ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 7 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 26

7 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 26

Posted 19/02/2022 by siamsport

ศึกพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์นี้มีแข่งในวันเสาร์ถึง 8 คู่ ส่วนอีก 2 คู่จะฟาดฟันกันในคืนวันอาทิตย์ โดยแต่ละคู่ที่เราคัดสรรมาให้แฟนๆ เจาะลึกเรื่องราวนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย

    "อาร์เซน่อล-เบรนท์ฟอร์ด"

    เกมก่อนที่เจอกันนัดเปิดสนามฤดูกาล 2021/22 เบรนท์ฟอร์ด พลิกล็อกคว้าชัยเหนือ อาร์เซน่อล ได้ 2-0 ซึ่งหากพลพรรค "เดอะ บีส์" บุกกำราบ "เดอะ กันเนอร์ส" ได้ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้นม จะทำให้พวกเขาเป็นทีมน้องใหม่ทีมแรกที่สอย "ปืนใหญ่" แบบเหย้า-เยือนได้ นับตั้งแต่ที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เคยทำได้เมื่อซีซั่น 1992/93

    อย่างไรก็ดี อาร์เซน่อล ไม่แพ้เกมลีกต่อทีมน้องใหม่ในบ้านตัวเองมาแล้ว 32 นัดติดต่อกัน (ชนะ 27 เสมอ 5) โดยครั้งสุดท้ายคือพ่ายต่อ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็โ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 อีกทั้งยังยิงไม่ได้แค่เกมเดียวเท่านั้นจากจำนวนดังกล่าวที่เจอทีมน้องใหม่ทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 กับ มิดเดิลสโบรส์

    เซร์กี้ กานอส และ คริสเตียน นอร์การ์ด สองแข้ง เบรนท์ฟอร์ด ที่ต่างทำสกอร์ได้ในเกมที่ชนะ "ปืนใหญ่" 2-0 ซึ่งในรอบ 10 ปีหลังสุดนั้น มีผู้เล่นทีมน้องใหม่แค่รายเดียวที่สามารถทำประตูทั้งในบ้านและนอกบ้านใส่ อาร์เซน่อลได้ นั่นก็คือ ชาร์ลี ออสตัน ที่ทำไว้กับ ควีนพาร์ค เรนเจอร์ส ตอนซีซั่น 2014/15

    อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ กองหน้า อาร์เซน่อล ทำประตูเกม ลอนดอน ดาร์บี้ ที่สนาม เอมิเรตส์ ไปแล้ว 12 ลูก โดยที่เขาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดในเกมดาร์บี้ที่สนามแห่งนี้

    "แอสตัน วิลล่า-วัตฟอร์ด"

    การเจอกับ แอสตัน วิลล่า ของ วัตฟอร์ด ทำได้ดีมาก ๆ โดย 4 จาก 5 เกมหลังพวกเขาเอาชนะได้ทั้งหมด (แพ้ 1) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าก่อนหน้านี้ที่เจอกัน 16 เกม (ชนะ 5 เสมอ 5 แพ้ 6)

    ถึงกระนั้น "สิงห์ผยอง" พ่ายต่อ วัตฟอร์ด ที่รังเหย้าตัวเองแค่นัดเดียวจาก 9 เกมที่เจอกัน (ชนะ 6 เสมอ 2) โดยที่แพ้ต้องย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 ด้วยสกอร์ 2-3

    "แตะอาละวาด" เป็นทีมเดียวในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่ยังไม่สามารถทำประตูได้จากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษเลย ซึ่งหากเจาะไปมากกว่านั้นกับทีมที่ทำได้อย่างน้อย 50 ประตูในประวัติศาสตร์ลีก มีแค่ วิลเบิลดัน (9.1%) ที่มีอัตราเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า วัตฟอร์ด (9.7%) ในเรื่องลูกยิงไกล (29 ประตูจาก 299 ลูก)

    จาค็อบ แรมซี่ย์ ในวัย 20 ปีมีชื่อทำสกอร์ใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 5 ลูกในสีเสื้อ วิลล่ โดยมีแค่ผู้เล่น 2 รายเท่านั้นที่ทำประตูให้กับสโมสรแห่งนี้มากกว่าเขาในขณะที่อายุต่ำกว่า 21 ปี นั่นก็คือ ลุค มัวร์ ตอนปี 2005/06 (8 ประตู) และ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ตอนปี 2006/07 (9 ประตู)

    "คริสตัล พาเลซ-เชลซี"

    เชลซี มีเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 76% เมื่อเจอกับ คริสตัล พาเลซ ในศึก พรีเมียร์ลีก ( 19 จาก 25) มิหนำซ้ำ 8 เกมหลังสุดยังเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ซึ่งในบรรดาทีมที่เจอกันอย่างน้อย 20 นัด นี่คืออัตราการชนะมากสุดในประวัตศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

    40% ที่ พาเลซ คว้าชัยได้ในลีกปีนี้ (2 จาก 5) เกิดจากการลงเล่นทีมที่เจอกับกลุ่มท็อปโฟร์ (ชนะ สเปอร์ส 3-0 และชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0)  โดยที่ "ดิ อีเกิ้ลส์" ยังไม่เคยชนะทีมที่อยู่ 4 อันดับแรก 3 เกมในปีเดียวได้เลย

    คริสเตียน พูลิซิช ยิงประตูใส่ พาเลซ ในลีกไปแล้ว 5 ลูก โดย 2 เกมหลังที่เล่นที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เจ้าตัวทำได้ 3 สกอร์ ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ พูลิซิช ทำประตูได้มากที่สุด

    ไมเคิ่ล โอลิเซ่ แข้ง พาเลซ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 7 ลูกจาก 7 เกมหลังสุดทุกรายการ ( 3 ประตู 4 แอสซิสต์) ขณะที่ตลอดทั้งซีซั่นนี้ เจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยมีประตูหรือแอสซิสต์ทุก ๆ 75 นาที

    "ลิเวอร์พูล-นอริช"

    ลิเวอร์พูล มีค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อเกมในศึก พรีเมียร์ลีก 2.8 ลูก ในการเจอกับ นอริช ( 53 ประตูจาก 19 นัด) ซึ่งเป็นอัตราตัวเลขที่สูงที่สุดที่พวกเขาลงแข่งกับทีมใดทีมหนึ่งที่เจอกันอย่างน้อย 5 นัดในรายการนี้

    หลังจากบุกคว้าชัยเหนือ วัตฟอร์ด 3-0 เมื่อเดือนก่อน นอริช ก็มองหาการคว้าชัยเกมเยือนสองนัดติดบนเวที พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2012

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูในลีกซีซั่นนี้ถึง 25 ประตู (ยิง 16 แอสซิสต์ 9) โดยแอสซิสต์ต่อไปของเขาจะทำให้ดาวเตะอียิปต์ ทำประตูและแอสซิสต์แตะหลัก 10 ขึ้นไปในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งหนที่สาม หลังก่อนหน้านี้เมื่อซีซั่น 2017/18 และ 2019/20 เคยทำได้มาแล้ว และจะเป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่แข้งเลือดเนื้อเชื้อไขผู้ดีที่ทำได้ต่อจาก เอริค คันโตน่า (4 ครั้ง) และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (3 ครั้ง)

    เกมก่อนที่เจอกัน ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริช ไปได้ 3-0 อีกทั้งในเกม คาราบาว คัพ ก็สามารถเอาชนะได้อีก 3-0 โดยทีมบนลีกสูงสุด อังกฤษ ทีมล่าสุดที่สามารถคว้าชัยเหนือคู่แข่งบนลีกเดียวกันได้ด้วยสกอร์ 3 ลูกขึ้นไป 3 นัดในปีเดียวคือ อาร์เซน่อล ที่เจอกับ แอสตัน วิลล่า ตอนซีซั่น 2014/15

    "แมนฯ ซิตี้-สเปอร์ส"

    เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ แมนฯ ซิตี้ มีส่วนร่วมกับประตู 7 ลูกจาก 8 เกมหลังสุดที่ลงเล่นในลีก (5 ประตู 2 แอสซิสต์) โดยประตูต่อไปจะทำให้เขายิงในรายการนี้เป็นลูกที่ 50 ซึ่งทำให้จะเป็นผู้เล่นเบลเจี้ยน รายที่ 4 ที่ยิงประตูได้แตะหลักนี้ต่อจาก โรเมลู ลูกากู, คริสติย็อง เบนเตเก้ และ เอแด็น อาซาร์

    ซน ฮึง-มิน สามารถทำประตูใส่ "เรือใบสีฟ้า" ได้ถึง 6 ลูกจาก 8 เกมที่เจอกันทุกรายการ ซึ่งเจ้าตัวก็เป็นคนทำประตูชัยในนัดแรกที่ "ไก่เดือยทอง" เอาชนะไปได้ 1-0 วันนัดเปิดซีซั่น

    นี่จะเป็นการเจอกันหนที่ 5 ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลงคุมทีมวัดฝีมือกับ อันโตนิโอ คอนเต้ ทุกรายการ ซึ่งในฤดูกาล 2016/17 คอนเต้ เป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่สามารถเอาชนะ เป๊ป ได้ทั้งไป-กลับ ขณะที่ กวาร์ดิโอล่า เองก็เอาคืนได้ทั้งสองนัดในซีซั่นถัดมา

    "ลีดส์-แมนฯ ยูไนเต็ด"

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 6 ประตูจาก 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (5 ประตู 1 แอสซิสต์) โดยเกมก่อนเจอกันนัดเปิดสนาม แข้งโปรตุกีส ซัดแฮตทริกมาได้

    แมนฯ ยูไนเต็ด ทำประตูได้ตลอด 14 เกมหลังสุดที่ออกไปเยือนในลีก โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไร้สกอร์นอกบ้านคือการออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนเมษายน ปีก่อน (0-0) ขณะเดียวกัน "เร้ด เดวิลส์" เป็นทีมเดียวทำประตูเกมเยือนได้ทุกนัดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

    นัดล่าสุดที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นเจอกับ ลีดส์ คือเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปี 2003 ซึ่งหากเขาลงเล่นในเกมนี้ จะทำให้ โรนัลโด้ เป็นผู้เล่นที่เว้นช่วงเจอกับทีมทีมหนึ่งนานที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลานานถึง 18 ปีกับอีก 125 วัน

    "ยูงทอง" มองหาชัยชนะเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งที่สองในรอบ 17 เกมลีก โดยก่อนหน้านี้เสมอ  5 นัด และแพ้ไปถึง 10 เกม

    "วูล์ฟส์-เลสเตอร์"

    เลสเตอร์ ซิตี้ เก็บคลีนชีตเหนือ วูล์ฟส์ ได้ตลอด 5 เกมหลังสุดในลีกที่เจอกัน โดยทีมที่พวกเขาเก็บคลีนชีตได้ติดต่อกันนานที่สุดคือ เบิร์นลี่ย์ ที่ทำไว้ 7 นัดตอนช่วงปี 1997-2009) ขณะเดียวกัน วูล์ฟส์ มีสถิติที่ยิงประตูคู่แข่งทีมเดียวกันไม่ได้นานสุดคือ ไบรท์ตัน ที่ไร้สกอร์ 6 เกมตอนช่วงปี 1980-1984

    "เดอะ ฟ็อกซ์" เอาชนะ "หมาป่า" ได้ในนัดแรกที่เจอกัน 1-0 โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาคว้าชัยเหนือ วูล์ฟส์ ได้แบบไป-กลับคือตอนซีซั่น 1995/96 ในลีกระดับดิวิชั่น 2

    วูล์ฟส์ ไม่เสียประตูเกินหนึ่งลูกในเกมเดียเลยตลอด 12 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก นับตั้แต่ที่พ่ายต่อ คริสตัล พาเลซ 0-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน มีสองครั้งที่ วูล์ฟส์ ทำสถิตินี้ได้ด้วยจำนวนนัดที่มากกว่า นั่นก็คือ 14 เกมตอนช่วงเดือนธันวาคมปี 2013-เดือนมีนาคม ปี 2014 ด้วยจำนวน 14 นัด และตอนระหว่าง มีนาคม-กันยายน ปี 1912 ที่ทำได้ 13 เกม

    4 ประตูจาก 5 เกมของ ราอูล ฮิเมเนซ ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ทำให้คือประตูชัยที่พา วูล์ฟส์ คว้าชัยได้ และหากรวมทั้งหมด 46 % จากจำนวนประตูที่เขาทำได้ใน พรีเมียร์ลีก คือประตูชัย 18 จาก 39 ลูก ซึ่งในประวัติศาสตร์ลีก ผู้เล่นที่ยิงได้อย่างน้อย 30 ลูก มีแค่ ร็อบ ลี เท่านั้นที่มีเปอร์เซ็นต์ยิงประตูชัยได้มากกว่า(50%)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »