แมนฯ ยูไนเต็ด มีนัดสำคัญต้องบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล คู่ปรับตัวฉกาจทำศึกวันแดงเดือดในเกม พรีเมียร์ลีก วันอังคารนี้
   
จากอันดับตารางล่าสุด บอกได้เลยว่าทั้งสองฝ่ายต้องการกำชัยด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างเหตุผลกัน

สำหรับ ผีแดง ราล์ฟ รังนิก จำต้องพยายามพาทีมคว้าสามแต้มให้ได้เพื่อขยับจากอันดับหกขึ้นสู่อันดับห้าโดยมีแต้มเท่ากับ สเปอร์ส แต่เป็นรองผลต่างประตูได้เสีย และจะลงเล่นมากกว่า ไก่เดือยทอง หนึ่งนัดต่อการเพิ่มโอกาสคว้าอันดับท็อปโฟร์

ด้าน หงส์แดง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากย้ำแค้นอริรายนี้ได้ พวกเขาก็จะแซงนำ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นเป็นจ่าฝูง และจะเป็นการกดดัน เรือใบสีฟ้า ในช่วงโค้งสุดท้ายต่อการพยายามคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และมีลุ้นซิวแชมป์ทั้งสี่รายการมากขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี หลังเอาชนะ นอริช ได้แบบหืดจับ 3-2 ในเกมล่าสุดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่ามีฟอร์มการเล่นที่พัฒนาขึ้น

โดยเฉพาะแนวรับมีช่องโหว่ให้ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ทีมบ๊วยโจมตีตลอดเวลา ดีที่ว่าได้ความร้ายกาจของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระทุ้งแฮททริคพาทีมกำชัย

อย่างไรก็ดี มองดูแล้วเป็นเรื่องยากมากที่ ผีแดง จะบุกไปถอนแค้น หงส์แดง ได้จากที่เคยโดนขุนพลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ บุกไปอัดเละ 5-0 ในเกมแรกที่ โรงละครแห่งความฝัน เมื่อเดือนต.ค.

และต่อให้ รังนิก จะมีผลงานที่เหนือกว่า คล็อปป์ จากการดวลกันมาทั้งหมด 13 ครั้ง แต่สำหรับการปะทะกันหนแรกในเมืองผู้ดีของสองกุนซือร่วมชาติไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ลิเวอร์พูล เหนือกว่าบานตะไททั้งฟอร์มการเล่น และสภาพทีมซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะล้มเจ็บมากถึงห้ารายจากการเปิดเผยของนายใหญ่ขัดตาทัพ

ไม่ว่าจะเป็น ราฟาแอล วาราน , สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ , เฟร็ด , ลุค ชอว์ และ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งทั้งหมดชวดลงเล่นเกมชนะ นอริช มาด้วยกันทั้งนั้น และเชื่อว่าจะไม่มีใครเรียกความฟิตได้ทันเกมแดงเดือด

ยกเว้นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฝรั่งเศสรายเดียว แต่ก็มีเปอร์เซนต์ความเป็นไปได้น้อยมาก

สำหรับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางชาวเมืองฝอยทองซึ่งมีปัญหาขับรถชนกับคู่กรณีก่อนเดินทางมาซ้อม และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจะลงเล่นที่ แอนฟิลด์ ได้ตามปกติ

-นายทวาร

ดาบิด เด เคอา ต้องเหนื่อยหนักอีกเกมแน่หลังเคยเก็บบอลที่ก้นตาข่ายมาแล้วห้าครั้งในเกมดวลกับ ลิเวอร์พูล คราวก่อน

ด้วยฟอร์มการเซฟประตูที่เหนียวไม่เป็นสองรองใคร นายทวารสแปนิชจึงเป็นที่พึ่งคนสำคัญของ ผีแดง เนื่องจากแผงหลังของทีมอ่อนปวกเปียกถึงขนาดพร้อมเสียประตูให้กับคู่แข่งตลอดเวลาดังจะเห็นว่าจาก 32 เกมในลีกซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนพังประตูไปแล้วมากถึง 44 ลูก แย่ที่สุดในจำนวนแปดทีมแรกของอันดับตาราง

อย่างล่าสุด นอริช ซึ่งยิงประตูได้จุ๋มจิ๋มที่สุดในลีก 20 เม็ดยังเกือบบุกมาชนะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เลยจากการไล่ตีเสมอได้ และเพิ่มจำนวนประตูเป็น 22 ลูกจาก 32 นัด ก่อนจะโดน โรนัลโด้ ยัดเยียดความปราชัย

มองดูแล้ว โอกาสที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะบุกไปเฮฮาในวันอังคารนี้จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่สำหรับ เด เคอา ขอให้เขาเสียประตูน้อยที่สุดก็น่าจะประสบผลสำเร็จในทางส่วนตัวแล้ว

-กองหลัง

หาก วาราน เรียกความฟิตไม่ทัน แบ็คโฟร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์ ก็น่าจะเป็นขุนพลชุดเดิมจากเกมชนะ นอริช ทั้งหมด

อย่างไรก็ดี มีสิทธิ์เป็นไปได้ว่า รังนิก จะเสี่ยงปรับให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายแทน อเล็กซ์ เตลเลส ที่มีผลงานดูไม่จืดในเกมล่าสุดโดยที่ อาร่อน วาน บิสซาก้า จะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแบ็คขวาแม้เท่าที่ผ่านมาเขาจะพัฒนาฟอร์มการเล่นไม่ได้เลยก็ตาม
 
ต่อคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แน่นอนว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะจับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ต่อไปเนื่องจาก ฟิล โจนส์ กับ เอริค ไบยี่ ไม่ได้รับการเหลียวแลแล้ว และตกเป็นข่าวโดนโละทิ้งหลังจบซีซั่นนี้ทั้งคู่

เห็นโฉมหน้าแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคนี้แล้ว หากวันอังคารนี้พวกเขาเอาชีวิตรอดจาก แอนฟิลด์ ได้สำเร็จก็ต้องซื้อข้าวเหนียวมะม่วงไปเลี้ยงฉลองกันหน่อยแล้วล่ะ

- กองกลาง

อย่างที่บอกว่า ปีศาจแดง จะยังไม่มีคู่หู "แม็คเฟร็ด" ลงเล่นเนื่องจากเดี้ยงด้วยกันทั้งคู่ มันจึงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับ รังนิก ดังจะเห็นว่าเกมบู๊กับ นอริช แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับลงเล่นเลยสักราย กระทั่งตัดเกมรุกของทีมบ๊วยไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ จึงท้าพนันได้เลยว่ากุนซือชาวเยอรมันจะไม่ส่งแผงกลางจากนัดก่อนบุกไปบู๊กับ ลิเวอร์พูล แน่ และอาจเหลือ แฟร์นันด์ส แค่รายเดียว ขณะที่ ป็อกบา ซึ่งโดนแฟนบอลโห่ใส่จากนัดก่อนเนื่องจากเล่นได้อย่างย่ำแย่มีแววนั่งเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งกลับมาเป็นตัวจริง และเล่นได้อย่างน่าพอใจก็ตาม

แต่ช้าก่อน หลังเกมดวลกับ นกขมิ้นเหลืองอ่อน รังนิก ส่งสัญญาณปกป้องกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสเต็มที่ว่าแฟนบอลไม่ควรโจมตีนักเตะเป็นรายบุคคล ฉะนั้นแล้ว ป็อกบา จึงน่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไปแม้จะฉายฟอร์มได้ไม่เอาอ่าวก็ตาม

สำหรับมิดฟิลด์อีกรายที่จะได้ทำหน้าที่เก็บกวาดให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันอังคารนี้แบบร้อยเปอร์เซนต์หนีไม่พ้นกองกลางตัวรับอย่าง เนมานย่า มาติช ซึ่งมีความสำคัญสำหรับเกมในลักษณะนี้ ขณะที่อีกรายน่าจะตกเป็นโควต้าของ แอนโธนี่ อีแลงก้า เด็กโปรดของ รังนิก

-กองหน้า

ไม่ว่าจะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่แย่ หรือตกเป็นข่าวไม่อยู่ในแผนของ เอริค เทน ฮาก ว่าที่กุนซือคนใหม่ แต่ยังไงซะ โรนัลโด้ ก็ถือเป็นความหวังอันสูงสุดของทีมอยู่นั่นเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าตัวเพิ่งคายพิษสงซัดแฮททริคพาทีมคว่ำ นอริช ได้สำเร็จจึงเหมือนเป็นการเพิ่มความหึกเฮิมให้ตัวเองได้อย่างถูกเวลาก่อนปะทะกับทีมคู่แค้นตลอดกาล

กระทั่งล่าสุด เจ้าตัวได้รับข่าวร้ายเสียลูกแฝดไปหนึ่งราย และยังไม่แน่ว่าจะมีสภาพจิตใจที่พร้อมลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล หรือเปล่า

หรือไม่เช่นนั้น รังนิก อาจตัดสินใจให้ "ซีอาร์เซเว่น" ได้พักทำใจไม่ต้องลงเล่นเกมวันอังคารนี้ก็ได้เนื่องจากดาวยิงตัวกลั่นประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

และหาก แมนฯ ยูไนเต็ด มีอันต้องปราศจาก โรนัลโด้ โอกาสก็จะตกอยู่กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้ระยะหลังเขาจะกู่ไม่กลับ กระทั่งลงเล่นเป็นตัวสำรองหลายเกมก็ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมไม่เป็นสับปะรดอยู่นั่นเอง

นอกจาก แรชฟอร์ด แล้ว เจสซี่ ลินการ์ด ก็มีโอกาสลงบู๊หลังจาก โรนัลโด้ ได้รับข่าวร้าย แต่จะลงเล่นในแผงกลางเปิดทางให้ อีแลงก้า รับบทตัวรุก

สุดท้ายแล้ว เจดอน ซานโช่ จะได้ลงเล่นอีกตามเคยเนื่องจาก รังนิก แสดงให้เห็นเรื่อยมาว่าเขาพยายามปลุกปั้นอดีตขุนพลทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ให้กลับมามีความมั่นใจอีกหนให้ได้

11 ขุนพลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตามความคาดหมาย : ดาบิด เด เคอา  , อาร่อน วาน บิสซาก้า   , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ,ดีโอโก้ ดาโลต์  , เนมานย่า มาติช , บรูโน่ แฟร์นันด์ส , ปอล ป็อกบา , แอนโธนี่ อีแลงก้า , เจดอน ซานโช่ , มาร์คัส แรชฟอร์ด