หลังจากเสมอกันอย่างสนุกเร้าใจ 2-2 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ต่างก็เหลือโปรแกรมในเกม พรีเมียร์ลีก ให้ลงเล่นอีกเจ็ดนัดเท่ากัน
   
และจากความห่างหนึ่งแต้มที่ เรือใบสีฟ้า นำหน้า หงส์แดง จึงแน่นอนว่าการแย่งแชมป์ลีกเมืองผู้ดีจะยังดุเดือดต่อไปในอีกหกสัปดาห์สุดท้ายที่เหลืออยู่อย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อโอกาสคว้าแชมป์ของทั้งสองฝ่าย ล่าสุด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ยังชี้ชัดเช่นเดิมว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะยัดเยียดความผิดหวังให้กับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์

อย่างไรก็ดี สำหรับสื่อใหญ่ของอังกฤษอย่าง เดลี่ เมล พวกเขาขออาสาคำนวณผลลัพธ์ของทั้งสองทีมในอีกเจ็ดนัดที่เหลือ

และผลปรากฏว่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2021/22 ได้แก่...

-แมนฯ ซิตี้ /ชนะหก เสมอหนึ่ง 93 แต้ม ผลต่างประตู+66

1.20เม.ย.ไบรท์ตัน (เหย้า) ชนะ 3-0

กวาร์ดิโอล่า เคยให้สัมภาษณ์ว่าประทับใจแนวทางการเล่นของทีม นกนางนวล เนื่องจากเป็นคู่แข่งไม่กี่รายที่กล้าเปิดเกมรุกสู้กับ เรือใบสีฟ้า แถมมีแผงกลางที่ดี แต่ในเมื่อทีมของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เล่นในสไตล์นี้ มันก็จะเปิดพื้นที่ให้ทีมจ่าฝูงกำชัยได้อย่างสะดวกโยธิน

2.23เม.วัตฟอร์ด (เหย้า) ชนะ 3-0

แมนฯ ซิตี้ น่าจะใช้โอกาสเกมต้อนรับ แตนอาละวาด ในการโรเตชั่น และมีความเป็นไปได้ที่ กวาร์ดิโอล่า จะส่ง แฟร์นานดินโญ่ ซึ่งต้องการย้ายทีมหลังหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ลงสนาม รวมถึง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

3.30เม.ย.ลีดส์ (เยือน) ชนะ 2-1

ถือเป็นเกมยากเช่นกันเนื่องจาก ยูงทอง ของกุนซือ เจสซี่ มาร์ช มีผลงานดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังไงซะ ซิตี้ ก็ต้องพยายามบุกไปคว้าชัยให้ได้หากต้องการป้องกันแชมป์ แถมในเมื่อเจ้าบ้านเป็นทีมที่ทิ้งโอกาสทองบ่อย แถมมีเกมรับที่อ่อนยุ่ย จึงน่าจะทำให้ เรือใบสีฟ้า เป็นฝ่ายชนะ

4.8พ.ค.นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) ชนะ 2-0

สาลิกาดง ไม่มีลุ้นอะไรอีกแล้วเนื่องจากน่าจะอยู่รอดได้สำเร็จ จึงเป็นโอกาสที่ แมนฯ ซิตี้ จะเก็บสามแต้ม แต่อาจมีเสียวเล็กน้อยเนื่องจากทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว มีผลงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

5.รอยืนยันวันเตะ วูล์ฟส์ (เยือน) เสมอ 1-1

    เป็นบททดสอบที่น่าเป็นกังวลที่สุดสำหรับ แมนฯ ซิตี้ เนื่องจาก กวาร์ดิโอล่า บุกไปคว้าชัยที่ โมลินิวซ์ ได้แค่นัดเดียวเท่านั้นจากสามนัด และมันเกิดขึ้นเมื่อซีซั่นก่อนนี่เอง อีกทั้ง เรือใบสีฟ้า ยังไม่รู้กำหนดวันเตะด้วยซึ่งขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันเกม เอฟเอคัพ รอบตัดเชือกกับ ลิเวอร์พูล

