ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » นัดตัดสินแชมป์? 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 32

นัดตัดสินแชมป์? 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 32

Posted 09/04/2022 by siamsport

พรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ที่ 32 ความน่าสนใจพุ่งตรงไปที่สนาม เอติฮัด เป็นการเจอกันระหว่างสองทีมหัวตารางที่มีโทรฟี่แชมป์เป็นเดิมพัน ส่วนคู่อื่น ๆ ก็ยังน่าจับตา ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

    "เอฟเวอร์ตัน-แมนฯ ยูไนเต็ด"

    เอฟเวอร์ตัน ผลงานย่ำแย่ต่อเนื่องล่าสุดบุกพ่ายต่อ เบิร์นลี่ย์ แบบสุดช้ำ และผลงานการเล่นในบ้านปีนี้ก็ไม่ดีนัก ซึ่งนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน พวกเขายังไม่ชนะใครในลีกสองเกมติดต่อกันที่บ้านตัวเองเลย

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติเก็บชัยเหนือ "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 37 นัด มีแค่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมเดียวเท่านั้นที่พวกเขาเอาชนะได้มากกว่า (38)

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ตัวกลั่น "ปีศาจแดง" มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงใส่ เอฟเวอร์ตัน 6 ลูกจาก 4 เกมลีกที่เจอกัน (4 ประตู 2 แอสซิสต์) ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีถึง 4 ลูกจาก 2 เกมที่เขาลงเล่นที่ กูดิสัน พาร์ค (3 ประตู 1 แอสซิสต์) โดยผู้เล่น แมนยู คนสุดท้ายที่สามารถทำประตูได้ที่สนามแห่งนี้ 3 เกมติดต่อกันคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ตอนช่วงระหว่างเดือนธันวาคม ปี 2001 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004

    ไม่มีผู้เล่น เอฟเวอร์ตัน คนไหนที่ทำประตูที่ กูดิสัน พาร์ค ในฤดูกาลนี้ได้มากกว่า ริชาร์ลิซอน (3) อีกแล้ว แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่สามารถยิงที่นี่ได้เลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม

    "อาร์เซน่อล-ไบรท์ตัน"

    ไบรท์ตัน มีสถิติที่ไม่น่าเชื่อคือพวกเขาไม่เคยเอาชนะคู่แข่งในเกม พรีเมียร์ลีก ในเดือนเมษายนได้เลย โดยลงเล่นไปทั้งสิ้น 15 นัด เสมอ 8 แพ้ 7 ซึ่งในประวัติศาสตร์ลีก มีแค่ ฮัลล์ ซิตี้ เท่านั้นที่ไม่สามารถคว้าชัยในเดือนเดียวได้มากกว่า (16)

    หลังผ่านช่วงที่ไม่ชนะ"เดอะ ซีกัลส์" 5 เกมติดใน พรีเมียร์ลีก ได้เลยนั้น อาร์เซน่อล ก็ไม่แพ้อีกเลยใน 3 เกมที่เจอกันหลังสุด (ชนะ 2 เสมอ 1) โดยทั้งหมดพวกเขาเก็บคลีตชีตได้ตลอด

    "เดอะ กันเนอร์ส" แพ้แค่เกมเดียวจาก 28 นัดหลังสุดที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ตอนเวลาบ่ายสาม(เวลาท้องถิ่น) วันเสาร์(ชนะ 23 เสมอ 4) โดยในความพ่ายแพ้นั้นเกิดขึ้นต่อ ไบรท์ตัน เมื่อเดืดอนมิถุนายน ปี 2020 ขณะที่การเล่นในถิ่นตัวเองตอนช่วงเวลาดังกล่าวนั้น พวกเขาไม่แพ้ใคร 29 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่พ่าย แอสตัน วิลล่า 1-3 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2013 (ชนะ 24 เสมอ)

    ผลเสมอ 0-0 ที่ทั้งสองทีมเจอกันเกมก่อน นับเป็นหนแรกในรอบ 10 นัดที่ ไบรท์ตัน เก็บคลีนชีตต่อ อาร์เซน่อล ได้ นับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1982 ขณะเดียวกันพวกเขาไม่เคยเก็บคลีนชีตต่อ "ไอ้ปืนใหญ่" 2 นัดติดต่อกันได้เลย

