ราล์ฟ รังนิก ระบุ ถ้าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด อยากจะกลับไปเป็นทีมที่น่าหวาดกลัวเหมือนในอดีต พวกเขาก็ต้องดำเนินเรื่องต่างๆ แบบเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะเอาใครมาคุม "ปีศาจแดง" ในซีซั่นหน้าด้วย
    ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า "ปีศาจแดง" ต้องดำเนินมาตรการหลายอย่างตามแบบของ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากหวังที่จะกลับไปประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการให้โค้ชทำงานในระยะยาว หรือมีแนวทางการเล่นที่ชัดเจน

    แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ลีกอีกเลยนับตั้งแต่จบฤดูกาล 2012-13 เป็นต้นมา แถมถึงแม้พวกเขาจะเคยจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ 2 ครั้ง แต่แต้มของพวกเขาก็ห่างจากทีมแชมป์เยอะมากๆ ในขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มือเปล่ามา 4 ซีซั่นติดต่อกันแล้วด้วย

    รังนิก เผยว่า "ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล มีความต่อเนื่องและความคงเส้นคงวาในเรื่องของกุนซือมาตลอดช่วง 5 หรือ 6 ปีที่ผ่านมา พวกเขามีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน รวมถึงเรื่องที่ว่าพวกเขาอยากเล่นในแบบไหน ผมรู้จัก เจอร์เก้น เป็นการส่วนตัว และรู้จัก เป๊ป จากตอนที่เขาทำงานใน เยอรมนี เขาเองก็มีไอเดียที่ชัดเจนมากๆ ว่าอยากให้ทีมของเขาเล่นในสไตล์ไหนเหมือนกัน"

    "นั่นคือเคล็ดลับที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ พวกเขารู้ว่าอยากเล่นแบบไหนและมีเอกลักษณ์ของทีมที่ชัดเจน มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของนักเตะหน้าใหม่เท่านั้น ซึ่งทีมชั้นนำทุกทีมควรจะเป็นแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องทำให้ได้ สำหรับผมแล้วสิ่งที่สำคัญคือการมีความคงเส้นคงวาในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นปได้ รวมถึงมีคุณภาพที่ดีด้วย"

    "เราต่างก็เห็นตรงกันว่า เจอร์เก้น กับ เป๊ป เป็น 2 กุนซือที่เก่งที่สุดของโลก ในโลกฟุตบอลน่ะมันเป็นเรื่องง่ายๆ คุณก็แค่ต้องมีคนที่เก่งที่สุดมาทำงานให้ทีม, มีไอเดียการเล่นที่ชัดเจน และยึดมั่นอยู่กับแนวความคิดนั้น รวมถึงทำการตัดสินใจโดยยึดจากเรื่องนั้นเป็นหลักด้วย"

    กุนซือขัดตาทัพชาวเยอรมันเสริมว่าตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะทาบทามใครมาเป็นกุนซือแบบถาวรคนใหม่ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากเขาจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ ให้กับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ "ผมยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย สิ่งที่ผมสนใจในตอนนี้คือเกมในวันอาทิตย์นี้ (กับ แมนฯ ซิตี้) แล้วจากนั้นก็จะคิดเกี่ยวกับนัดต่อๆ ไปที่ต้องเจอกับ ท็อตแน่ม, แอตเลติโก (มาดริด) ผมไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะคิดถึงเรื่องอื่นนอกเหนือจากเกมที่กำลังจะถึงนี้หรอก"