ฤดูกาลนี้ถือเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะพวกเขาไม่มีความสำเร็จกลับมาประดับในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน แถมการลุ้นท็อปโฟร์ก็ยังไม่มีความแน่นอน
     หากทัพ "ปีศาจแดง" ต้องพบกับเรื่องเลวร้ายสุดขีดพลาดตั๋วใบสุดท้ายไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่อย่างน้อยๆ สาวก "เร้ด อาร์มี่" ยังพอจะมีข่าวดีเอาไว้ชโลมใจ เนื่องจากมีรายงานชัดเจนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงต้องการฝากอนาคตเอาไว้ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฤดูกาลหน้า

     การที่พวกเขามี "ซีอาร์ เซเว่น" อยู่ในทีมแสดงให้เห็นว่านักเตะมีความเชื่อมั่นในอนาคตของสโมสร โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งผู้จัดการทีมถาวรไม่ว่าจะเป็น เอริก เทน ฮาก หรือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ รวมไปถึง โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใคร "ปีศาจแดง" ก็พร้อมที่จะทุ่มงบประมาณในการสร้างทีมเพื่อไล่ล่าความสำเร็จกลับคืน "โรงละครแห่งความฝัน" อีกครั้ง

     เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งความสำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพเพื่อให้ทีมแข็งแกร่งทั้งในแนวรับ, กองกลาง และกองหน้า ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล

      ในตำแหน่งผู้รักษาประตูแน่นอนว่าไม่มีใครจะมาแทนที่ ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสแปนิช ส่วนมือสองถ้า ดีน เฮนเดอร์สัน ไม่น้อยใจขอย้ายทีมก็ยังคงทำหน้าที่เป็นยางอะไหล่ต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญก็คือแนวรับในชุดปัจจุบันที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจเลยจริงๆ

     ตอนนี้ เชลซี กำลังมีปัญหาอย่างหนักในเรื่องเจรจาขยายสัญญา อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังชาวเยอรมัน นั่นทำให้เป็นโอกาสทองของ แมนฯ ยูฯ จะเกลี้ยกล่อมให้นักเตะย้ายมาคุมเกมรับให้กับทีมแบบฟรีเอเยนต์

     หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ รือดิเกอร์ มาเสริมแกร่ง แน่นอนว่าเขาจะได้ยืนทำหน้าที่ร่วมกับ ราฟาแอล วาราน ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คงต้องคิดหนักว่าจะยอมสู้เพื่อแย่งตำแหน่งของตัวเองต่อไป หรือจะไปหาโอกาสของตัวเองกับสโมสรอื่น

     สำหรับตำแหน่งฟูลแบ็กเชื่อว่ากุนซือคนใหม่ของสโมสรน่าจะยังคงให้โอกาสกับ ลุค ชอว์ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ในขณะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ถ้าหากไม่สามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นโดยเฉพาะเรื่องเกมรุกให้ดีขึ้นกว่านี้ เขาคงได้นั่งอยู่ในซุ้มม้านั่นสำรองยาวๆ

      ในส่วนของตำแหน่งกองกลางงานนี้บอกได้เลยว่าอาจจะมีมิดฟิลด์หน้าใหม่ที่จะมาช่วยยกระดับทีมได้แก่ ไรอัน กราเวนเบิร์ช แข้งดาวรุ่งพุ่งแรงจากสโมรอารแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งพวกเขาหมายตาอยากได้ตัวมานานแล้ว

     ส่วนคู่กลางรับที่เหมาะกับ กราเวนเบิร์ช ก็คือ เดแคลน ไรซ์ ห้องเครื่อง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งงานนี้คงต้องแย่งกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่สนใจในตัวนักเตะเช่นกัน  โดยหาก แมนฯ ยูฯ ดึงตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ ต้องบอกว่าจะทำให้แดนกลางของทีมแข็งแกร่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ

       เรื่องอนาคต ปอล ป็อกบา มีความเป็นไปได้สูงที่จะย้ายทีมแบบฟรีเอเยนต์ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่สำหรับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงพร้อมทุ่มเทให้กับ แมนฯ ยูฯ ต่อไป โดยเขาจะได้รับบทบาทสำคัญนั่นก็คือการเล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งจะทำให้เขามีโอกาสได้สร้างสรรค์เกมให้กับแนวรุกได้อย่างเต็มที่

 ขณะที่สามประสานในแนวรุกงานนี้บอกเลยว่าไม่มีพื้นที่ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด อีกแล้ว และเชื่อว่านักเตะคงจะตัดสินใจอำลาทีมเช่นเดียวกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล กับ เจสซี่ ลินการ์ด เพื่อไปหาอนาคตใหม่ในอาชีพค้าแข้ง ดังนั้นทางฝั่งซ้ายจะเป็นหน้าที่ของ เจดอน ซานโช่ แบบถาวร ส่วน แอนโธนี่ อีแลงก้า จะเป็นยางอะไหล่ชั้นดีที่คอยลงมาเปลี่ยนเกม

         ส่วนแนวรุกฝั่งขวางานนี้บอกเลยแฟนผีโปรเจกต์ต้องถูกใจเพราะสโมสรคาดหวังจะกระชากตัว แอนโธนี่ ปีกดีกรีทีมชาติบราซิลจาก อาแจ็กซ์ เข้ามาเสริมแกร่ง ซึ่งจะสร้างความวูบวาบน่ากลัวให้กับ "ผีแดง" อย่างมาก

     ด้านหน้าเป้าอย่างที่คาดการณ์กันเอาไว้ โรนัลโด้ ยังคงเป็นพี่ใหญ่ในเกมรุกของทีมต่อไป ส่วน "เอล มาทาดอร์" เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกชาวอุรุกวัย มีความเป็นไปได้สูงที่จะย้ายไปเล่นในศึกลา ลีกา สเปน

 คาดการณ์ 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลหน้า
    ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา

    กองหลัง : ลุค ชอว์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ราฟาแอล วาราน, ดิโอโก้ ดาโลต์

    กองกลาง :  ไรอัน กราเวนเบิร์ช, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เดแคลน ไรซ์

    กองหน้า : เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แอนโธนี่