6.15พ.ค.เวสต์แฮม (เยือน) ชนะ 2-1

เกมนี้จะมีการขยับโปรแกรมหาก แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงชนะเลิศถ้วย เอฟเอคัพ ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับทีมเงินถังแน่ไม่ว่าถึงวันนั้นแล้ว เดอะ แฮมเมอร์ส จะยังมีลุ้นในถ้วยยุโรปหรือเปล่าเนื่องจากซีซั่นก่อนพวกเขาประสบกับความยากลำบากที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม และมี ฟิล โฟเด้น ตัวสำรองลงไปยิงตีเสมอ 1-1 ในต้นครึ่งหลัง

7.22 พ.ค.แอสตัน วิลล่า (เหย้า) ชนะ 4-0

สิงห์ผงาดของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีผลงานที่ตกต่ำอย่างน่าใจหาย แถมหนสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ จำเป็นต้องชนะเพื่อคว้าแชมป์ในนัดปิดซีซั่นเกิดขึ้นเมื่อปี 2019 ซึ่งพวกเขาบุกไปถล่ม ไบรท์ตัน 4-1 จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้จะอุบัติขึ้นอีกหน

-ลิเวอร์พูล /ชนะเจ็ด 94 แต้ม ผลต่างประตู+70

1.19 เม.ย.แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า) ชนะ 3-0

น่าจะเป็นเกมที่ หงส์แดง ต้องการมากที่สุดต่อการซิวสามแต้มเนื่องจากพวกเขาจะดวลกับ ผีแดง ที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งแพ้ได้แม้กระทั่งเกมบุกไปบู๊กับ เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสัน พาร์ค

2.24 เม.ย.เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) ชนะ 3-1

มีการคาดหมายว่า หงส์แดง จะบุกไปกำชัยที่ กูดิสัน พาร์ค ได้แบบไม่ยากเย็นเมื่อเดือนธ.ค. และมันเป็นไปตามนั้นเนื่องจากพวกเขาชนะ 4-1 ขณะที่ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ยังไม่ฟื้นดีในตอนนี้ ผิดกับทีมร่วมเมืองที่ยังแข็งแกร่งไม่เลิก

3.30เม.ย.นิวคาสเซิ่ล (เยือน) ชนะ 2-0

สาลิกาดง สร้างปัญหาให้กับ เร้ด แมชีน ไม่น้อยในเกมแรกที่ แอนฟิลด์ เนื่องจากพวกเขาบุกมานำก่อน แต่สุดท้ายก็พ่ายไป 3-1 จึงเชื่อว่าผลลัพธ์จะไม่ต่างกันแม้ทีมของ คล็อปป์ จะต้องบุกไปเยือนถิ่นอีสานก็ตาม

4.7พ.ค.สเปอร์ส (เหย้า) ชนะ 2-1

หลายเสียงลงความเห็นตรงกันว่านี่คือโจทย์ที่ยากที่สุดหาก ลิเวอร์พูล ต้องการเก็บแต้มแซงหน้า แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เนื่องจากทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ มีเกมรุกที่อันตราย แต่ในเมื่อเกมนี้เล่นกันที่ แอนฟิลด์ เจ้าบ้านก็น่าจะผ่านด่านสำคัญนี้ไปได้

5.10 พ.ค.แอสตัน วิลล่า (เยือน) ชนะ 2-1

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สตีวี่ จี จะเครียดแน่นอนในเกมต้อนรับอดีตสโมสรเพราะแม้เขาจะหวังพา สิงห์ผงาด เด็ดปีก หงส์แดง แต่มองดูแล้วแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย

6.15พ.ค.เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) ชนะ 3-1

หาก ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิตี้ ในศึก เอฟเอคัพ รอบตัดเชือก เกมคู่นี้จะขยับไปเล่นกันในช่วงกลางสัปดาห์ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อพละกำลังของรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ไม่น้อย แต่ในเมื่อ นักบุญ เป็นทีมหลังเปราะที่พร้อมแพ้คู่แข่งด้วยสกอร์ที่ขาดลอยเหลือเชื่อหลายหน ลิเวอร์พูล จึงมองดูมีภาษีเหนือกว่า

7.22พ.ค.วูล์ฟส์ (เหย้า) ชนะ 3-1

เป็นการย้อนรอยนัดปิดซีซั่น 2018/19 เนื่องจากคราวนั้น ลิเวอร์พูล เล่นในบ้านต้อนรับ วูล์ฟส์ เช่นกัน และกำชัยได้ 2-0 จึงคาดว่าเจ้าบ้านซึ่งมีผลงานเกมเหย้าที่น่ากังขาไม่พลาดเก็บสามแต้มเต็มแน่