คืนวันอังคารนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวลงเตะในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้าง โดยจะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟาดแข้งกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทีมอันดับเก้า ที่ 7 เกมหลังสุดในลีก มีสถิติไร้พ่าย (ชนะ 3, เสมอ 4)!!! ซึ่งดูแล้วคงเป็นงานหนักอีกหนึ่งนัดสำหรับทีมของกุนซือ ราล์ฟ รังนิก แต่ขณะเดียวกันคงไม่ได้อีกแล้ว ที่เขาจะปล่อยให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังแบบติดๆ กันเป็นนัดที่สี่ ดังนั้นนี่คือเกมที่ต้อง 3 แต้มสำหรับพวกเขา และนี่คือไลน์อัพ 11 ผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-2-3-1 ที่ รังนิก น่าจะเลือกใช้สำหรับเกมนี้ โดยอ้างอิงจาก The United Stand สื่อที่เน้นวิเคราะห์เจาะลึกเกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
 
- ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา
แม้ 5 เกมหลังสุด เก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียว แต่ก็เป็นเพราะเขาที่ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง และนัดนี้อาจต้องหวังพึ่งความหนึบของเจ้าตัวอีกก็เป็นได้

- แบ็กโฟร์ : ดีโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, อเล็กซ์ เตลลิส
ฟอร์มของกัปตันทีม แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังคงเป็นที่พูดถึงในด้านลบต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่ รังนิก จะเลือกใช้ ลินเดอเลิฟ เล่นเซนเตอร์แบ็กคู่กับ วาราน เช่นเดียวกับแบ็กซ้ายที่อาจจะเปลี่ยนจาก ลุค ชอว์ มาเป็น เตลลิส ส่วนแบ็กขวาเป็น ดาโลต์ เหมือนเดิม

- มิดฟิลด์คู่กลาง : สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, ปอล ป็อกบา
เฟร็ด หายป่วย "โควิด-19" เรียบร้อย และพร้อมเป็นตัวเลือกสำหรับเกมนี้ แต่ดูแล้ว รังนิก น่าจะใช้บริการ ป็อกบา กับ แม็คโทมิเนย์ เหมือนเดิม ส่วน เนมานย่า มาติช มีปัญหาบาดเจ็บ ไม่พร้อมช่วยทีมแน่นอน

- สามตัวรุก : เจดอน ซานโช, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, แอนโธนี่ อีแลงก้า
บรูโน่ โดน พอล สโคลส์ ตำนานสโมสร วิจารณ์เกี่ยวกับฟอร์มการเล่นในเกมล่าสุดที่ "ปีศาจแดง" ทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นเป็นเรื่องยากที่ รังนิก จะถอดจอมทัพชาวโปรตุกีสออกจากทีมตัวจริง อย่างไรก็ตาม ตรงริมเส้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยดาวรุ่งอย่าง อีแลงก้า น่าจะได้รับโอกาสลุยทางฝั่งซ้าย พร้อมโยก ซานโช เล่นทางขวาที่ถนัด และดร็อป มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ฟอร์มระยะหลังยังไม่ดี เป็นสำรอง

- หัวหอกตัวเป้า : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แม้กำลังอยู่ในช่วงปืนฝืด ยิงใครไม่ได้มา 6 นัดติด แต่ รังนิก ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้ โรนัลโด้ ลงลาตาข่ายเป็นตัวจริงต่อไป เพราะ เอดินสัน คาวานี่ ยังคงเจ็บตรงโคนขาหนีบ