ถึงขณะนี้แล้ว โม ซาลาห์ ยังไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล ซะที

กล่าวกันว่าอนาคตของสตาร์ทีมชาติ อียิปต์ กับถิ่น แอนฟิลด์ ขึ้นอยู่กับค่าแรงที่เขาเรียกร้อง แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากต้นสังกัดซึ่งมองว่าเป็นเม็ดเงินที่สูงเกินไป

อย่างไรก็ดี พ่อค้าแข้งวัย 29 ปีสถาปนาตัวเองเป็นยอดดาวซัลโวได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งโดยในซีซั่นนี้เขาสอยตาข่ายได้ 20 ประตูจาก 26 นัด บวกกับอีก 10 แอสซิสต์

มันจึงขึ้นอยู่กับ หงส์แดง ว่าพร้อมจ่ายแพงเพื่อเก็บเขาเอาไว้กับสโมสรหรือเปล่าเนื่องจาก ซาลาห์ จะหมดสัญญาในเดือนมิ.ย.2023 โดย รามี่ อับบาส เอเยนต์ของเขาชี้แจงออกมาเมื่อไม่นานว่ายังตกลงกับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้

สำหรับค่าแรงในสัญญาฉบับปัจจุบันของ ซาลาห์ คาดว่าเขารับทรัพย์กับสโมสรสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ซึ่งจากข้อมูลของ Spotrac ตีแผ่ออกมาว่ามีดาวเตะใน พรีเมียร์ลีก  14 รายที่ได้ค่าเหนื่อยสูงกว่ายอดดาวยิงของถิ่น แอนฟิลด์

14.เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 11.4 ล้านปอนด์

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาห้าปีย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์เมื่อเดือนม.ค.2018

ถึงกระนั้น ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ ต่อสัญญาใหม่กับ เครื่องจักรสีแดง ไปแล้วจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2025 พร้อมรับค่าแรงก้อนโต

เชื่อกันว่า ฟาน ไดค์ ซึ่งประกาศศักดาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดในโลกไปแล้วรับค่าจ้างเพิ่มกับ ลิเวอร์พูล อยู่ที่หลัก 11.4 ล้านปอนด์ต่อปี

13.จอห์น สโตนส์ 13 ล้านปอนด์

น่าแปลกใจไม่น้อยที่ สโตนส์ ได้ค่าแรงสูงกว่าเพื่อนร่วมตำแหน่งในทีม แมนฯ ซิตี้ ทั้งๆที่ย้ายมาด้วยค่าตัวที่ย่อมเยากว่า

กล่าวกันว่าขุนพลทีมชาติ อังกฤษ มีเงินให้ใช้จ่ายอย่างสบายอุราสัปดาห์ละ 230,000 ปอนด์ ซึ่งมากกว่า รูเบน ดิอาส ที่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวมหาศาล 61 ล้านปอนด์ ตลอดจน เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ด้วยเช่นกัน

เป็นเหมือนกับ ฟาน ไดค์ ที่ต่อสัญญาใหม่กับ เรือใบสีฟ้า ออกไปอีกห้าปีเมื่อช่วงซัมเมอรืปี 2021 หลังมีส่วนร่วมในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชุดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2020/21

12. เอดินสัน คาวานี่ 13 ล้านปอนด์

กองหน้าทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อาจไม่ได้ลงสนามมากนักนับตั้งแต่ขยายสัญญากับสโมสรออกไปอีกหนึ่งปี

ถึงกระนั้น ดาวเตะอุรุกวัยก็สามารถสบายใจได้เนื่องจากมีเงินให้ใช้ในแต่ละสัปดาห์จากรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ชนิดที่น่าอิจฉา

พ่อค้าแข้งวัย 34 ปีย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไม่มีค่าตัวเมื่อเดือนส.ค.2020 และคลำเป้าได้ 16 ลูกในซีซั่นแรกของเขากับทีม ผีแดง ก่อนจะได้รับโอกาสลงสนามน้อยลงนับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คัมแบ็คสู่ถิ่นเก่า

11.ติโม แวร์เนอร์ 14.1 ล้านปอนด์

เชลซี มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าพวกเขาได้อาวุธชั้นดีมาเสริมทัพเมื่อคว้า แวร์เนอร์ มาจากทีม แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อเดือนก.พ.2020 ด้วยค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์

และแม้ศูนย์หน้าทีมชาติ เยอรมัน จะแผลงฤทธิ์ไม่ออกในลีกเมืองผู้ดีโดยมีผลงานยิงได้แค่ 7 ประตูจากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 48 นัด เขาก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอย่างงาม

สตาร์วัย 27 ปีรับค่าแรงสูงที่สุดเป็นอันดับสามในทีม สิงห์บลูส์ จากเม็ดเงิน 260,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งเทียบได้ว่าทีมเมืองหลวงควักกระเป๋าให้เขา 4 ล้านปอนด์ในแต่ละประตูที่เขายิงได้ในลีกอิงลิช

10. ปอล ป็อกบา 15 ล้านปอนด์

กองกลางทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือสัญญากับสโมสรอีกแค่สามเดือนเท่านั้นหลังไม่ขอต่อสัญญาใหม่ซึ่งเชื่อว่าสตาร์วัย 29 ปีรับทรัพย์อยู่ที่หลัก 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ดาวเตะเฟรนช์แมนลงน้ำหมึกกับ ผีแดง ห้าปีโดยมีอ็อปชั่นต่อสัญญาได้อีกปีหลังย้ายกลับมาจาก ยูเวนตุส ในปี 2016 ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสร 89 ล้านปอนด์

กระทั่งล่าสุด มีการยืนยันจากเทรนเนอร์ฟิตเนสส่วนตัวว่า ป็อกบา พร้อมอำลา โรงละครแห่งความฝัน แน่นอนแม้ตัวนักเตะจะยังไม่ยอมปริปากถึงอนาคตซึ่งเชื่อว่าทีม ม้าลาย และ เปแอสเช จ้องดึงเขาไปร่วมสังกัด

9. เอ็นโกโล่ ก็องเต้ 15 ล้านปอนด์

ก็องเต้ เซ็นสัญญาเมื่อปี 2016 หลังย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมหัวจมท้ายกับ เชลซี ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ดี มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสต่อสัญญาใหม่ไปแล้วหลังได้รับความสนใจจาก เปแอสเช เมื่อปี 2018

แม้จะไม่ใช่นักเตะที่ได้ค่าแรงสูงสุดใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่สตาร์ผิวสีวัย 30 ปีก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเนื่องจากเขามีอุปนิสัยสมถะ และใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย

8. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 15.6 ล้านปอนด์

เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติ อังกฤษ ที่ร่ายลีลาได้อย่างท็อปฟอร์มในศึก ยูโร 2020 และในซีซั่นนี้มีผลงานสอยตาข่ายให้ แมนฯ ซิตี้ ได้ 13 เม็ดในทุกรายการ

ในวัย 27 ปี สเตอร์ลิ่ง กำลังอยู่ในอายุที่พีคสุดขีดของพ่อค้าแข้ง  และมีการลือกันว่าเขาอาจอำลาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เพื่อติดเป็น 11 ตัวแรกที่ถาวรของสโมสรโดยมี บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด จ้องตาเป็นมัน

ถึงกระนั้น เรือใบสีฟ้า กำลังพยายามเจรจาต่อสัญญากับ สเตอร์ลิ่ง และมันอาจทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในทีมโดยปัจจุบันเจ้าตัวมีสัญญาผูกมัดกับสโมสรจนถึงปี 2023

7. แจ็ค กรีลิช 15.6 ล้านปอนด์

ในฐานะนักเตะที่มีค่าตัวเป็นสถิติของอังกฤษ 100 ล้านปอนด์ อดีตกัปตันทีม แอสตัน วิลล่า จึงย้ายมาร่วมทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก โดยได้ค่าแรงสูงกว่าต้นสังกัดเดิมถึงสามเท่าตัวเช่นกัน

ว่ากันว่า กรีลิช รับทรัพย์มากที่สุดเป็นอันดับสองใน พรีเมียร์ลีก สำหรับนักเตะในตำแหน่งกองกลางด้วยกันจากเม็ดเงิน 78 ล้านปอนด์ภายใต้สัญญาห้าปีกับทีมเงินถังของลีกอิงลิช

อย่างไรก็ดี ดาวเตะวัย 26 ปีไม่อาจฉายฟอร์มกับ แมนฯ ซิตี้ ได้โดยสอยตาข่ายไปได้แค่ 4 เม็ดจากการลงสนาม 27 นัดกระทั่งมีข่าวลือว่าอาจได้ย้ายกลับสู่ถิ่น วิลล่า พาร์ค

หากแต่ความจริงคือเขามีสัญญากับจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก จนถึงปี 2026 จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ กรีลิช จะย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรอื่น

6. โรเมลู ลูกากู 16.9 ล้านปอนด์

เชลซี ไม่ได้แค่เทกระเป๋าเป็นสถิติสโมสรฉุด ลูกากู คืนสู่เหย้าเท่านั้น แต่ยังจ่ายค่าแรงอย่างแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเช่นกัน

ดาวยิงเจ้าของค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์รับค่าเหนื่อยก้อนโตจาก อินเตอร์ มิลาน อยู่ก่อนแล้ว แต่ เฟเดริโก้ ปาสซาเรลโล่ เอเยนต์ของเขาสามารถเจรจาให้สตาร์ผิวสีรับทรัพย์จาก สิงห์บลูส์ เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 315,000 ปอนด์

