ตอนนี้สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/2022 ตื่นเต้นเร้าใจสุดๆ เพราะในช่วงโค้งสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ขับเคี่ยวแย่งชิงแชมป์ลีกกันอย่างเข้มข้น
     
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งสองทีมพลัดกันขึ้นจ่าฝูงกันอย่างสนุก โดยทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ผงาดขึ้นนำ "เรือใบสีฟ้า" หลังทุบ วัตฟอร์ด 2-0 จากนั้นแค่ไม่กี่ชั่วโมง แมนฯ ซิตี้ บุกปราบ เบิร์นลี่ย์ สกอร์เดียวกัน สามารถกลับมายึดอันดับ 1 ต่อทันที

สำหรับในแมตช์ต่อไปถือว่าน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการลุ้นแชมป์เมื่อ "หงส์แดง" มีคิวต้องบุกไปเยือนทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้ ซึ่งหากทีมได้ชนะโอกาสประสบความสำเร็จก็มีสูงเลยทีเดียว

หลังจากเกมสำคัญสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แมนฯ ซิตี้ จะอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะสบายเหลือเกิน เนื่องจากพวกเขาจะเจอคู่แข่งที่เป็นรองหลายขุม แต่พวกเขาต้องเจอกันแรงกดดันอีกครั้งในช่วงเดือนสุดท้ายของเกมลีก

"เรือใบสีฟ้า" จะดวลกับ วัตฟอร์ด, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จากนั้นพวกเขาต้องมาเจอกับเกมที่ว่ากันว่าหนักที่สุดในช่วงโค้งสุดท้ายก็คือการไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่ง ลิเวอร์พูล เคยน้ำตาตกมาแล้วในการไปเยือนถิ่นลอนดอน สเตเดี้ยม ในช่วงต้นซีซั่น

แมนฯ ซิตี้ จะจบฤดูกาลด้วยการเปิดบ้านรับมือ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ซึ่งมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม "เดอะ เร้ดส์" กุมบังเหียน และคาดว่า "สตีวี่จี" คงจะกระตุ้นลูกทีมของเขาให้สู้เต็มที่เพื่ออันดับในลีก และ (อาจจะ) เพื่อ ลิเวอร์พูล ด้วย !

ในขณะที่หันมามองโปรแกรมของ ลิเวอร์พูล ต้องบอกเลยว่าหนักหนาสาหัสจริงๆ เพราะหลังจากจบเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม พวกเขาต้องทำศึก "แดงเดือด" ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ยังมีแมตช์ปะทะกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งทั้ง 2 เกมเล่นในแอนฟิลด์

นอกจากนี้ "เดอะ เร้ดส์" ยังมีคิวทำศึกแห่งศักดิ์ศรี "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์" พบ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" จำเป็นต้องเอาชนะคู่แข่งร่วมเมืองให้ได้ เนื่องจากพวกเขากำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น

ส่วนในแมตช์รองสุดท้ายเกมลีกพวกเขาต้องไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่ง "หงส์แดง" เคยพ่ายมาแล้วที่เซนต์ แมรี่ส์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่จะจบซีซั่นด้วยการเปิดบ้านปะทะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 

อย่างไรก็ตามทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล อาจจะมีจุดเปลี่ยนสำคัญนั่นก็คือพวกเขาจะต้องลงเล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่ง "เรือใบสีฟ้า" ต้องพบกับ แอตเลติโก มาดริด ส่วน "หงส์แดง" ประจัญหน้ากับ เบนฟิก้า

สำหรับโชคชะตาของพวกเขาอาจจะต้องเจอกันในเกมนัดชิงชนะเลิศถ้วยใบโตยุโรป ถ้าหากสามารถผ่านด้านคู่แข่งไปจนถึงรอบชิงที่กรุงปารีส ยังไม่หมดแค่นั้น แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ยังต้องปะทะกันในรอบตัดเชือก ศึกเอฟเอ คัพ ด้วย

ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าในฤดูกาลนี้ถือเป็นการขับเคี่ยวแย่งความสำเร็จของทั้งสองทีมอย่างแท้จริง และหากโชคชะตาฟ้าลิขิต แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็อาจจบซีซั่นด้วยการคว้า 3 แชมป์ ส่วน ลิเวอร์พูล อาจสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ก็ได้ !!

โปรแกรม 8 เกมลีกสุดท้ายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
10 เม.ย. - ลิเวอร์พูล (เหย้า)
(ยังไม่กำหนดวัน) - วูล์ฟส์ (เยือน)
20 เม.ย. - ไบรท์ตัน (เหย้า)
23 เม.ย. - วัตฟอร์ด (เหย้า)
30 เม.ย. - ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)
7 พ.ค. - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เหย้า)
15 พ.ค. - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)
22 พ.ค. - แอสตัน วิลล่า (เหย้า）

โปรแกรม 8 เกมลีกสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล
10 เม.ย. - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
(ยังไม่กำหนดวัน) - แอสตัน วิลล่า (เยือน)
19 เม.ย. - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
24 เม.ย. - เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)
30 เม.ย. - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)
7 พ.ค. - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)
15 พ.ค. - เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)
22 พ.ค. - วูล์ฟส์ (เหย้า)