มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก อดีตเชิ้ตดำชื่อก้อง ระบุ ลิเวอร์พูล ไม่ควรได้สองประตูในเกมที่ชนะ พาเลซ 3-1 โดยเฉพาะจังหวะจุดโทษ เควิน เฟรนด์ กรรมการในสนามควรยึดมั่นการตัดสินใจของตัวเอง
   
มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก อดีตกรรมการคนดังที่ตอนนี้เขียนบทความให้ เดลี่ เมล สื่อของประเทศอังกฤษ กล่าวว่า เควิน เฟรนด์ ตัดสินผิดถึง 2 จังหวะ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มกราม ที่ผ่านมา

ในนัดดังกล่าว ลิเวอร์พูล ได้ประตูจาก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในนาทีที่ 8, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ในนาทีที่ 32 และลูกจุดโทษของ ฟาบินโญ่ ในนาทีที่ 89 ส่วนประตูของ พาเลซ เกิดขึ้นในนาทีที่ 55 จาก อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ แต่ 2 ลูกหลังของ "หงส์แดง" ถือเป็นประเด็นให้พูดถึงพอตัว โดยชอตของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ฝั่งเจ้าถิ่นมองว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โผล่มามีส่วนร่วมกับการเล่นก่อน ซึ่งตอนนั้น ฟีร์มีโน่ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

ส่วนประตูที่ 3 ของ ลิเวอร์พูล นั้น พาเลซ คิดว่ามันไม่ควรจะเป็นลูกจุดโทษ เพราะถึงแม้ ดีโอโก้ โชต้า กองหน้า ลิเวอร์พูล จะไปชนกับผู้รักษาประตูของ พาเลซ แต่ตอนนั้นมันไม่เป็นที่แน่ชัดเท่าไหร่ว่า โชต้า จะเข้าไปถึงบอลได้ ซึ่งที่จริงตอนแรก เฟรนด์ ก็ไม่ได้เป่าให้เป็นจุดโทษ แต่พอมีการเช็กจากทาง วีเออาร์ แล้วนั้น มันก็มีการเปลี่ยนคำตัดสิน

แคล็ตเท่นเบิร์ก แสดงความเห็นว่า "คริสตัล พาเลซ สมควรแล้วที่จะรู้สึกโมโหกับการที่กรรมการยังตัดสินให้ ลิเวอร์พูล ได้ลูกที่ 2 เพราะตอนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนล้ำหน้าอยู่ชัดเจน ตอนนั้น ฟีร์มีโน่ กระโดดและพยายามที่จะขึ้นไปเล่นบอลให้ได้ ถ้าเกิดเขาไม่อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก ไทริค มิตเชลล์ แบ็กซ้ายของ พาเลซ คงจะโหม่งเคลียร์ออกไปได้แล้ว ดังนั้นมันเลยถือว่ากองหน้า ลิเวอร์พูล (ฟีร์มีโน่) เข้าข่ายมีส่วนร่วมกับการเล่นอย่างชัดเจน หลังจากนั้นบอลก็ไปเข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งทำประตูได้ วีเออาร์ ควรจะเข้ามาตรวจจังหวะนี้"

"นอกจากนี้ เควิน เฟรนด์ ควรจะยืนกรานคำตัดสินเดิมของเขา (ในจังหวะลูกจุดโทษ) ด้วย ตอนที่ ดีโอโก้ โชต้า แตะบอลผ่าน บิเซนเต้ ไกวต้า ไป เขาตั้งใจเอาตัวไปกระแทกกับผู้รักษาประตูและทำให้เกิดการปะทะกันเอง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจังหวะนี้ เคร็ก พอว์สัน กรรมการที่ดูแลทีม วีเออาร์ ถึงขอเช็กจังหวะนี้ เฟรนด์ ไม่ได้ตัดสินผิดพลาดอะไรเลย เขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและไม่เป่าให้เป็นการฟาวล์ มันน่าเสียดายที่ เฟรนด์ ไม่เชื่อมั่นว่าการตัดสินในตอนแรกของเขาถูกต้อง หลังจากที่เขาไปตรวจจังหวะการเล่นจากทางหน้าจอที่ข้างสนาม"