โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับการปกป้องจากเจ้าหน้าที่หลายคนที่พยายามพาตัวเขาออกจากสนาม จากกรณีที่มีแฟนบอลบุกเข้ามาในสนาม หลังจบแมตช์ที่ เซเนกัล ดวลจุดโทษชนะ อียิปต์ คว้าตั๋วไปลุยเวิลด์ คัพ ฉบับตะวันออกกลาง ปลายปีนี้
   
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเก่งทีมชาติอียิปต์ ถูกเจ้าหน้าที่รีบพาตัวออกจากสนามหลังจบเกมที่ทัพ "เดอะ มัมมี่" แพ้จุดโทษ เซเนกัล 3-1 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา นัด 2 เมื่อวันอังคารที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

อียิปต์ ชนะในเกมแรกด้วยสกอร์ 1-0 อย่างไรก็ตามในแมตช์นี้ เซเนกัล แก้แค้นได้สำเร็จด้วยการเปิดบ้านเฉือนชนะในสกอร์เดียวกันทำให้ 2 แมตช์สกอร์เสมอกัน 1-1 ส่งผลให้ต้องสู้กันต่อในชวงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แต่ก็ไม่มีทีมไหนยิงประตูเพิ่มได้ สุดท้ายต้องฎีกาหาผู้ชนะ และเป็น "สิงโตแห่งเตรังก้า" แม่นกว่า ได้ตั๋วไปลุยเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ปลายปีนี้

สำหรับในการดวลจุดโทษ ซาลาห์ ขันอาสาเป็นมือปืนคนแรกของทีม และยิงไม่เข้า ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ เพื่อนร่วมสังกัด "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษคนสุดท้ายช่วยให้ เซเนกัล ย้ำแค้น อียิปต์ ซึ่งเคยแพ้จุดโทษ เซเนกัล ในรอบชิง ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

หลังจบเกม "คิง ออฟ อียิปต์" ได้รับการปกป้องจากเจ้าหน้าที่ที่พยายามพา ยอดแข้งชาวแดนมัมมี่ ออกจากสนามแข่งทันทีเพื่อความปลอดภัยของนักเตะ เนื่องจากมีแฟนบอลจำนวนมากบุกเข้ามาในสนาม  

ทั้งนี้ ซาลาห์ ตกเป็นเป้าโดนแฟนบอลเซเนกัล ใช้เลเซอร์สีเขียวยิงให้ใบหน้าและตามเนื้อตัวตลอดทั้งเกม ที่สำคัญในช่วงยิงจุดโทษ "บังโม" โดนรบกวนด้วยเลเซอร์ตลอดโดยเฉพาะที่ดวงตา ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขายิงจุดโทษข้ามคานไปไกล