แม้ เชลซี จะเจอเรื่องนอกสนามตามเล่นงานอย่างหนัก แต่ยังเปิดรังไล่บด นิวคาสเซิ่ล ไปได้แบบหืดจับ 1-0 จากประตูชัยของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในนาทีที่ 89 ทำให้ทัพ "สิงห์บลูส์" คว้าชัย 5 นัดรวด พร้อมทำแต้มทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 4 เป็น 9 คะแนนแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด พร้อมทำให้ทัพ "สาลิกา" หยุดสถิติไร้พ่ายเอาไว้ที่ 9 เกมติดต่อกัน

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 3 พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 14 ของตาราง

    เชลซี ชนะมา 3 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังบุกไปเชือด นอริช 3-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ยังจัดทัพเต็มสูบแนวรุกยังใช้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมี เมสัน เมาท์น และ ติโม แวร์เนอร์ คอยทำเกมสนับสนุน

    ด้าน นิวคาสเซิ่ล ชนะมา 3 เกมติดต่อกันในลีกหลังบุกไปเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด เกมนี้ เอ็ดดี้ ฮาว ได้ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง กลับมามีชื่อเป็นสำรอง โดยให้โอกาสกับ บรูโน่ กิมาไรส์ ออกสตาร์ตตัวจริงสองนัดติด โดยวางหน้าเป้าเป็น คริส วู้ด

    ครึ่งแรกเล่นมาได้เพียง 2 นาที เชลซี ได้ทักทายก่อนเมื่อ อันเดรียว คริสเตนเซ่น ลองตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไป

    นิวคาสเซิ่ล ได้โต้กลับมาบ้าง นาที 19 ยาค็อบ เมอร์ฟี่ รับบอลจากลูกทุ่มทางฝั่งซ้ายแล้วเกี่ยวบอลเข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจซัดเต็มข้อด้วยซ้าย แต่บอลยังหลุดกรอบออกไปไกล

    หลังจากนั้น เชลซี ได้ขึงบุกใส่ต่อเนื่อง และมาได้ลุ้นในนาที 27 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย ฮาคิม ซิเยค เปิดมาให้ เมสัน เมาท์น เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวานอกกรอบบอลยังเหินข้ามคาน

    นาที 31 เชลซี ได้ลุ้นอีกหน เมสัน เมาท์น ลักไก่ซัดฟรีคิกมุมแคบบอลไปเข้าข้างตาข่าย

    จากนั้น นาทีที่ 34 นิวคาสเซิ่ล หวิดขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ แดน เบิร์น ขึ้นโหม่งบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

    ท้ายครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆจากจังหวะที่ รือดิเกอร์ เคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ อัลมิร่อน ตะบันด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ เอดูอาร์ เมนดี้ ต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกไป

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรก เชลซี เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0

    ครึ่งหลัง นาที 46 นิวคาสเซิ่ล ได้ทักทายก่อน บรูโน่ กิมาไรส์ ตะบันด้วยขวาในเขตโทษบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูออกหลังไป 
   
    หลังจากนั้น เชลซี แก้เกมด้วยการส่ง โรเมลู ลูกากู และ มัตเตโอ โควาซิช ลงมาเล่นแทน เมสัน เมาน์ท และ ติโม แวร์เนอร์ ตามลำดับ

    นาที 77 เชลซี ได้โอกาสทองที่จะขึ้นนำจากจังหวะที่ ซิเย็ค เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโหม่งจ่อๆบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว

     นิวคาสเซิ่ล นานๆจะได้โต้กลับมาบ้าง และมาได้ลุ้นประตูในนาทีที่ 86 จากจังหวะที่ ฟาเบียน ชาร์ ขึ้นโหม่งบอลไปเข้าซอง เมนดี้ รับไม่ยาก

    จนกระทั่งนาทีที่ 89 จอร์จินโญ่ ตักบอลจากกลางสนามทะลุแนวรับ นิวคาสเซิ่ล ให้กับ ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวไปซัดโล่งๆเข้าประตูไปให้ เชลซี ขึ้นนำ 1-0

    ช่วงทดเวลานาทีที่ 3 ฮาแวร์ตซ์ เกือบทำประตูที่สองได้ในเกมนี้ หลังหลุดเข้าเขตโทษมากดมุมแคบด้วยขวาไปติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟก้า ก่อนจะกระดอนไปชนคานเต็มๆ

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 ทำให้ทัพ "สิงห์บลูส์" คว้าชัย 5 นัดรวด พร้อมทำแต้มทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 4 เป็น 9 คะแนนและแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ทัพ "สาลิกาดง" หยุดสถิติไร้พ่ายเอาไว้ที่ 9 เกมติดต่อกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เทรโวห์ ชาโลบาห์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาล็อง ซาร์ - ฮาคิม ซิเย็ค, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาล็อง ซาร์ - ติโม แวร์เนอร์ (มัตเตโอ โควาซิช น.63), เมสัน เมาน์ท (โรเมลู ลูกากู น.64) - ไค ฮาแวร์ตซ์

นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ฆาบี มานกีโญ่, ฟาเบียน ชาร์, จามาล ลาสเซลล์, แดน เบิร์น, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ - ยาค็อบ เมอร์ฟี่,ฌอน ลอง สต๊าฟฟ์, บรูโน่ กิมาไรส์, มิเกล อัลมิร่อน - คริส วู้ด