เป็นอันว่าการปะทะกันระหว่างรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก กับรองจ่าฝูง เซเรียอา จบลงโดยที่ ลิเวอร์พูล ปราชัยต่อ อินเตอร์ มิลาน คาบ้าน 1-0 แต่หลุดเข้ารอบแปดทีมได้สำเร็จด้วยสกอร์รวม 2-1
         
แม้ทีมจากเมืองพิซซ่าจะบุกมากำชัยที่ แอนฟิลด์ ได้ แต่ปาฏิหารย์ของ งูใหญ่ ก็ไม่อุบัติเนื่องจาก อเล็กซิส ซานเชซ ทำทะเล่อทะล่าจนโดนไล่ออกจากจากโทษสองใบเหลืองทั้งๆที่ทีมตัวเองเพิ่งสอยตาข่ายได้แท้ๆโดยเกมนี้มี 5 ประเด็นบังเกิดดังนี้

1.การวางหมากของอาคันตุกะ

เทียบจากเกมแรก ซิโมเน่ อินซากี้ นายใหญ่ทีม อินเตอร์ มิลาน ปรับโผ 11 ตัวจริงแค่รายเดียวเท่านั้น

จากนัดก่อนที่ ซาน ซีโร่ งูใหญ่ ทำได้ดีพอตัว แม้รูปเกมจะเป็นรอง แต่พวกเขาก็ตั้งรับได้ดีก่อนจะเสียสองประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้ายจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล ในนาทีที่ 75 และ โม ซาลาห์ ในนาทีที่ 83

สำหรับเกมนี้ ทีมจากเมืองพิซซ่าบุกมาเยือนด้วยขุนพลชุดเดิมยกเว้นปรับทัพในแดนหน้าแค่รายเดียวให้ อเล็กซิส ซานเซส ออกสตาร์ตก่อนหน้า เอดิน เชโก้ ที่นัดแรกได้เป็นคู่ขาของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

อันที่จริง อดีตศูนย์หน้าทีม แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดล่าสุดที่เปิดบ้านยำใหญ่ ซาแลร์นิตาน่า 5-0 และกดได้สองเม็ดด้วย หลังจาก มาร์ติเนซ ซัดแฮททริคไปก่อนแล้ว ขณะที่ ซานเชซ นั่งข้างสนามโดยไม่ได้ลงบู๊

มองดูแล้วเชื่อว่า อินซากี้ คงหวังให้อดีตสตาร์ อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้พักอย่างเต็มที่เพื่อหวังอาศัยความคล่องตัวของเขาที่เหนือกว่า เชโก้ เป็นทีเด็ดสำหรับเกมนี้

แต่จากที่เห็น ดาวยิงชิลีไม่ได้ปราดเปรียวเหมือนก่อนอีกแล้ว แถมยังฆ่าทีมตัวเองซะอีกจากการได้สองใบเหลืองในจังหวะยกเท้าสูงยัน ติอาโก้ อัลกันตาร่า ท้ายครึ่งแรก และมายัน ฟาบินโญ่ ตามมาในนาทีที่ 62 แม้จะพยายามยั้งแล้วก็ตาม อินเตอร์ จึงตกรอบด้วยเหตุนี้เนื่องจากทำได้ดีที่สุดแค่บุกมาคว้าชัย 1-0

2.ประตูแรกของ มาร์ติเนซ

ก่อนเหยียบสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ มาร์ติเนซ ลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ลีก 10 นัด และไม่มีประตูเลย

มีการบันทึกเอาไว้ว่าประตูสุดท้ายที่กองหน้าเลือดฟ้าขาวทำได้ในรายการนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ย.2020 จึงบอกได้เลยว่าพ่อค้าแข้งวัย 24 ปียังไม่ใช่หัวหอกระดับเกรดเอ และยังไม่ดีพอที่จะประกาศศักดาในฟุตบอลระดับสูงสุดของทวีป

กระทั่งเจ้าตัวมาทะลวงประตู ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ แต่ก็ให้น่าเสียดายอย่างแรงเพราะพริบตาถัดมา ซานเชซ คู่ขากลับโดนไล่ออกจนทำให้ฝันของ งูใหญ่ มลายลงในบัดดลเนื่องจากการเหลือขุนพล 10 ชีวิตเป็นงานยากมหาศาลยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรที่จะคลำเป้าเจ้าถิ่นเพิ่มได้อีกเม็ด

3.หงส์แดง เสียสถิติจนได้

กล่าวกันว่าสถิติรอวันถูกทำลาย และในที่สุดมันก็เกิดขึ้นแล้ว

หลังปราชัย อินเตอร์ คารัง ลิเวอร์พูล ก็เสียสถิติชนะ 100% ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพ่าย อินเตอร์ ในรายการนี้เป็นเกมแรกเช่นกันจากที่พบกันมาก่อนหน้านี้สามครั้ง (ชนะ 2-0 และ 1-0 ในซีซั่น 2007-08 และ 2-0 ในรอบ 16 ทีมนัดแรก) แถมเสียประตูแรกให้ งูใหญ่ อีกด้วย

ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ปราชัยเป็นเกมแรกของทุกรายการหลังจากก่อนหน้านี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมชนะมาตลอด 12 นัดโดยนับรวมการดวลลูกโทษชนะ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ด้วย

อีกทั้งมันเป็นการแพ้ในบ้านนัดแรกของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ถูก ฟูแล่ม บุกมาพิชิต 1-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก วันที่ 7 มี.ค.2021 ซึ่งพวกเขาไร้พ่ายในบ้านทุกรายการมานาน 28 นัด

ด้าน โม ซาลาห์ ก็มาเท้าบอดในเกมนี้ และหมดสิทธิ์สร้างชื่อสอยตาข่ายสองทีมจากเมืองมิลานครบทั้งสี่นัดหลังคลำเป้า เอซี มิลาน ในรอบแบ่งกลุ่มได้ทั้งสองนัด และบุกไปยิง อินเตอร์ ได้ในเกมแรกของรอบ 16 ทีมเช่นกัน

ถึงกระนั้น แม้จะพ่ายคาบ้าน แต่ ลิเวอร์พูล ยังรักษาสถิติอีกชิ้นเอาไว้ได้นั่นคือพวกเขาไม่เคยตกรอบถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก หากเกมแรกบุกไปคว้าชัยนอกบ้านได้ก่อน

4.จับสลากรอบแปดทีมสุดท้ายเมื่อไหร่?

ศุกร์ที่ 18 มี.ค.นี้คือวันที่สาวก เดอะ ค็อป จะได้ลุ้นผลการจับสลากประกบคู่ว่า ลิเวอร์พูล จะปะทะกับใครในการฟาดแข้งถ้วยหูใหญ่รอบแปดทีม อันรวมไปถึงเส้นทางในรอบตัดเชือกด้วย

สำหรับกำหนดการแข่งขันรอบแปดทีมถูกกำหนดเอาไว้แล้วในวันอังคาร และพุธที่ 5 และ 6 เม.ย.ขณะที่นัดสองจะเล่นกันระหว่างวันอังคารและพุธที่ 12 และ 13 เม.ย.

5.เสียวแน่ถ้าต้องฟัดกับ แมนฯ ซิตี้ เพิ่มอีก

สำหรับเกมในรอบแปดทีมสุดท้ายของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก มีทางเป็นไปได้ไม่น้อยเหมือนกันที่ ลิเวอร์พูล อาจได้ต่อกรกับทีมร่วม พรีเมียร์ลีก เนื่องจากรอบนี้ไม่มีกฏห้ามสโมสรร่วมลีกเดียวกันห้ำหั่นกันเองอีกแล้ว

เท่ากับว่าบางทีแฟนบอลซาดิสต์อาจได้เฮหาก ลิเวอร์พูล จะต้องเปิดศึกกับ แมนฯ ซิตี้ เพิ่มเติมจากที่ทั้งคู่ยังมีเกมในลีกอังกฤษปะทะกันอีกนัดซึ่งมีโอกาสทำให้ฝันสีทองการคว้าสี่แชมป์ของถิ่น แอนฟิลด์ จบเห่ได้เช่นกัน

หรือไม่เช่นนั้น ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจได้จะเอ๋กับ เชลซี ก็ได้หากแชมป์เก่าถ้วยใบนี้ที่แพ้ให้กับ เร้ด แมชีน ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ จะไม่โดน ลีลล์ ทำแสบเข้าให้

 แต่ที่แน่ๆ เชื่อได้เลยว่าแฟนบอล เดอะ ค็อป กระหายได้ดูศึก แดงเดือด มากที่สุดถ้าจะต้องจับติ้วเจอกับทีมในเมืองผู้ดีกันเอง แม้จะยังไม่แน่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะพิชิต แอตเลติโก มาดริด ได้สำเร็จหรือเปล่า

อย่างไรเสีย ถ้าให้ดี ลิเวอร์พูล คงไม่อยากด่วนจับสลากเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค เป็นแน่แท้เนื่องจาก เสือใต้ เพิ่งขย้ำ เร้ด บูลล์ ซัลซบวร์ก เละเทะ 7-1 และถูกยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์อีกราย