    "เซาธ์แฮมป์ตัน-เชลซี"


    ติโน่ ลีฟลาเมนโต้ แบ็กขวา เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ย้ายมาจาก เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อน มองหาการเป็นผู้เล่นนักบุญรายที่ 4 ที่ลงเล่นเกมลีกครบ 25 นัดต่อซีซั่นในช่วงวัยทีนเอจต่อจาก แม็ตต์ โอ็คลี่ย์(28 นัดในซีซั่น 1996/97), ลุค ชอว์ (25 นัด 2012/13 และ 35 นัด 2013/14) และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (34 2013/14) ขณะเดียวกัน เชลซี ไม่มีผู้เล่นวัยรุ่นที่ลงเล่นเท่าจำนวนนัดดังกล่าวต่อฤดูกาลเลย

    แม้จะเพิ่งเจอความพ่ายแพ้เกมลีกนัดล่าสุดต่อ เบรนท์ฟอร์ด 1-4 เมื่อเกมก่อน แต่ เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่เคยแพ้ในลีก 2 เกมติดต่อกัน และยิ่งไปกว่านั้น กุนซือเยอรมันเป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ประสบความพ่ายแพ้ 2 นัดติดยาวนานสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 48 เกม

    เกมแรกที่เจอกัน วอร์ด-เพราส์ มีชื่อทำประตู และโดนไล่ออก ตอนเดือนตุลาคม ซึ่งผู้เล่น "เดอะ เซนต์ส" คนล่าสุดที่สามารถยิงประตูใส่ "สิงห์บลูส์" ทั้งเกมเหย้า-เยือนในซีซั่นเดียวได้คือ ริคกี้ แลมเบิร์ต ตอนซีซั่น 2012/13

    เชลซี แพ้แค่เกมเดียวจาก 13 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์ (ชนะ 9 เสมอ 3) และไม่แพ้เลยตลอด 8 เกมที่บุกมาเล่นที่สนามแแห่งนี้ โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2013

    "แอสตัน วิลล่า-สเปอร์ส"

    ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ บุกชนะ แอสตัน วิลล่า ที่สนาม วิลล่า พาร์ค ในลีกมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน โดยสถิติที่คลับไก่บุกชนะคู่แข่งติดต่อกันนานสุดคือ 7 นัดซึ่งทีมทีมนั้นก็คือ "สิงห์ผงาด" (ช่วงระหว่างปี 1950-1956)

    ยิ่งไปกว่านั้น วิลล่า เอาชนะ สเปอร์ส ได้แค่ 2 นัดจากการเจอกัน 20 เกมหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 15) ซึ่ง 2 ชัยชนะดังกล่าวเกิดขึ้นเกมนอกบ้านตอนเดือนเมษายน ปี 2015 และเดือนพฤษภาคม ปี 2021 โดยเกมล่าสุดที่ วิลล่า ชนะ สเปอร์ส ได้ที่บ้านตัวเองต้องย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม ปี 2008

    แฮร์รี่ เคน ถลุงสกอร์ใส่ แอสตัน วิลล่า ได้ตลอด 3 เกมที่ออกไปเยือน (2014/15, 2015/16, 2020/21) มีแค่ผู้เล่นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถบุกยิงที่ วิลล่า พาร์ค 4 ครั้งติดต่อกันได้ก็คือ โรเมลู ลูกากู (2013-2021)

    โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำประตูได้แล้วทีมแพ้ในลีก 8 เกมนับตั้งแต่เริ่มซีซั่นที่แล้ว ซึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มีแค่ แกเร็ธ เบล (12) กับ คริสติย็อง เบนเตเก้ (9) เท่านั้นที่ยิงได้แล้วทีมแพ้มากกว่าเขา

    "แมนฯ ซิตี้-ลิเวอร์พูล"

    หากชัยชนะตกเป็นของฝั่ง ลิเวอร์พูล จะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนทันที ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งสถิติการเจอกันของ 2 ทีมหัวตารางที่ปะทะกันในช่วง 10 เกมสุดท้ายนั้น ปรากฏว่าทีมที่รั้งรองจ่าฝูงคว้าชัยได้ถึง 7 นัด (แพ้ 1) ซึ่งตลอด 5 เกมหลังชัยชนะตกเป็นของทีมอันดับ 2

