ลือกันให้สนั่นว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด  กำลังครุ่นคิดถึงการย้ายออกจากทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้หลังไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามมากพอจาก ราล์ฟ รังนิก กุนซือชาวเยอรมัน
  
ในเมื่อไม่มีความสุขกับการค้าแข้งใน โรงละครแห่งความฝัน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจึงอาจเลือกเส้นทางเดินใหม่ให้กับตัวเองในซีซั่นหน้า

แน่นอนว่า รังนิก จะคุมทีม ผีแดง จนจบซีซั่นนี้เท่านั้น แต่ดังจะเห็นว่า แอนโธนี่ อีแลงก้า แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวแล้ว จึงไม่แน่ว่า แรชฟอร์ด อาจต้องกินน้ำใต้ศอกกองหน้ารุ่นน้องต่อไปในยุคของผู้จัดการทีมคนใหม่ก็เป็นได้

อีกทั้งอย่าลืมว่าศูนย์หน้าวัย 24 ปีมี เจดอน ซานโช่ เป็นก้างขวางคอต่อการแย่งชิงตำแหน่งโผ 11 คนแรกในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน

ฉะนั้นแล้ว หาก แรชฟอร์ด ตัดสินใจเก็บข้าวของออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็น่าจะมีอยู่ห้าทีมที่อาจเป็นต้นสังกัดใหม่ของเขา

1. อาร์เซน่อล

น่าจะมีโอกาสเป็นสโมสรใหม่ของ แรชฟอร์ด มากที่สุดเนื่องจาก มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมสแปนิชเผยว่ากระหายเซ็นสัญญาคว้าศูนย์หน้ามาเสริมทัพ

และที่สำคัญ นาทีนี้ทีม ปืนใหญ่ กำลังเล่นได้อย่างท็อปฟอร์ม แถมมีแนวโน้มจบอันดับท็อปโฟร์ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล และ เชลซี ต่อการเป็นตัวแทนของประเทศร่วมฟาดเกือกในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า

แน่นอนว่า แรชฟอร์ด ถูกมองว่าสวมบทเป็นปีกมากกว่าหัวหอกในระยะหลัง แต่เชื่อได้เลยว่าเขาพร้อมรับภาระกับทุกบทบาทในแผงหน้าอย่างแน่นอนตามแต่เจ้านายจะเห็นชอบ

2.เชลซี

เชื่อกันว่า เชลซี จะสังคายนาโละบรรดากองหน้าทิ้งแบบยกแผงโดยทั้ง ติโม แวร์เนอร์ , คริสเตียน พูลิซิช และ โรเมลู ลูกากู ส่อแววโดนตะเพิดออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในซัมเมอร์นี้

แม้ สิงห์บลูส์ จะมีขุมกำลังในทีมมากพอต่อการจัดหานักเตะลงเล่นเป็นหัวหอก แต่หาก แรชฟอร์ด ตัดสินใจย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เขาก็เป็นชื่อที่น่าสนใจต่อการดึงตัวมาเสริมทัพในแผงรุก

พร้อมกันนี้ แรชฟอร์ด น่าจะได้ลงเล่นมากขึ้นอย่างที่เจ้าตัวคาดหวังด้วยแม้ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันจะมีนโยบายหมุนนักเตะ แต่คงไม่ถึงกับจับลูกทีมแช่แข็งอย่างถาวรเหมือนที่ รังนิก แสดงให้เห็น

3.สเปอร์ส

แฟนบอล ไก่เดือยทอง คงต้องลุ้นระทึกอีกรอบในซัมเมอร์นี้ว่า แฮร์รี่ เคน จะย้ายทีมหรือไม่หากสโมสรยังไม่อาจมอบโทรฟี่มาประเคนต่อดาวยิงทีมชาติอังกฤษได้

ยิ่งไปกว่านั้น อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยนยังแสดงความไม่พอใจบอร์ดที่เสริมทัพช่วงปีใหม่ไม่เป็นไปอย่างที่เขาต้องการด้วยอันเป็นเหตุให้ผลงานของทีมเมืองกรุงยังวนลูปสามวันดีสี่วันไข้อย่างที่เห็น