ถึงอย่างนั้น กองหน้าทีมชาติ เบลเยี่ยม กลับเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และยิงได้แค่ 10 ประตูในทุกรายการกระทั่งระยะหลังเสียตำแหน่งในทีมตัวจริงให้กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ อย่างถาวรแล้วจากการตัดสินใจของ โธมัส ทูเคิ่ล เจ้านายชาวด๊อยทช์

5.ราฟาแอล วาราน 17.7 ล้านปอนด์

ได้แชมป์โลกกับ ฝรั่งเศส และได้โทรฟี่ แชมเปี้ยนส์ลีก สี่สมัยกับ เรอัล มาดริด จึงไม่แปลกที่ วาราน จะถูก แมนฯ ยูไนเต็ด  ดึงมาเสริมแผงหลัง

และเป็นที่ระบุว่ากองหลังวัย 28 ปีได้ค่าจ้างกับ โรงละคร ตกปีละ 17.7 ล้านปอนด์มากกว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คู่ขาลิบลับ

อย่างไรก็ดี ในซีซั่นแรกของเขากับลีกเมืองผู้ดี ดาวเตะเลือดน้ำหอมมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง และได้ลงบู๊แค่ 17 นัดใน พรีเมียร์ลีก เท่านั้น

4. เจดอน ซานโช่ 18.2 ล้านปอนด์

ในบรรดาพ่อค้าแข้งอิงลิช ซานโช่  สามารถคุยโวได้เลยว่าเขาเป็นคนที่มั่งคั่งที่สุดจากค่าจ้างที่ได้รับกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ด้วยวัย 21 ปี ผีแดง ยอมทุ่มจ่ายค่าตัว 73 ล้านปอนด์พรากเขามาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเจ้าตัวสร้างชื่อในลีกเมืองเบียร์อยู่นานสี่ปี

และแม้จะร่ายเพลงแข้งไม่ออกในช่วงแรก แต่ถึงขณะนี้ ซานโช่ เป็นตัวเลือกแรกของ ราล์ฟ รังนิก นายใหญ่ชาวเยอรมันไปแล้ว และเขาเริ่มคลำเป้าได้แล้วเช่นกันจากการตะบันไปแล้วห้าประตู

3.ดาบิด เด เคอา 19.5 ล้านปอนด์

มือกาวทีมชาติสเปนเป็นนักเตะที่รับใช้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างยาวนานที่สุดเช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ และสร้างชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญของ ผีแดง เกมแล้วเกมเล่า

ในวัย 30 ปี ผู้รักษาประตูจอมหนึบคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรสามปีซ้อนก่อนจะเสียตำแหน่งให้กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส

และด้วยฝีไม้ลายมือในการป้องกันตาข่าย เร้ด เดวิลส์ จึงพร้อมประเคนค่าเหนื่อยให้เขาสัปดาห์ละ 390,000 ปอนด์เป็นการรั้งตัวไม่ให้ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด

2.เควิน เดอ บรอยน์ 20.8 ล้านปอนด์

น่าจะบอกได้ว่ายุติธรรมดีที่เพลย์เมคเกอร์ชั้นยอดของ พรีเมียร์ลีก จะได้ค่าแรงจากต้นสังกัดอย่างงาม

แม้จะใช้เวลาต่อรองกันนานหลายเดือน แต่ในที่สุด แมนฯ ซิตี้ ก็ยอมจ่ายเงินตามที่สตาร์ทีมชาติ เบลเยี่ยม ร้องขอหลังจากเขาย้ายมาร่วมทีมในปี 2015 ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์

ลงน้ำหมึกครั้งใหม่ไปแล้วเมื่อปี 2021 ซึ่งส่งผลให้เขาอยู่รับใช้ เรือใบสีฟ้า ต่ออีกห้าปีโดยซีซั่นนี้ เดอ บรอยน์ ตอบแทนสโมสรไปแล้วด้วยการสอยตาข่ายได้ 9 ลูกรวมทั้ง 5 แอสซิสต์

1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 26.5 ล้านปอนด์

จะมีใครรั้งตำแหน่งนี้ได้ถ้าไม่ใช่ยอดดาวยิงโปรตุกีสของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

รายงานข่าวเผยว่าสตาร์วัย 37 ปีโกยเงินเข้ากระเป๋าสัปดาห์ละ 800,000 ปอนด์หลังเซ็นสัญญาย้ายจาก ยูเวนตุส กลับบ้านเก่าเมื่อเดือนส.ค.

อย่างไรก็ดี ข้อมูลอีกแหล่งเชื่อว่า ซีอาร์เซเว่น ซึ่งจรดปากกากับ เร้ด เดวิลส์ จนถึงปี 2023 ได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 475,000 ปอนด์มากกว่า

จะอย่างไรก็ช่าง ซีซั่นนี้ โรนัลโด้ ตอบแทนสโมสรไปแล้ว 18 ประตู แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่าซีซั่นหน้าเขาจะยังสวมยูนิฟอร์ม ปีศาจแดง เช่นเดิมหรือเปล่า