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้แค่เกมเดียวจาก 12 เกมที่เจอ ลิเวอร์พูล เกมลีกบ้านตัวเอง (ชนะ 7 เสมอ 4) ซึ่งชัยชนะของ "หงส์แดง" เกมเดียวนั้นเกิดขึ้นในปีแรกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทัพเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2015

    ลิเวอร์พูล คว้าชัยเกมลีกติดต่อกันมาแล้ว 10 นัด และยังเก็บคลีนชีตได้ถึง 8 เกม ซึ่งนั่นคือครั้งที่ 5 ที่ "หงส์แดง" คว้าชัยติดกันใน พรีเมียร์ลีก เป็นอย่างน้อย 10 นัดโดยในแต่ละครั้งทีมที่หยุดพวกเขาได้นั้นไม่ซ้ำหน้ากันเลย (2-2 โบลตัน ปี 2006, 0-2 เชลซี ปี 2014, 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2019 และ 0-3 วัตฟอร์ด ปี 2020)

    ฟิล โฟเด้น ทำสกอร์ใส่ ลิเวอร์พูล ได้ตลอด 3 เกมหลังสุด และมีสิทธิ์เป็นผู้เล่นคนที่สองที่สามารถยิงประตูใส่ "เร้ด แมชชีน" 4 เกมติดต่อจาก เจมี่ วาร์ดี้ (5 นัดติดต่อกัน ตอนช่วงระหว่างปี 2016-17)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ปืนลุ้นทวงที่4คืน! อาร์เซน่อลเค้นฟอร์มเก่ง มาร์ติเนลลี่ นำซัดรับมือไบรท์ตัน
    มิเกล อาร์เตต้า เกมที่แล้วเสียรังวัดหลังพา "ปืนใหญ่" บุกไปพ่ายพร้อมหล่นไปอยู่ที่ 5 เกมนี้ต้องสามแต้มเพื่อแซงสเปอร์สทวงที่ 4 คืนจัด บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ นำซัดรับไบรท์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 9 เมษายน เวลา 21.00 น.
  • เอฟเวอร์ตันใช้ ริชาร์ลิซอน ยิงหนีตาย, แมนยูจัด โรนัลโด้ ล่าชัยลุ้นทาบท็อปโฟร์
    "ทอฟฟี่" ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ฟอร์มร่วงดิ่งลงเหวจนมีแต้มหนีโซนแดงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น เกมนี้ยังสู้ตายส่ง ริชาร์ลิซอน และโดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน ล่าตาข่าย ส่วนทางฝั่ง "ผีแดง" ผลงานขึ้นๆ ลงๆ เกมนี้ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟิตคัมแบ็กตัวจริง เพื่อลุ้นสามแต้มทาบอันดับ 4 ก่อน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 9 เมษายนนี้ เริ่มแข่งขัน เวลา 18.30 น.
  • โด้ลงกระซวก,แม็กไกวร์คุมหลัง!คาด11ตัวจริงแมนยูเกมเยือนเอฟเวอร์ตัน
    คืนวันนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก มีโอกาสดีที่จะกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ เมื่อมีโปรแกรมออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 17 ที่ฟอร์มกำลังออกทะเลไปไกล แพ้ถึง 5 จาก 6 เกมหลังสุด แต่ที่น่าปวดหัวสำหรับกุนซือ ราล์ฟ รังนิก คือ เกมนี้ทีมจะไม่มีผู้เล่นแกนหลักถึง 4 ราย ซึ่งประกอบไปด้วย ลุค ชอว์, เอดินสัน คาวานี่, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ ราฟาแอล วาราน และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ รังนิก น่าจะเลือกใช้ในเกมที่ กูดิสัน พาร์ค
  • หมดเวลาแล้ว!แมนยูแจ้ง6แข้งเชิญย้ายทีมแบบฟรีเอเยนต์
    สื่อดังในเมืองผู้ดี ตีข่าว "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แจ้ง 6 แข้งที่กำลังจะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ สามารถเก็บข้าวของออกจาก "โรงละครแห่งความฝัน" แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ได้เลย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »