"บิ๊กบอล" เปิดใจหมดเปลือก ขอพูดตรง ๆ ไม่กลัวใคร ยันชัดมีบุคคลหนึ่งทำให้ทุกอย่างพัง เขาบอกเคลียร์ทุกสโมสรได้ ไม่ต้องขยับโปรแกรมหรอก รู้อยู่แล้วซีเกมส์เตะวันไหน แต่ท้ายสุดดันเคลียร์ไม่ได้จนเกิดปัญหาปวดหัวขึ้นมาทันที ยันชัด "เขาสร้างภาพ" ยอมรับสมาคมฯมีส่วนผิด เพราะไปเชื่อใจคำพูดของบุคคลนั้นว่าเคลียร์ได้ทุกอย่าง ยืนยันชลบุรีคุยหมดแล้วกับ "โค้ชโย่ง", "มาดามแป้ง" ว่าอยากได้ใครบ้าง หากโปรแกรมเดิมพร้อมเสียสละปล่อยนักเตะเพื่อชาติแน่นอน แต่มาขยับโปรแกรมใหม่เพราะบุคคลหนึ่งสร้างปัญหา จึงไม่ขอปล่อยเด็ดขาด
    จากกรณีที่ "บิ๊กบอล" ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมของสโมสรชลบุรี เอฟซี ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่ปล่อยนักเตะไปให้กับทีมชาติไทย ลุยศึกซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 7-22 พ.ค.65 เนื่องจากว่าทีมจะต้องเตรียมตัวลงเตะในศึกฟุตบอลถ้วย "ลีก คัพ 2021-22" รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ที่ถูกเลื่อนไปเตะในวันที่ 25 และ 29 พ.ค.65 แทน  เป็นเป้าหมายของทีมที่อยากจะคว้าถ้วยนี้ให้ได้ อีกทั้งไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ด้วย ทำให้สโมสรมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยตัวไปร่วมทีมชาติ
 
    ล่าสุด ผู้จัดการทีมทัพ "ฉลามชล" ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งแบบจัดเต็มผ่านช่องยูทูบ ฟุตบอล 108 ว่า  "ผมขอเริ่มแบบนี้ ผมขอพูดตรง ๆ ครับ มันเริ่มต้นมาจากความชะล่าใจก่อน คือถ้าเกิดแฟนบอลไทยที่ดูอยู่ หรือติดตามข่าว จะมองว่าโยนให้สมาคมฯผิด ไทยลีกผิด จริง ๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ มันมีหนึ่งบุคคลที่บอกว่าเดี๋ยวจะเคลียร์กับสโมสรต่าง ๆ ให้ ไม่ต้องขยับโปรแกรมออก โปรแกรมจะเหมือนเดิม เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าโปรแกรมซีเกมส์มันวันไหน"
 
    "อันนี้ผมไม่ได้พูดในฐานะเป็นสภากรรมการนะครับ ไม่ได้มาพูดแบบเข้าข้างเรานะ ไม่ได้เข้าข้างองค์กรที่เรารับงานอยู่ แต่ทางไทยลีก และทางสมาคมเองเขาพูดแล้วว่า จะขยับโปรแกรมไหม แล้วมีคนหนึ่งบอกว่าไม่ต้องหรอก เหมือนเดิมเลย เพราะเขาบอกจะไปเคลียร์กับทีมต่างๆได้ และสุดท้ายพอเคลียร์ไม่ได้ แล้วพอออกข่าวไป แถลงข่าวไป แฟนบอลไทยต้องด่าสมาคมฯอีกว่า ทำไมให้ทุกสโมสรมาเห็นใจกับทีมชาติชุดซีเกมส์ เป้าหมายหลักคิดทีมชาติไทย  ทำไมไทยลีกไม่ปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้ลีกจบเร็วกว่าเดิม"
 
    "พอมันมาเป็นอย่างนี้เขาก็ล็อบบี้กันตั้งแต่เมื่อคืน (จันทร์ 11 เม.ย.65) แล้ว พอมาวันนี้ที่แถลงออกมาให้แต่ละสโมสรคุยกันตอนบ่ายโมง และส่งลิงค์ให้นักข่าวคุยกันตอนบ่าย 2 ถ้าให้ผมพูดตรง ๆ นะ "เขาสร้างภาพ" เมื่อคืนเขาตั้งธงไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ผมรู้เรื่องตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า บทสรุปวันที่ 4 พ.ค.65 จบ ส่วนลีกคัพต้องเป็น 25 กับ 29 พ.ค. 65 เรารู้หมดแล้วตั้งแต่เมื่อคืน"
 
    "มันไม่โอเคตรงที่ว่า ตอนฟีฟ่าเดย์ กับ ดูไบ คัพ เขาพูดมาแล้วว่า สมาคมฯยื่นมาแล้วว่า ไม่ต้องอุ่นเครื่องนะ ไม่ต้องลงแข่งขันกับเนปาล และซูรินามนะ เพราะไทยลีกจะสลัดโปรแกรมไป จะเอาโปรแกรมไทยลีก 3 เกมใส่ลงไปใน 2 สัปดาห์นั้น เพราะทางไทยลีกมองแล้ว อันนี้ผมต้องชมแชมป์ (กรวีร์ ปริศนานันทกุล) นะ แชมป์เขาคิดการไกลแล้วว่า เฮ้ย รู้แล้วว่าโปรแกรมซีเกมส์ นัดแรก วันนี้ เดือนนี้ ฉะนั้นถ้าเราสลัดโปรแกรมให้ไทยลีกไปยัด 2 สัปดาห์ เล่น 3 เกม มันเล่นได้ ถ้าหากทำตามนี้ สุดท้ายไทยลีกจะจบสิ้นเดือน เม.ย. และเราจะมีการเตรียมทีมไปเวียดนาม"
 
    "ซึ่งผมคุยกับแชมป์ และแชมป์เชื่อมั่นตัวเองว่า คนที่บอกเขาจะเคลียร์ได้ คือเคลียร์ได้หมด เดี๋ยวจะเคลียร์ให้ทุกสโมสร ไม่มีปัญหาหรอก ไทยลีกไม่ต้องปรับโปรแกรม จบวันที่ 7 อย่างนู่นอย่างนี้ โอเคอันนี้เป็นความผิดสมาคมฯอย่างหนึ่ง คือไปเชื่อใจ ไปไว้ใจ กับคำพูดที่เขาพูด"
 
    "ผม "พี่โย่ง" ,มาดามแป้ง คุยกันทั้งหมดแล้ว ผมบอกพี่โย่งไปแล้วว่า ถ้าเป็นโปรแกรมเดิมทั้งหมดผมโอเค ผมปล่อยนักเตะแน่ เราคุยกันหมดแล้ว นัดวันที่ 7 พ.ค. 65 ที่ชลบุรีไปเยือนบีจี เรายอมปล่อยนักเตะไปเลยไม่ต้องเตะเกมนี้ ไม่เชื่อไปถามพี่โย่งได้เลย ผมยอมเสียสละเพื่อทีมชาติ ชลบุรี เอฟซี ไม่ต้องไปสวยหรูหรอก บอกตรง ๆ ลองส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเอง มันคงไม่ได้จบที่ 2-3 หรอก อย่างหรูสุดชลบุรีจบที่ 5 อ่ะ ผมว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่คน ๆ เดียวครับ ที่มันอะไรกับไทยลีกอันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสมาคมฯ ผมว่ามันเลยทำให้พังครับ"
 
    นอกจากนี้ "บิ๊กบอล" ยังได้โพสต์รูปตัวเองบนเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแคปชั่นอีกด้วยว่า "สลับปรับเปลี่ยนโปรแกรม คือยึด "หลักกู" ไม่เอา "หลักการ" มันก็มีแต่จะพัง คิดได้ไง "