เมื่อเป็นอย่างนี้ บางที แดเนี่ยล เลวี่ ประธานทีม สเปอร์ส น่าจะต้องจ่ายตลาดแบบถึงไหนถึงกันในช่วงซัมเมอร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก เคน ประกาศย้ายทีมอีกหน แรชฟอร์ด ก็น่าจะเป็นตัวแทนที่ดีไม่หยอกของกัปตัน ไก่เดือยทอง

ยิ่งถ้าย้ายมาจับคู่กับ ซน ฮึง มิน ซึ่งมีสปีดที่จัดจ้านไม่แพ้กัน มันก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ว่าทั้งสองจะประสานงานกันเป็นสองหัวหอกนรกแตกคู่ใหม่ของวงการลูกหนัง พรีเมียร์ลีก ได้หรือไม่

4.นิวคาสเซิ่ล

เมื่อเอ่ยถึงการช็อปปิ้งนักเตะ สาลิกาดง แสดงให้เห็นเมื่อเดือนม.ค.แล้วว่าพวกเขาพร้อมควักกระเป่าหลังมีเจ้าของใหม่จากตะวันออกกลางสนับสนุนเรื่องเม็ดเงินอย่างเต็มที่

และไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมอีสานของเมืองผู้ดีจะต้องคว้านักเตะบิ๊กเนมมาร่วมค่ายเพิ่มอีกอย่างแน่นอนในช่วงซัมเมอร์เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า เอ็ดดี้ ฮาว จะพาทีมอยู่รอดในลีกสูงสุด

และเท่าที่ผ่านมา เดอะ แม็กพายส์ ร้างราจากความสำเร็จมานานมากแล้ว การมีกลุ่มทุนจาก ซาอุดิ อาระเบีย เข้ามาซื้อสโมสรจึงเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะเดินตามรอย เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ต่อการควานหาถ้วยแชมป์มาประดับตู้โชว์

และที่สำคัญ สังเวียนแข้ง เซนต์ เจมส์พาร์ค มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศการเชียร์ของสาวก ทูน อาร์มี่ ที่ไม่แพ้สโมสรไหนในประเทศ จึงเชื่อได้เลยว่าหากพวกเขาไม่ตกชั้น เหล่าสตาร์ดังก็พร้อมที่จะย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม สาลิกาดง อย่างแน่นอนที่สุด

เท่านั้นไม่พอ แรชฟอร์ด มีโอกาสโกยเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้นอีกหากเขาจรดปากกากับ นิวคาสเซิ่ล ทีมที่มีเจ้าของมั่งคั่งที่สุดในโลก และพร้อมจ่ายค่าแรงให้ดาวเตะอิงลิชสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ได้อย่างสบาย

และทำเป็นเล่นไป ในอนาคตมันก็ไม่แน่ว่า นิวคาสเซิ่ล อาจอาศัยพลังเงินเก็บเกี่ยวความสำเร็จแซงหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนที่ แมนฯ ซิตี้ แสดงให้เห็นก็เป็นได้

5. เวสต์แฮม

อาจเป็นทีมที่แลดูมีภาษีน้อยกว่าทุกสโมสร แต่มันก็พอจะมีเหตุผลที่ทำให้ เดอะ แฮมเมอร์ส ฝันถึงการเซ็นสัญญากับ แรชฟอร์ด ได้อยู่

ประการแรก ถึงขณะนี้ทีมของ เดวิด มอยส์ ยกระดับได้อย่างน่าสนใจ และกลายมาเป็นขาประจำที่ต่อสู้แย่งอันดับท็อปโฟร์ของประเทศอย่างเต็มตัวแล้ว

พร้อมกันนี้ สังเวียนแข้งของ ขุนค้อน ก็รองรับแฟนบอลได้มากถึง 60,000 ชีวิต มันจึงอาจยั่วยวนให้ดาวยิงหนุ่มพร้อมลงน้ำหมึกกับสโมสรแห่งลอนดอนรายนี้ได้เช่นกัน

และที่สำคัญ หาก เวสต์แฮม ต้องการลุ้นความสำเร็จที่สูงไปกว่าอันดับท็อปโฟร์โดยเฉพาะการมองหาโอกาสคว้าถ้วยแชมป์สักใบ การเสริมศักยภาพด้วยการคว้าศูนย์หน้าระดับหัวแถวมาร่วมทีมย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรทำให้สำเร็จเป็นอันดับแรก