ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เคลเลเฮอร์ฮีโร่,ฟานไดค์แกร่ง,ซาลาห์จืด!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ

เคลเลเฮอร์ฮีโร่,ฟานไดค์แกร่ง,ซาลาห์จืด!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ

Posted 28/02/2022 by siamsport

ลิเวอร์พูล เปิดฉากคว้าแชมป์ใบแรกได้สำเร็จหลังดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี 11-10 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 ที่สนามเวมบลีย์ ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งเกม "สิงโตน้ำเงินคราม" มีโอกาสส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายถึง 3 ครั้งแต่เป็นจังหวะล้ำหน้าหมด ขณะที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารดาวรุ่งสวมบทฮีโร่ทั้งเซฟในเกม และยังยิงจุดโทษตัดสินแชมป์

11 ตัวจริง

ควีวิน เคลเลเฮอร์ : 8
โชว์ซูเปอร์เซฟในช่วงต้นเกมจากจังหวะการยิงของ คริสเตียน พูลิซิช และใช้เท้าเซฟได้อย่างเหลือเชื่อจากการยิงของ  โรเมลู ลูกากู ในระยะเผาขนช่วงทดเจ็บในเวลาปกติ และยังกดจุดโทษคนสุดท้ายนำทีมคว้าแชมป์ด้วย

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 8
 เล่นด้วยความนิ่ง คุมเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น ทำหน้าที่คอยเช็คล้ำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พลาดยืนล้ำหน้าในจังหวะที่ มาติป โขกประตู และมีโอกาสโหม่งเต็มๆ ในจังหวะเตะมุมแต่โดน เอดูอาร์ เมนดี้ เซฟได้อย่างสุดยอด คู่ควรสำหรับตำแหน่งแมตช์ ออฟ เดอะ แมตช์

โฌแอล มาติป : 7
ครึ่งแรกยืนตำแหน่งหลวมไปนิดทำให้ เมสัน เม้าน์ท หลุดเข้าไปยิงโล่งแต่โชคดีที่ชนเสา ครึ่งหลังเล่นได้เหนียวแน่นมากขึ้น และเกือบเป็นฮีโร่โหม่งประตูชัย แต่น่าเสียดายที่โดนวีเออาร์จับล้ำหน้าจาก ฟาน ไดค์

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7
มีพละกำลังเต็มเปี่ยม วิ่งขึ้นลงตลอด 120 นาที ประสานงานกัน ดิอาซ ได้อย่างลงตัว แต่จังหวะเปิดบอลจากริมเนส้นยังไม่ค่อยแม่นยำมากนัก

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 6
ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เกมรับก็ไม่ค่อยดีนัก เกมรุกไม่ได้ช่วยอะไรมาก มีทีเด็ดจากการเล่นลูกตั้งเตะ แต่ช่วงต่อเวลาพิเศษสภาพร่างกายแทบวิ่งไม่ไหว ต้องเล่นแบบประคองตัวจนกระทั่งดวลจุดโทษ

นาบี เกอิต้า : 6
ได้ลงสนามแบบไม่คาดคิดเนื่องจาก ติอาโก้ อัลกันทาร่า บาดเจ็บช่วงวอร์มอัพ ผลงานครึ่งแรกสู้กับแดนกลางเชลซีได้ดี มีลูกบู๊มันๆ หลายจังหวะ ได้ยิงไกลแต่โดน เมนดี้ เซฟ ส่วนครึ่งหลังผลงานไม่มีอะไรโดดเด่น สุดท้ายต้องโดนเปลี่ยนตัวออก

ฟาบินโญ่ : 8
ช่วงต้นเกมทำอะไรไม่ค่อยได้มากนัก การเข้าปะทะกับคู่แข่งดูกล้าๆ กลัวๆ แต่หลังจากผ่านไป 15 นาทีผลงานเริ่มโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ค่อยเชื่อมเกม และคุมจังหวะการเล่น แถมช่วยทำลายเกมแดนกลางเชลซีได้ดี

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 6
ฟอร์มค่อนข้างเงียบมากๆ ถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง แต่ยังมีจังหวะการจับบอลสวยๆ และเล่นด้วยความกระตือรือร้น

หลุยส์ ดิอาซ : 8
โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดอีกครั้ง คอยปั่นป่วน  เทรโวห์ ชาโลบาห์ ได้ตลอด และทุกครั้งที่บอลมาถึงเขา "หงส์แดง" มีลุ้นสร้างความหวาดเสียวได้เรื่อยๆ โดยมีจังหวะกดประตูด้วยแต่โดน เมนดี้ เซฟได้ ขณะเดียวกันยังช่วยเล่นเกมรับให้ทีมได้ดี แต่สุดท้ายโดนเปลี่ยนออกเนื่องจากหมดแรงในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ซาดิโอ มาเน่ : 6
ฟอร์มไม่ต่างกับ ซาลาห์ แต่เด่นกว่าตรงที่ความเร็วสามารถป่วนคู่เซนเตอร์แบ็กเชลซีได้ มีจังหวะทองฝั่งเพชรหน้าประตูแต่ดันยิงไปโดน เมนดี้ เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ มีส่วนโหม่งให้ มาติป ทำประตูแต่น่าเสียดายที่เป็นจังหวะล้ำหน้าของ ฟาน ไดค์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 6
โดน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ตามประกบติดจนเล่นไม่ออก แต่พยายามวิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อหวังสร้างโอกาสในการทำประตู ความสามารถเฉพาะตัวยังขู่แนวรับเชลซีได้ แต่ก็ไม่มีจังหวะสร้างความหวาดเสียวอะไรมากนัก

ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 79) : 6
 กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของลิเวอร์พูลที่ได้ลงเล่นในเวมบลีย์ วิ่งสู้ฟัดแบบไม่กลัวใคร กล้าเล่น แต่ก็ไม่ได้ทำผลงานโดดเด่นมากนัก

ดีโอโก้ โชต้า (แทน ซาดิโอ มาเน่ น. 80) : 6
สภาพร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่สามารถสร้างผลงานได้โดดเด่นมากนัก 

เจมส์ มิลเนอร์ (แทน นาบี เกอิต้า น. 80) : 7
รองเจมส์ยังคงเล่นด้วยสไตล์ดุดันลืมแก่ จังหวะเข้าบอลเต็มที่ เอาชนะการแย่งบอลได้บ่อยๆ แต่ขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย ส่วนเกมรับถือว่าทำ
หน้าที่ได้ดีเยี่ยม

อิบราฮิม่า โกนาเต้ (แทน โฌแอล มาติป น. 90) : 7
ตอยทำหน้าที่ตามประกบ ลูกากู ได้ดีเยี่ยม ยืนตำแหน่งกับ ฟาน ไดค์ ได้สมบูรณ์ ตัดบอลได้แม่นยำ

ดิว็อค โอริกี้ (แทน หลุยส์ ดิอาซ น. 97)  : 6
ลงมาเพื่อคอยเป็นตัวพักบอลซึ่งก็ทำได้ดี ช่วยขู่เกมรับ เชลซี เวลาที่ได้ลูกตั้งเตะ แต่ไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้เลย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »