พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางมาถึงแมตช์เดย์ที่ 25 อย่างไรก็ดี มีหลายทีมที่ยังแข่งไม่ครบตามโปรแกรมเนื่องจากมีช่วงที่ทำการเลื่อนการแข่งขันไป โดยสัปดาห์นี้จะมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าน ไปดูกันได้เลย

    "แมนฯ ยูไนเต็ด-เซาธ์แฮมป์ตัน"

    หาก เซาธ์แฮมป์ตัน มีแต้มกลับออกจากรังผีแดงในเย็นวันเสาร์นี้ จะทำให้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่แพ้ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสองเกมเหย้า-เยือนในหนึ่งซีซั่น

    "เดอะ เซนต์ส" แพ้แค่เกมเดียวในลีกจาก 7 นัดหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 3) โดยที่มีสกอร์ไม่ว่าจะยิงได้หรือเสียประตูอย่างน้อยหนึ่งลูกทั้งหมด นอกจากนี้ ลูกทีมของ ราล์ฟ ฮัสเซนฮุทเทิ่ล ยังมองหาการคว้าชัย 2 เกมติดให้ได้เป็นครั้งที่สองในฤดูกาลนี้

    แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครในบ้านตลอด 23 เกมลีกหลังสุดยามที่แข่งในเดือนกุมภาพันธ์ (ชนะ 18 เสมอ 5) โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้ที่โรงละครแห่งความฝันในเดือนนี้คือพ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ 1-2 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในสองเกมที่พวกเขาแพ้ในเดือนแห่งความรักบนศึกพรีเมียร์ลีก ต่อจากการแพ้ มิดเดิลสโบรส์ 2-3 ตอนปี 2004

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงทั้งสิ้น 5 ลูกจากการลงเล่นเจอ "นักบุญ" 4 เกมลีก โดยยิงได้ 2 ลูก และแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง มีแค่ แอสตัน วิลล่า, เอฟเวอร์ตัน และ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ทั้งหมด 6 ครั้ง) เท่านั้นที่เป็นทีมที่แข้งโปรตุกีส มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่า

    "เอฟเวอร์ตัน-ลีดส์"

    ราฟินญ่า แข้งแซมบ้าของ ลีดส์ สามารถทำประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน ได้ตลอด 3 เกมที่เผชิญหน้ากัน โดยเจ้าตัวเป็นผู้ยิงประตูชัยในบุกเยือน กูดิสัน พาร์ค เมื่อปีก่อน โดยผู้เล่น "ยูงทอง" คนล่าสุดที่ทำประตูใส่ทีมทีมหนึ่งในศึก พรีเมียร์ลีก 4 เกมติดต่อกันคือ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ที่ซัดใส่ อาร์เซน่อล ตอนช่วงระหว่างปี 1997-1999

    เอฟเวอร์ตัน แพ้แค่นัดเดียวจาก 8 เกมลีกหลังสุดที่เจอ ลีดส์ ยูไนเต็ด (ชนะ 4 เสมอ 3) โดยเกมเดียวแพ้นั้นเกิดขึ้นเมื่อปีก่อน

    นี่จะเป็นครั้งแรกที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือใหม่ "ทอฟฟี่" คุมทีมลงเล่นต่อหน้าแฟน ๆ ที่กูดิสัน พาร์ค โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยพลาดการคว้าชัยในการลงเล่นในบ้านมาแล้วสองครั้งสมัยที่คุม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ เชลซี (เสมอ 1 แพ้ 1) โดยความพ่ายแพ้ตอนคุม "แกะเขาเหล็ก" เกิดขึ้นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่มี มาร์เซโล่ บิเอลซ่า คุมทัพ 1-4 เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2018 ซึ่งเกมนั้นคือชัยชนะเกมนอกบ้านนัดแรกของกุนซืออาร์เจนไตน์ ในฐานะกุนซือ "ยูงทอง"

    ในฤดูกาลนี้มีแค่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (21) และเซาธ์แฮมป์ตัน (20) เท่านั้นที่ทำแต้มหลุดมือมากกว่า ลีดส์ (17) จากการเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน ทั้งที่ปีก่อน ลีดส์ เป็นทีมที่เสียแต้มจากการขึ้นนำน้อยสุดในลีก (6)

    "นอริช-แมนฯ ซิตี้"

    ริยาด มาห์เรซ ทำประตูได้ตลอด 7 นัดหลังสุดทุกรายการ โดยผู้เล่น ซิตี้ ที่สามารถทำสกอร์ต่อเนื่องมากสุดคือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ทำไว้เมื่อเดือนมกราคมปี 2014 ที่ 8 เกมติดต่อกัน

    แมนฯ ซิตี้ แพ้แค่นัดเดียวจาก 36 เกม พรีเมียร์ลีก ที่เจอกับทีมในกลุ่มโซนตกชั้น (ชนะ 30 เสมอ 5) อย่างไรก็ดี ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวนั้นคือทีมที่พวกเขาจะเจอในแมตช์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปี 2019

    "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ทำประตูได้ถึง 6 ลูกจาก 3 เกมลีกหลังสุด โดยเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้เกมถึง 15 นัด สำหรับสถิติการเจอทีมแชมป์เก่าของพวกเขานั้น ดูไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อแพ้ไปถึง 13 จาก 15 เกม ถึงกระนั้น 2 เกมที่พวกเขาคว้าชัยเหนือแชมป์เก่าได้ คือการชนะ แมนฯ ซิตี้ ทั้งสองครั้งในปี 2013 และ 2019

    "เบิร์นลี่ย์-ลิเวอร์พูล"

    ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ได้ถึง 6 จาก 7 เกมที่บุกเยือน เทิร์ฟ มัวร์ ในเกม พรีเมียร์ลีก โดยเกมเดียวที่ไม่ชนะคือการบุกพ่ายที่นี่ 2-0 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2016 ซึ่งการเยือน "เดอะ คลาเร็ตส์" นั้น นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดที่ "หงส์แดง" ลงเล่นเกมเยือน โดยมีอัตราการชนะถึง 87%

    แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จัดแอสซิสต์เกมเยือนไปแล้ว 5 ครั้งจากการลงเล่น 4 เกมหลังสุด และหากรวมทั้งฤดูกาลนี้ เจ้าตัวถวายพานให้เพื่อนทำสกอร์เกมเยือนไปแล้ว 6 ลูก โดยแข้งหงส์คนล่าสุดที่ทำแอสซิสต์เกมเยือนได้มากกว่า 6 ลูก คือ แดนนี่ เมอร์ฟี่ เมื่อปี 2002/03 ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็แอสซิสต์นอกบ้านไปแล้ว 6 ครั้งเช่นกัน

    4 เกมหลังสุดที่ เบิร์นลี่ย์ เล่นในบ้านลงเอยด้วยผลเสมอทั้งหมด โดยพวกเขาเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนถึง 2 ครั้ง ขณะที่ทีมทั้งหมดที่เสมอในบ้านตัวเองติดต่อกัน 5 นัดมีทั้งสิ้น 8 ครั้ง ล่าสุดก็เป็น เบิร์นลี่ย์ ที่ทำไว้เมื่อเดือนมีนาคมปี 2021

    เจย์ โรดริเกซ หัวหอก เบิร์นลี่ย์ ที่ทำประตูพาทีมแบ่งแต้มจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เมื่อนัดก่อน จากสถิติเผยว่ามีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เจ้าตัวทำประตูให้ เบิร์นลี่ย์ ได้ 2 เกมติดต่อกันเท่านั้น โดยเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2020 ซึ่งเกมที่สองคือการยิงประตูตีเสมอ ลิเวอร์พูล ในนัดต่อมา

    "นิวคาสเซิ่ล-แอสตัน วิลล่า"

    แอสตัน วิลล่า ตั้งเป้าคว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบไป-กลับให้ได้เป็นครั้งที่สอง หลังก่อนหน้านี้เคยทำได้ แต่ต้องย้อนไปเมื่อซีซั่น 2004/05 ภายใต้การคุมทัพของ เดวิด โอเลียรี่

    2 จาก 4 ประตูที่ "สาลิกาดง" ทำได้หลังสุดในลีก เกิดจากลูกฟรีคิกโดยตรง ซึ่งลูกแรกได้จาก จอนโจ้ เชลวี่ย์ ที่จะใส่ ลีดส์ ส่วนอีกลูกคือเกมก่อนที่ คีแรน ทริปเปียร์ สังหารใส่ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งไม่แน่เชื่อว่านั่นเป็นแค่ 2 ลูกจาก 116 ประตูในลีกหลังสุดที่เกิดจากลูกยิงฟรีคิก

    นิวคาสเซิ่ล ไม่ชนะในลีก 3 เกมติดต่อกันเลย นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2018

    ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มีค่าเฉลี่ยมีส่วนร่วมกับประตูทุก ๆ 44 นาทีในการลงเล่นเกมลีกในสีเสื้อ "สิงห์ผยอง" โดยทำได้ 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์
   
    "สเปอร์ส-วูล์ฟส์"

    วูล์ฟแฮมป์ตัน ตั้งเป้าคว้าชัยชนะเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก 4 นัดติดต่อกันให้ได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร

    ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทำประตูในบ้านได้อย่างน้อย 2 ลูกตลอด 6 เกมลีกหลังสุด โดยที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้งที่พวกเขาทำสถิตินี้ได้นานกว่า ซึ่งเกิดขึ้นที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน รังเหย้าเก่าที่ทำไว้ 7 นัดติด ตอนช่วงระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคมปี 1998 (7) และเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมปี 2017 (7)

    ซน ฮึง-มิน มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงให้ "ไก่เดือยทอง" 7 ครั้งจาก 7 เกมลีกหลังสุด โดยทำได้ 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ โดยที่แต่ละประตูเกิดชึ้นในช่วงครึ่งเวลาหลัง และยังเกิดขึ้นในช่วงเวลา 65 นาทีเป็นต้นไป

    ไม่มีทีมไหนลีกที่เสียประตูเกมนอกบ้านน้อยไปกว่า วูล์ฟส์ อีกแล้ว (8 ลูกเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี) นอกจากนี้ โชเซ่ ซา นายด่านโปรตุกีสของพวกเขามีค่าเฉลี่ยเสียประตูทุก ๆ 124 นาทีในการเล่นเกมเยือน นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดของผู้รักษาประตูที่ลงเฝ้าเสา 10 เกมขึ้นไป ต่อจาก เอแดร์ซอน เท่านั้นที่มีค่าเฉลี่ยเสียประตูเกมเยือนทุก ๆ 127 นาที

    "เลสเตอร์-เวสต์แฮม"

    หาก แพตสัน ดาก้า กองหน้า เลสเตอร์ ทำประตูได้ในเกมนี้จะทำให้เขาเป็นผู้เล่นรายที่ 7 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ออกสตาร์ตลงเล่นเกมในบ้าน 4 นัดแล้วทำสกอร์ได้ทุกนัด

    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ เดอะ ฟ็อกซ์ คุมทีมแพ้ต่อ เดวิด มอยส์ มาตลอด 3 นัดหลังสุดที่เจอกัน โดยมีผู้จัดการทีมสองคนเท่านั้นที่เขาแพ้ 4 เกมติดต่อกันคือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (2011-2013) และ คาร์โล อันเชล็อตติ (2014-2020)

    เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เอาชนะ เลสเตอร์ ได้ตลอด 3 เกมลีกที่เจอกัน โดยชัยชนะเหนือทีมจิ้งจอกติดต่อกันที่ยาวนานกว่านี้คือการคว้าชัย 4 ครั้งติดตอนช่วงระหว่างปี 1994-1997

    นอกจากนี้ "เดอะ แฮมเมอร์ส" สามารถทำประตูใส่ เลสเตอร์ ได้ถึง 26 นัดจาก 29 นัดที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก คิดเป็น 90% โดยนี่เป็นตัวเลขที่มากที่สุดที่ทีมทีมหนึ่งทำประตูได้ใส่คู่แข่งในการเจอกันมากกว่า 10 เกมขึ้นไป