ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เคลเลเฮอร์สุดยอด,เกปาฝันร้าย! 5 ข้อลิเวอร์พูลดวลลูกโทษดับเชลซีซิวคาราบาว

เคลเลเฮอร์สุดยอด,เกปาฝันร้าย! 5 ข้อลิเวอร์พูลดวลลูกโทษดับเชลซีซิวคาราบาว

Posted 28/02/2022 by siamsport

เป็นเกมสุดมันระดับหกดาวอย่างแท้จริงสำหรับนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ซึ่งมีครบทุกรสชาติ และอันที่จริงทั้งสองทีมสอยตาข่ายกันได้หลายหน แต่มีจังหวะล้ำหน้า และจังหวะที่ถูกวีเออาร์ปฏิเสธชนิดนับครั้งไม่ถ้วน
   
จนในที่สุด เกมต้องเข้าสู่การดวลลูกโทษตัดสินหลังจากทั้ง ลิเวอร์พูล และ เชลซี ไม่อาจพังประตูกันได้ใน 120 นาทีก่อนที่ หงส์แดง จะเป็นฝ่ายกำชัยหลังการดวลเป้าแบบมาราธอน

และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับเกมสุดระทึกที่ เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ.

1.กฏการดวลลูกโทษยังขลังเหมือนเดิม

ตามตำราพิชัยสงครามของเกมการฟาดแข้งระบุเอาไว้ว่าทีมที่ได้ยิงลูกโทษก่อนได้เปรียบ

ไม่ต่างอะไรกับกฏเหล็กของพวกนักเลงหัวไม้ที่ยืนยันว่าใส่ก่อนได้เปรียบนั่นเอง

และแม้ทั้งสองฝ่ายจะทำหน้าที่ได้ดีจนในที่สุดนายทวารต้องรับผิดชอบภารกิจสำคัญด้วยเช่นกัน แต่การได้ยิงลูกโทษก่อน และยิงเข้าย่อมกดดันคู่แข่งที่ได้ยิงทีหลัง และต้องยิงเพื่อตีเสมอเท่านั้น

กระทั่งสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล ก็ได้แชมป์ไปเชยชมแบบหวุดหวิดเป็นที่สุดเนื่องจาก เชลซี ไม่ใช่คู่แข่งรองบ่อน และพวกเขามีดีกรีเป็นแชมป์มามากมายก่ายกองเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ชัยชนะด้วยการดวลลูกโทษ 11-10 ของ ลิเวอร์พูล ที่มีเหนือ เชลซี ยังเป็นสถิติการดวลลูกโทษตุงตาข่ายสูงที่สุดเท่าที่ทีมในลีกสูงสุดของอังกฤษห้ำหั่นกันเองอีกด้วย

2.โธมัส ทูเคิ่ล ตัดสินใจอย่างน่าขัน
   
บอกได้เลยว่ากุนซือชาวเยอรมันของ สิงห์บลูส์ ตัดสินใจพลาดอย่างรุนแรงที่เลือกเปลี่ยน เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ลงเฝ้าเสาแทน เอดูอาร์ เมนดี้ ก่อนที่การดวลลูกโทษจะอุบัติ

เพราะอันที่จริงผู้รักษาประตูทีมชาติ เซเนกัล ก็เซฟลูกโทษเป็นเหมือนกัน ไม่ได้ด้อยไปกว่าเพื่อนร่วมอาชีพคนไหนเลย และเขาเพิ่งเซฟลูกโทษพาบ้านเกิดเมืองนอนสยบ อียิปต์ ในนัดชิงชนะเลิศ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ มาเมื่อไม่นาน

และที่สำคัญที่สุด ตลอดการเฝ้าเสาเกือบๆ 120 นาทีที่ เวมบลีย์ เมนดี้ ก็เซฟลูกยากครั้งแล้วครั้งเล่าช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูได้อย่างน่าทึ่ง เขาจึงน่าจะมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมที่จะทำหน้าที่ต่อหากเกมยืดเยื้อมาถึงการดวลลูกโทษ

ฉะนั้นแล้วจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ทูเคิ่ล คิดลึก และคิดมากเกินไปด้วยเชื่อว่ามือกาวสแปนิชคือเทพของการเซฟลูกโทษซึ่งปรากฏว่าเขาเซฟไม่ได้เลย แถมแทบไม่ใกล้เคียงที่จะปัดป้องได้เลยสักครั้ง

พร้อมกันนี้ นายด่านค่าตัวแพงยิงยิงลูกโทษไม่เอาอ่าวเอาทะเลเช่นกันจากการส่งบอลโด่งข้ามคานเป็นกิโลมอบโทรฟี่ให้กับ เร้ด แมชีน ไปเชยชม

3.ควีวิน เคลเลเฮอร์ เคยเป็นกองหน้ามาก่อน

ก่อนฟาดแข้งกับ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ประกาศล่วงหน้าแล้วว่าจะส่ง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสาเนื่องจากมันเป็นรายการของเขา

