ลิเวอร์พูล เตรียมลงเล่นแมตช์ตกค้างพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่สำคัญมากๆ สำหรับ "หงส์แดง" เพราะหากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ จะทำให้ทีมขยับเข้าใกล้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 3 แต้มเท่านั้น โดยขุมกำลัง "เดอะ เร้ดส์" ในตอนนี้ต้องบอกว่าสมบูรณ์สุดๆ แม้อาจจะไม่ได้เห็น ดีโอโก้ โชต้า กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงสนามก็ไม่เป็นไร เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงเน้นย้ำลูกทีมให้มีสมาธิกับเกมนี้ และไม่ต้องไปคิดไกลเรื่องลุ้นแชมป์ เพราะหนทางยังอีกยาวไกล

1. เก็บ โชต้า, ฟีร์มีโน่ เพื่อแมตช์กับ เชลซี

อาการบาดเจ็บของ ดีโอโก้ โชต้า กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังคงน่าเป็นห่วง และเชื่อว่า คล็อปป์ คงเลือกที่จะพักทั้งสองคนเอาไว้ก่อน เนื่องจากมีเกมสำคัญในแมตช์ปะทะ เชลซี รอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ วันอาทิตย์นี้

ฉะนั้นในตำแหน่งสามประสานแดนหน้าคงจะเป็นหน้าที่ของ หลุยส์ ดิอาซ , ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งทั้งสามคนอาจจะทำผลงานไม่ค่อยโดดเด่นในช่วงครึ่งแรกเกมที่ชนะ นอริช ซิตี้ แต่ครึ่งหลังพอมีการปรับแท็กติกพวกเขาสามารถยิงประตูได้ครบทุกคน

ในรายของ ดิอาซ ตอนนี้ดูเหมือนจะเล่นเข้ากับระบบของ "หงส์แดง" ได้เป็นอย่างดี และด้วยศักยภาพของเขาสามารถฉีกเกมรับของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ไม่อยาก เพราะหากทัพ "ยูงทอง" เล่นเกมบุกเหมือนในแมตช์ที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด งานนี้อาจจะได้เจอทีเด็ดของ ปีกชาวโคลอมเบีย เล่นงานแหงๆ

ขณะที่ มาเน่ กับ ซาลาห์ ทั้งสองคนถือเป็นตัวอันตรายที่แนวรับ ลีดส์ ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะถ้าปล่อยให้มีพื้นที่กระชากลากเลื้อย งานนี้มีหวังโดน 2 สตาร์จากกาฬทวีปกระซวกตาข่ายแน่นอน

2. แผงมิดฟิลด์กลับมาฟิตสมบูรณ์

ในส่วนของแดนกลางต้องยอมรับว่าเกมกับ นอริช ทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า ทำผลงานไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ คล็อปป์ จะส่ง ติอาโก้ อัลกันทาร่า ลงเป็นตัวจริง

ขณะที่ ฟาบินโญ่ จะได้กลับมาประจำตำแหน่งโฮลดิ้ง มิดฟิลด์เหมือนเดิม ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตอนนี้ฟอร์มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง โดยมีส่วนกับเกมรุกของทีม ส่วนเกมรับก็ทำได้ดีเยี่ยม

สำหรับ ติอาโก้ ต้องบอกเลยว่าฟอร์มยอดเยี่ยมเหลือเกิน เป็นทั้งตัวที่คอยเชื่อมเกม และยังมองหาโอกาสในการจบสกอร์ได้ดีด้วย ดังนั้นตอนนี้แผงกองกลางของ "หงส์แดง" ถือว่าลงตัวสุดๆ

นอกจากนี้ยังมี ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์, แชมเบอร์เลน และ เกอิต้า ที่พร้อมรอโอกาสแสดงผลงานของพวกเขา แน่นอนว่าในเกมกับ ลีดส์ แดนกลางจะมีส่วนอย่างมากในการตัดสินผลแพ้ชนะในแมตช์นี้

3. สามแข้งอันตรายลีดส์ ระวังให้ดี

แม้ว่า ลีดส์ จะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนก็ตาม แต่สำหรับนักเตะที่ยังคงทำผลงานได้คงเส้นคงวา และอันตรายมากๆ ซึ่ง ลิเวอร์พูล ต้องห้ามประมาทเด็ดขาดนั่นก็คือ อิลล็อง เมสลิเย่ร์, ราฟินญ่า และอดัม ฟอร์ชอว์

ในรายของ เมสลิเย่ร์ ถือเป็นผู้รักษาประตูที่มีฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมในฟดูกาลนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้มากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่มีหลายครั้งที่เขาโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยป้องกันประตูให้ต้นสังกัด

ขณะที่ ราฟินญ่า ต้องบอกว่าผลงานโดดเด่นเป็นสง่าอย่างมากนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับ ลีดส์ เมื่อ 14 เดือนก่อน ล่าสุดก็เพิ่งซัดประตูในเกมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะว่าไปแล้วหาก "ยูงทอง" ได้มีฝีเท้าของเขาในยิงประตู คาดว่าทีมอาจจะหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้นก็ได้

ส่วนนักเตะอีกรายที่ "หงส์แดง" ห้ามประมาทก็คือ ฟอร์ชอว์ เพราะฟอร์มของนักเตะรายนี้โดดเด่นอย่างมาก โดยเขากำลังเต็มไปด้วยความมั่นใจ หลังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องหลังหายจากอาการบาดเจ็บสะโพก ต้องยอมรับว่า ดาวเตะวัย 30 ปีช่วยเติมเต็มการขาดให้ไปของ คาลวิน ฟิลลิปส์ ได้ดีเยี่ยม

แถมให้อีกสักคนก็คือ แดเนี่ยล เจมส์ ตอนนี้บอกเลยว่าเจ้าหนูรายนี้จี๊ดจ๊าดเหลือเกิน และเล่นแบบใส่เกินร้อย ที่สำคัญเขาเป็นอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าคงจะสู้ถวายหัวเพื่อหวังสกัดกั้น ลิเวอร์พูล ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

4. แผงแบ็กโฟร์ชุดเก่ง-อลีสซง ตัวพลิกเกม

ในเกมกับ นอริช ซิตี้ สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องเจอกับข่าวร้ายเพราะ 2 ฟูลแบ็กสำคัญทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีปัญหาบาดเจ็บทำให้พลาดลงสนามอย่างน่าเสียดาย

ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์ จึงเลือกใช้งาน โจ โกเมซ กับ คอสตาส ซิมิคาส ทำหน้าที่แบ็กขวา-ซ้าย ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองคนก็แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีส่วนต่อการคว้า 3 คะแนนในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามสำหรับแมตช์ปะทะ ลีดส์ แน่นอนว่า คล็อปป์ ต้องการผู้เล่นชุดแกร่งที่สุดลงสนาม และทั้ง "หนุ่มเทรนต์" กับ "ร็อบโบ้" ก็ฟิตพร้อมที่จะลงทำหน้าที่หลักของตัวเองอย่างเต็มที่

ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเชื่อว่า คล็อปป์ อาจจะเลือกพัก โฌแอล มาติป และส่ง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลงสนามคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ส่วนปราการหลังชาวแคเมอรูน คงจะได้พักเพื่อจะได้ฟิตลงเล่นในเกมกับ เชลซี สุดสัปดาห์นี้

ขณะที่ทีเด็ดของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีแค่แนวรุกเท่านั้น แต่ยังมี อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่นอกจากจะโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบในการป้องกันประตูแล้ว ยังมีไหวพริบในการเปิดบอลเร็ว และแม่นยำ ซึ่งมีหลายครั้งที่ลูกเปิดจากเขานำไปสู่การได้ประตู !!

5. โอกาสขยับหายใจรดต้นคอแมนฯ ซิตี้

เป็นไปไม่ได้ที่สาวก "เดอะ ค็อป" จะไม่คิดเรื่องโอกาสลุ้นแชมป์ลีก หลังจากที่ตอนนี้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำแต้มไล่จี้แบบหายใจรดต้นคอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากเอาชนะ ลีดส์ ได้สำเร็จ

สามคะแนนในเกมกับ "ยูงทอง" มีค่ามหาศาล เพราะจะทำให้ ลิเวอร์พูล ลดช่องว่างกับ "เรือใบสีฟ้า" เหลือแค่ 3 คะแนนเท่านั้น แถมพวกเขายังมีโปรแกรมต้องเจอกันเองด้วยในเดือนเมษายน

หากสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ระหว่างทั้งสองทีมยังคงขับเคี่ยวกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าในแมตช์ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการชี้ชะตาว่าทีมไหนมีโอกาสได้แชมป์ลีกไปครองในฤดูกาลนี้

กระนั้นสิ่งที่ "หงส์แดง" ต้องโฟกัสก็คือเกมของพวกเขาเท่านั้น ไม่ต้องไปสนใจเกมของ แมนฯ ซิตี้ เพราะเอาเข้าจริงๆ อีก 2 แมตช์ข้างหน้าทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีโปรแกรมค่อนข้างหนักทั้งเจอ เอฟเวอร์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

งานนี้แฟนบอล "หงส์แดง" อาจจำเป็นต้องกลายร่างเป็นแฟนบอลเฉพาะกิจของสองสโมสรคู่อริของพวกเขาก็ได้ !!