน วิลล่า ก็ตาม แต่ก็มีประเด็นที่ทำให้แฟนบอล "ผีแดง" ต้องกังวลเกี่ยวกับ "เฮียโด้" ที่อาจจะยังคงมีปัญหาอยู่

     เรื่องของเรื่องก็คือสื่อในแดนผู้ดีหลายสำนักรายงานว่า กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ออกจากสนามซ้อมเพื่อกลับไปบ้านก่อนเวลาจากการซ้อมกับทีมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยว่านักเตะบาดเจ็บต้นขา และแพทย์ประจำทีมลงความเห็นให้กับไปดูแลร่างกายที่บ้าน

     ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ดาวยิงเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยจะฟิตทันลงสนามในเกมเยือนถิ่นวิลล่า พาร์ค หรือไม่ เพราะหากนักเตะไม่สมบูรณ์แน่นอนว่าเกมบุกของ แมนฯ ยูฯ คงจะลดความอันตรายไปเยอะเลยทีเดียว

     นอกจากนี้การได้ แม็กไกวร์ กลับมายืนอยู่กับ ราฟาแอล วาราน คงจะทำให้แนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด แข็งแกร่งมากขึ้น และคงช่วยให้ ดาบิด เด เคอา ไม่ต้องออกแรงเซฟมากนักเหมือนกับหลายๆ เกมที่ผ่านมา

2. แรชฟอร์ดต้องพิสูจน์ตัวเอง
     "ดร.แรชชี่" โดนวิจารณ์อย่างหนักหลังจบเกมที่ชนะ วิลล่า ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักเตะแสดงอาการเหมือนกับคนไม่ทุ่มเทในการเล่น แถมยังมีหลายจังหวะที่มักจะทำบอลเสียบ่อยๆ

     ช่วงที่ผ่านมาสาวก "เร้ด อาร์มี่" และบรรดากูรูลูกหนังหลายรายให้คำแนะนำว่าควรจับ แรชฟอร์ด พักก่อน เพื่อจะได้ปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อมมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนนักเตะไม่ได้คิดแบบนั้น

     เนื่องจากภาพล่าสุด กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยิ้มแย้มแจ่มใสในขณะที่ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นว่าสภาพจิตใจของเขามีแต่ความแฮปปี้ที่ได้ลงสนามเพื่อ "ปีศาจแดง" ที่สำคัญ แรชฟอร์ด ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงทุ่มเทเพื่อทีมอยู่เสมอ

     ยิ่งไปกว่านั้นหากแมตช์กับ "สิงห์ผงาด" โรนัลโด้ เกิดลงสนามไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ แน่นอนว่า รังนิก ต้องการให้ แรชฟอร์ด ลงไปช่วยสร้างสรรค์เกมบุก อย่าลืมว่านี่คือนักเตะที่เต็มไปด้วยความเร็ว และสามารถเปลี่ยนเกมได้เพียงเสี้ยววินาที

 3. ใบเหลืองทำพิษขาด 2 กำลังสำคัญ

   หนึ่งในปัญหาที่ รังนิก ต้องหาทางแก้ไขทันที นั่นก็คือแมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มีทั้ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ ลุค ชอว์ เนื่องจากทั้งสองคนได้รับใบเหลืองครบ 5 ใบส่งผลให้ต้องรับใช้กรรมด้วยการติดโทษแบนในเกมนี้

     ฉะนั้น นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องขบคิดให้ถ้วนถี่ว่าจะเลือกส่งใครระหว่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กับ เฟร็ด เพราะสองตำแหน่งในแดนกลาง เนมานย่า มาติช กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส น่าจะจองสัมปทานไปเรียบร้อยแล้ว

     หากดูจากแนวคิดของ รังนิก คาดว่าเขาอยากใช้งาน เฟร็ด จับคู่กับ มาติช มากกว่าเพราะทั้งสองคนมีความโดดเด่นในการเล่นเกมรับ แถมในรายของ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ยังสามารถดันเกมรุกได้ดี ที่สำคัญทั้งคู่จะช่วยให้ บรูโน่ มีอิสระในการเล่นเกมบุกได้เต็มสูบ ส่วนแบ็กซ้าย อเล็กซ์ เตลลิส สามารถทดแทนได้สบายๆ

     สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดนั่นก็คือแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงไม่มี ปอล ป็อกบา ช่วยทีม เนื่องจากนักเตะยังมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ข่าวดีที่พอจะเป็นน้ำหล่อเลี้ยงชะโลมใจแฟนบอล "ผีแดง" ก็คือ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ใช้เวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะกลับมาซ้อมได้เต็มที่แล้ว

 4. เปิดตัว คูตินโญ่
     ต้องบอกเลยว่าไฮไลท์ของแมตช์นี้คงหนีไม่พ้นการหวนคืนเวทีลูกหนังเมืองผู้ดีของ ฟลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียน ที่กลับมาร่วมงานกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อีกครั้งแต่อยู่กันคนละสถานะเท่านั้น

     "สตีวี่จี" เคยสร้างผลงานร่วมกับ "คูตี้" สมัยที่เป็นนักเตะลิเวอร์พูล และเกือบช่วย "หงส์แดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่น  2013/2014 โดยการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งก็เหมือนกับหวนคืนวันวานที่รุ่งเรืองของทั้งคู่

     แม้ว่า คูตินโญ่ จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า และต้องโดนอัปเปหิออกจากถิ่นคัมป์ นู เพื่อมาเล่นแบบยืมตัวกับ "สิงห์ผงาด" จนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ แต่อย่าลืมว่าศักยภาพของเขายังคงอันตรายอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องความสามารถเฉพาะตัว, การเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ที่คมกริบ

     แน่นอนว่าแฟนบอลวิลล่าคงคาดหวังที่จะเห็น คูตินโญ่ ระเบิดฟอร์มในแมตช์เปิดตัววันเสาร์นี้ แต่กระนั้นพวกเขาก็ต้องทำใจอยู่บ้าง เพราะต่อให้นักเตะมีพรสวรรค์เลิศเลอแค่ไหน แต่ด้วยขุมกำลังของทีมในเวลานี้ อาจจะยากที่จะล้มแมนฯ ยูฯ

 5. สามคะแนนเพื่อท็อปโฟร์
     ตอนนี้หากจะพูดถึงเรื่องความกดดันต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้น เพราะพวกเขาต้องคว้าชัยชนะให้ได้เพื่อที่จะขยับคะแนนเข้าไปใกล้กับอันดับ 4 ให้มากที่สุด เพราะถ้าหากพลาดท่างานนี้อาจจะโดนคู่แข่งทิ้งไปไกล

     อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน โรนัลโด้ ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าเขาย้ายมาอยู่กับ "ผีแดง" รอบสอง ไม่ใช่แค่มาพักร้อนแต่ต้องการนำสโมสรอันเป็นที่รักหวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่โดยเฉพาะการคว้าแชมป์

     ยิ่งไปกว่านั้น "เฮียโด้" ยังพูดเป็นนัยยะเกี่ยวกับอันดับของทีมว่าไม่ใช่แค่จบท็อปโฟร์เท่านั้น แต่ต้องเป็น "ท็อปทรี" เพราะหากต่ำกว่านี้ถือว่ายอมรับไม่ได้ ซึ่งหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ โรนัลโด้ ต้องการงานนี้ข่าวลือที่ว่าเขาจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ก็มีความเป็นจริงสูง !!

     สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงยากจะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องโฟกัสก็คือฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมทั้งเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อคว้าโควตาไปลุยโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" ให้ได้