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ กุนซือเฮฟวี่เมทัลเคยสร้างเซอร์ไพรส์ส่ง อลิสซง เบ็คเกอร์ ลงสนาม แต่มันเป็นเพราะเขาต้องการให้นายทวารทีมชาติบราซิลได้สัมผัสกับเกมบ้างเพื่อสร้างความต่อเนื่องหลังจากต้องพักไปนานพอสมควรเนื่องจากติดเชื้อโควิด

และจากที่เห็น คล็อปป์ ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกให้ความไว้วางใจนายประตูไอริชวัย 23 ปีลงเล่นนัดสำคัญเนื่องจาก เคลเลเฮอร์ มีฝีมือป้องกันประตูที่เหนียวแน่นไว้ใจได้

จนในที่สุดเมื่อเกมการดวลลูกโทษตัดสินยืดเยื้อมาถึงขั้นที่เขาต้องยืดอกทำหน้าที่อย่างเสียไม่ได้

จากที่เห็น แน่นอนว่านายทวารมือสองของ หงส์แดง กดดันไม่น้อยดังจะเห็นว่าเขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ที่ต้องกลายมาเป็นคนตัดสินผลแพ้ชนะในนัดสำคัญด้วยตัวเอง

แต่ในที่สุด เคลเลเฮอร์ ก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จซึ่งอาจเป็นเพราะก่อนจะหันมาสวมถุงมือ เขาเคยเล่นเป็นหัวหอกมาตั้งแต่วัยเด็กสมัยอยู่กับทีม ริงมาฮอน เรนเจอร์ส ในบ้านเกิด แถมมีสถิติสอยตาข่ายที่ดีซะด้วย กระทั่งอายุ 14 ปีจึงหันมาเอาดีกับการเป็นนายทวารก่อนย้ายสู่อะคาเดมี่ของ หงส์แดง

ขณะเดียวกัน เคลเลเฮอร์ ยังสร้างชื่อเป็นนายทวาร ลิเวอร์พูล ที่พาทีมชนะการดวลลูกโทษมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยเนื่องจากเกมที่ เวมบลีย์ นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาทำได้สำเร็จหลังผ่านการเฝ้าเสาให้กับสโมสรมาทั้งสิ้น 16 นัด

4.ลิเวอร์พูล ล้างแค้น เชลซี จนได้

หงส์แดง กับ สิงห์บลูส์ ผ่านการฟาดแข้งกันมาแล้วอย่างมากมายก็จริง

แต่หากจะนับเฉพาะการเผชิญหน้ากันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย ทั้งสองทีมเคยบู๊กันมาก่อนหน้านี้สองครั้ง และเป็น สิงห์บลูส์ ที่กำชัยได้เรียบวุธ

เริ่มจากนัดชิงชนะเลิศ ลีกคัพ ปี 2005 ซึ่งต้องต่อเวลาพิเศษเช่นกัน และเป็นทีมเมืองกรุงที่ชนะ หงส์แดง 3-2 ในเวลา 120 นาที

จากนั้นทั้งคู่ก็โคจรมาดวลกันอีกในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ปี 2012 ซึ่งลงเอยโดย เชลซี กำชัยได้ 2-1

จนในที่สุด เร้ด แมชีน ก็ประสบความสำเร็จเหนือทีมดังแห่งลอนดอนจนได้ในการต่อกรกันหนที่สามซึ่งทำให้ทีมจาก แอนฟิลด์ สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพ่อ ลีกคัพ เรียบร้อยแล้วจากการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 9 เหนือ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งได้แชมป์รายการนี้ 8 สมัย

พร้อมกันนี้ คล็อปป์ ก็สมหวังได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยในเมืองผู้ดีไปเชยชมเป็นหนแรกเช่นกัน อีกทั้งเขายังสยบ โธมัส ทูเคิ่ล เพื่อนร่วมชาติได้สำเร็จด้วยการชิงเป็นกุนซือชาวเยอรมันคนแรกที่ได้แชมป์ลีกคัพของอังกฤษอีกด้วย

และสุดท้ายแล้ว มันเป็นแชมป์ใบที่ 10 ในอาชีพกุนซือของ คล็อปป์ ซึ่งเป็นการได้แชมป์กับ  ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล ทีมละห้ารายการเท่ากัน

-ดอร์ทมุนด์

บุนเดสลีกา : 2010/11, 2011/12

เดเอฟเบ โพคาล : 2011/12

ซูเปอร์คัพเยอรมัน : 2013, 2014

-ลิเวอร์พูล

พรีเมียร์ลีก : 2019/20

ลีกคัพ : 2022

แชมเปี้ยนส์ลีก : 2018/19

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 2019

สโมสรโลก : 2019

5.ลิเวอร์พูล เริ่มนับหนึ่งถึงสี่

เสร็จสิ้นภารกิจรายการแรกไปแล้วสำหรับ ลิเวอร์พูล ต่อการประเดิมคว้าโทรฟี่ คาราบาว คัพ ในซีซั่นนี้ แต่แน่นอนว่ากว่าจะได้แชมป์มาเชยชมก็ทำเอาเลือดตาแทบกระเด็นเช่นกัน

ฉะนั้นแล้ว หงส์แดง จึงเหลือแชมป์อีกสามรายการให้แฟนบอล เดอะ ค็อป ได้ตามลุ้นกันต่อโดยจะเริ่มจากถ้วย เอฟเอคัพ ในวันพุธนี้ซึ่ง เครื่องจักรสีแดง จะลงเล่นในบ้านบู๊กับ นอริช ในเกมรอบห้า

มองกันตามเนื้อผ้าแล้ว ไม่น่าจะเป็นงานยากสำหรับทีมเจ้าถิ่นที่ต้องรับการมาเยือนของทีมบ๊วยแห่ง พรีเมียร์ลีก แต่ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ซึ่งน่าจะมีการโรเตชั่นทีมมากพอสมควรเพื่อให้พ่อค้าแข้งหลายๆรายๆได้พักแข้งพักขาจากที่ต้องฉะกับ เชลซี นานถึง 120 นาทีอย่าติดประมาทก็แล้วกันในเมื่อโอกาสเปิดกว้างให้ทะยานเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้ายมากถึงเพียงนี้แล้ว

สำหรับถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างที่รู้กันว่า ลิเวอร์พูล แหย่เท้าเข้ารอบแปดทีมไปหนึ่งข้างแล้วหลังระเบิดฟอร์มบุกไปอัด อินเตอร์ มิลาน 2-0 ในนัดแรกของรอบ 16 ทีม

และให้น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งเมื่อวันก่อนทีมจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ บุกไปพิชิต เอฟเวอร์ตัน ได้แบบหืดจับ 1-0 ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายโดยมีประเด็นดราม่า เรือใบสีฟ้า น่าจะเสียลูกโทษหลังจาก ฟิล โฟเด้น สอยตาข่ายได้ไม่นานด้วย แต่ถูกวีเออาร์ปฏิเสธ

หาไม่แล้ว หากทีม ท๊อฟฟี่ ตีเสมอได้ หงส์แดง ก็จะได้ตีปีกกันยกใหญ่เพราะพวกเขาจะถูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ฉีกหนีเป็นสี่แต้มเท่านั้นจากการลงสนามมากกว่าหนึ่งนัด แทนที่จะเป็นหกแต้ม

แต่จะอย่างไรก็ตาม เชื่อได้เลยว่าด้วยฟอร์ม ณ นาทีนี้ของ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ต้องดวลกับพวกเขา บอกได้เลยว่าโอกาสรอดมียากมากจนถึงยากที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • แพะชั้นดี!ทูเคิ่ล,เกปานอนไม่หลับโดนสาวกเชลซีจวกยับ
    เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารชาวสแปนิช กลายเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอล เชลซี หลังซัดจุดโทษได้น่าผิดหวัง ขณะที่ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือก็โดนเช่นกันเพราะดันเลือกเปลี่ยน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่โชว์หนึบตลอดทั้งเกมออก สุดท้าย "สิงห์บลูส์" พ่ายจุดโทษ ลิเวอร์พูล ชวดแชมป์คาราบาว คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • เคลเลเฮอร์ฮีโร่,ฟานไดค์แกร่ง,ซาลาห์จืด!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ
    ลิเวอร์พูล เปิดฉากคว้าแชมป์ใบแรกได้สำเร็จหลังดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี 11-10 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 ที่สนามเวมบลีย์ ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งเกม "สิงโตน้ำเงินคราม" มีโอกาสส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายถึง 3 ครั้งแต่เป็นจังหวะล้ำหน้าหมด ขณะที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารดาวรุ่งสวมบทฮีโร่ทั้งเซฟในเกม และยังยิงจุดโทษตัดสินแชมป์
  • ไม่คิดไม่ฝัน!เคลเลเฮอร์เครียดต้องยิงลูกโทษพาลิเวอร์พูลซิวแชมป์คาราบาว
    ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีม ลิเวอร์พูล เปิดอกหลังพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ ว่าไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าเกมดวลกับ เชลซี จะยืดเยื้อจนนาทีสุดท้ายชนิดที่ตัวเขาเองต้องทำหน้าที่ยิงลูกโทษตัดสินพาทีมคว้าแชมป์
  • ดวลเป้ามาราธอน-เกปาพลาด! ลิเวอร์พูลแม่นโทษดับเชลซี ซิวบาวคัพสมัยที่ 9
    "หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลงานได้ตามเป้าหลังเสมอ "สิงห์บลูส์" ในเวลา 90 นาที และช่วง ต่อเวลาพิเศษ 0-0 ต้องไปดวลจุดโทษหาผู้ชนะก่อนเป็น ลิเวอร์พูล แม่นกว่าเบียดสุดดราม่า (11-10) ซิวแชมป์คาราบาว คัพ สมัยที่ 9 ของสโมสรในรอบ 10 ปีสำเร็จ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »