ด็อกเตอร์ เออร์คุต โซกุต นายหน้าของ เมซุต โอซิล ระบุ ที่แข้งวัย 33 ปี เคยปฏิเสธที่จะหั่นค่าเหนื่อยของตัวเองในตอนเล่นกับ อาร์เซน่อล เป็นเพราะอยากให้เงินส่วนที่โดนหักไปมันนำไปช่วยคนงานภายในสโมสร ไม่ใช่เอาไปใช้ในการเสริมทัพ
    
ด็อกเตอร์ เออร์คุต โซกุต เอเยนต์ของ เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ เฟเนร์บาห์เช่ สโมสรในศึก ซูเปอร์ลีก ตุรกี เปิดเผยว่าสาเหตุที่ โอซิล ไม่ยอมรับค่าเหนื่อยน้อยลงสมัยที่อยู่กับ อาร์เซน่อล เป็นเพราะเขาอยากให้เงินส่วนที่โดนหักไปถูกนำไปใช้รับรองว่าคนงานภายในสโมสรจะยังมีงานทำต่อไป

ก่อนหน้านี้แทบทุกสโมสรฟุตบอลทั่วโลกต้องเจอกับปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมันก็ส่งผลให้ทีมดังบางทีมถึงขั้นต้องใช้มาตรการลดค่าเหนื่อยของนักเตะเพื่อที่จะเป็นการประคองสภาพการเงินของทีมด้วย ซึ่ง อาร์เซน่อล ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากการขอให้นักเตะภายในทีมยอมรับค่าเหนื่อยน้อยลง 15 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม โอซิล ปฏิเสธที่จะทำตามนั้นจนกลาเยป็นข่าวดังพอตัวในช่วงดังกล่าว

นายหน้าของแข้งวัย 33 ปี เผยว่า "ตอนที่มีการพูดเรื่องจะหักค่าเหนื่อยน่ะ เขาถามผมเลยว่า -แล้วเงินส่วนที่หักไปจะไปอยู่ตรงไหน ?- เมซุต ต้องการคำรับประกันจากสโมสรว่าพวกเขาจะไม่ไล่ใครออกไปทั้งนั้น รวมถึงอยากได้คำรับรองว่าฝ่ายบริหารก็จะยอมรับค่าเหนื่อยน้อยลงเช่นกัน"

"ถ้ามันมีการรับรองเรื่องเหล่านั้นล่ะก็เขาจะยอมให้หักค่าเหนื่อยมากกว่าที่ทีมขอร้องด้วยซ้ำ เขาจะยอมให้หักค่าเหนื่อยถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลย เขาก็แค่อยากจะรู้ว่าเงินที่โดนหักไปมันจะไปอยู่ตรงไหน ถ้าเกิดมันจะถูกหักไปใช้กับการซื้อนักเตะน่ะเขาก็ไม่อยากมีส่วนร่วมกับเรื่องนั้น แต่ถ้ามันทำให้คนงานภายในสโมสรมีความมั่นคงในหน้าที่การงานแล้วน่ะเขาก็ยินดีที่จะทำอย่างนั้นเลย"