บอลแพ้ทาง! ลิเวอร์พูล จัดหนักครึ่งหลังบุกมาอัด อาร์เซน่อล 2-0 โชต้า และฟีร์มีโน่ ซัดคนละตุง "หงส์แดง" บุกซิวสามแต้มล้ำค่ามีเพิ่มเป็น 69 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง แมนซิตี้ แต้มเดียวเท่านั้นหลังแข่ง 29 นัดเท่ากัน ส่วน "ปืนใหญ่" ถูกหยุดสถิติชนะ 5 นัดติด ยังรั้งที่ 4 มี 51 แต้ม

    ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้าง เมื่อคืนวันพุธที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง อาร์เซน่อล อันดับ 4 เปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง

    โดยฤดูกาลนี้เจอกันเป็นหนที่ 4 แล้วหลังเกมในลีกที่แอนฟิลด์ "หงส์แดง" ไล่ถล่มมา 4-0 ขณะที่ในรายการ คาราบาว คัพ นัดแรกเสมอที่บ้านลิเวอร์พูล 0-0 ก่อนที่ "ปืนใหญ่" จะกลับมาพ่ายคารังให้หงส์แดง 0-2 ส่่งลิเวอร์พูลเข้าไปชิงชนะเลิศก่อนจะดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี คว้าแชมป์รายการนี้ไปได้

    มิเกล อาร์เตต้า พาอาร์เซน่อลชนะรวดในลีกมา 5 นัดติด เกมนี้ยังใช้ชุดเก่งชุดเดิม บูคาโย่ ซาก้า ปั้นเกมรุกร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โดยให้ อเลซ็องด์ร ลากาแซ็ตต์ กัปตันทีมยืนหน้าเป้า ส่วน "หงส์แดง" ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นแค่สำรองข้างสนาม โดยสามแนวรุกใช้ หลุยส์ ดิอ๊าซ, ดิโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ 

    เปิดฉากมาแค่ 2 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดลูกเตะมุมทางด้านขวามากลางประตูให้ ฟาน ไดจ์ค โขกไม่ถึง 12 หลาบอลพุ่งเกือบเบียดเสาแต่ยังดีที่ แรมส์เดล พุ่งปัดออกไปหวุดหวิด

    นาที 9 ปืนใหญ่ ได้ลุยขึ้นมาบ้าง คราวนี้ บูคาโย่ ซาก้า ตักมาเสาไกลให้ มาร์ติเนลลี่ วิ่งมาวอลเลย์แบบกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่บอลยังไปติด โฌแอล มาติป

    เกมค่อนข้างสูสี ทั้งสองทีมต่างเล่นด้วยความรัดกุม นาที 23 ซาก้า ได้บอลขึ้นทางขวาก่อนจ่ายคืนหลังให้ เซดริก โซอาเรส ยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

    ทั้งสองทีมคอนโทรลบอลกันลำบากหลังมีฝนเทลงมาอย่างหนัก นาที 33 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ลากาแซตต์ ไหลให้ กรานิต ชาคา ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลพุ่งหลุดหลังออกไปอีก

    นาที 45 เทรนท์ ตักบอลยาวผ่านคู่เซ็นเตอร์เจ้าถิ่นให้ มาเน่ สอดขึ้นมาแต่จับบอลยาวไปก่อนซัดเร็วเหินคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ อาร์เซน่อล เสอมกับ ลิเวอร์พูล 0-0

    ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่นาทีที่ 46 เฮนเดอร์สัน แทงบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปก่อนส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็น มาเน่ ล้ำหน้าไปก่อนชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

    อีกสามนาทีถัดมา มาร์ติเนลลี่ เผาแนวรับหงส์ด้วยการโยกหลอก เทรนท์ แล้วแตะลอดขา เฮนเดอร์สัน เข้าไปในเขตโทษแล้วปาดเลียดมาในกรอบ 6 หลาเพื่อนเติมมาไม่ทันโดนเคลียร์ไปหวุดหวิด

    นาที 51 อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูขึ้นนำหลัง ติอาโก้ ส่งคืนหลังพลาดโดน ลากาแซตต์ ฉกบอลก่อนแตะหลบ อลีสซง แล้วคืนหลังให้ โอเดการ์ด ซัดด้วยซ้ายแต่ยังไม่ผ่านนายด่านหงส์แดงที่พุ่งมาปัดออกไปอย่างเหลือเชื่อ

    ทว่านาที 54 กลายเป็น "หงส์แดง" ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 คราวนี้ ติอาโก้ แทงบอลสุดสวยให้ โชต้า หลุดเข้าไปซัดแรงเบียดเสาแรงเข้าไป ชนิดที่ แรมส์เดล ปัดไม่ออก เป็นเม็ดที่ 13 ในลีกซีซั่นนี้ของดาวยิงชาวโปรตุกีส และประตูที่ 5 ในฤดูกาลนี้ที่ยิงใส่ อาร์เซน่อล

    นาที 56 คล็อปป์ เปลี่ยนรวดเดียวสองคนส่ง ซาลาห์ ลงมาเล่นแทน ดิอ๊าซ และฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นแทน โชต้า

    แนวรับของไอ้ปืนใหญ่ สมาธิแตก นาที 62 มาเสียเม็ดที่สองให้ ลิเวอร์พูล จากจังหวะที่แนวรับอาร์เซน่อลเคลียร์บอลไม่ดีไปติดบล็อค แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนแบ็กชาวสกอตต์จะลากเข้าไปแล้วปาดมาเสาแรกให้ ฟีร์มีโน่ เข้าฮอสเปลี่ยนทางบอลเสียบตาข่ายเข้าไปไม่พลาด "หงส์แดง" บุกมานำห่าง 2-0

    ไอ้ปืนใหญ่ หลังเสียไปสองเม็ด โหมบุกหนัก อาร์เตต้า ส่งทั้ง เอมิล สมิธ, นิโกลาส์ เปเป้ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงมาเสริมเกมรุก

    นาที 87 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นตีไข่แตก หลัง กรานิต ชาคา แทงบอลออกซ้ายให้ มาร์ติเนลลี่ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลพุ่งเฉียดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

    จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาปราบ อาร์เซน่อล 2-0 ซิวสามแต้มล้ำค่ามีเพิ่มเป็น 69 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง แมนซิตี้ แต้มเดียวเท่านั้นหลังแข่ง 29 นัดเท่ากัน ส่วน "ปืนใหญ่" ถูกหยุดสถิติชนะ 5 นัดติด ยังรั้งที่ 4 มี 51 แต้ม
   
    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แอรอน แรมส์เดล - เซดริก โซอาเรส, เบน ไวท์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ - กรานิต ชาคา, โธมัส ปาร์เตย์ - บูคาโย่ ซาก้า (นิโกล่าส์ เปเป้ น.74), มาร์ติน โอเดการ์ด (เอมิล สมิธ โรว์ น.67), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - อเลซ็องด์ร ลากาแซ็ตต์ (เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ น.81)

    ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า 

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกานตาร่า (เคอร์ติส โจนส์ น.90) - หลุยส์ ดิอ๊าซ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.56), ดิโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.56), ซาดิโอ มาเน่ 

    ผู้จัดการทีม : เยอร์เก้น คล็อปป์ 

    ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์