ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » หงส์กำลังฮึกเหิม,คู่หูไก่โหดโปรดระวัง! 5 ประเด็นก่อน ลิเวอร์พูล รับมือ สเปอร์ส

หงส์กำลังฮึกเหิม,คู่หูไก่โหดโปรดระวัง! 5 ประเด็นก่อน ลิเวอร์พูล รับมือ สเปอร์ส

Posted 07/05/2022 by siamsport

เจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมนำลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ทำศึกสำคัญในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามแอนฟิลด์ วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคมนี้ โดยนี่ถือเป็นโปรแกรมที่หนักที่สุดจากที่เหลืออยู่ในลีกของ "หงส์แดง" และถ้าพวกเขาสามารถคว้า 3 คะแนนได้ จะขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว และเป็นการส่งแรงกดดันใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แข่งวันอาทิตย์ทันที ขณะที่ สเปอร์ส ก็ต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสในการคว้าท็อปโฟร์เช่นกัน 

1. ลิเวอร์พูลกำลังฮึกเหิม

     สำหรับตอนนี้คงต้องยอมรับว่านักเตะลิเวอร์พูลทุกคนกำลังเต็มไปด้วยความฮึกเหิม หลังจากที่พวกเขาสร้างผลงานสุดยอดในการปราบ บียาร์เรอัล คว้าตั๋วทะลุไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จแล้ว

     แน่นอนว่าตอนนี้ขุมพล "หงส์แดง" กำลังเต็มไปด้วยความกระหายในชัยชนะ หลังจากที่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดอย่างต่อเนื่อง และการรับมือกับ สเปอร์ส แม้ว่าจะเป็นเกมที่ยากลำบาก แต่นักเตะทุกคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเก็บ 3 คะแนนเพื่อลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป

     ที่สำคัญ คล็อปป์ ยังได้รับข่าวดีเมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หายเจ็บกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างเต็มที่ ขณะที่แนวรุกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า และหลุยส์ ดิอาซ ฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย พร้อมที่จะให้ คล็อปป์ เลือกใช้งานได้เต็มที่

     ขณะที่แดนกลาง และกองหลังต้องบอกเลยว่าฟูลทีมสุดๆ ฉะนั้นนี่จึงถือเป็นโอกาสดีเยี่ยมสำหรับ ลิเวอร์พูล ในการที่จะสู้กับ "ไก่เดือยทอง" ที่ถือว่าเป็นทีมแกร่ง และมีเกมรุกจัดจ้านเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา

      "เดอะ เร้ดส์" ทำผลงานกับการเล่นในแอนฟิลด์ได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ 5 เกมลีกหลังสุดพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้หมดและไม่เสียประตู ซึ่งนี่ถือเป็นจุดที่ได้เปรียบสำหรับ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้จริงๆ

2. สเปอร์ส ต้องการชัยชนะเพื่อท็อปโฟร์

     ภารกิจสำคัญของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็คือการไล่ล่าอันดับท็อปโฟร์เพื่อคว้าโควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยสถานการณ์ของพวกเขามีลุ้นเลยทีเดียว และหากได้ 3 แต้มที่แอนฟิลด์จะยิ่งทำให้ทีมมีสิทธิ์ที่จะบรรลุเป้าหมายได้

     ปัจจุบัน อาร์เซน่อล คู่อริตลอดกาลของ "ไก่เดือยทอง" รั้งอยู่อันดับ 4 โดยมีแต้นนำพวกเขาอยู่ 2 คะแนน แถมทั้งสองทีมมีคิวที่จะเปิดศึก "นอร์ธลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" หลังจบโปรแกรมสุดสัปดาห์นี้ ฉะนั้นนี่จึงเป็นเกมที่มีความสำคัญกับ สเปอร์ส อย่างมาก

     ทีมของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ มักจะมีฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาในช่วงที่ผ่านมา โดยสามเกมหลังสุดของพวกเขาชนะ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้, เสมอ เบรนท์ฟอร์ด และแพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

     อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ก็มักจะทำผลงานได้ดีในการสู้กับทีมใหญ่โดยเฉพาะในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาสามารถชนะได้ทั้งนัดเหย้าและเยือน ส่วนการพบกับ ลิเวอร์พูล ก็เล่นเอา "หงส์แดง" รากเลือดในเกมเสมอกันแมตช์แรก

 3.  ซาลาห์ ทีเด็ดเวลาเจอไก่-แอนฟิลด์สุดแกร่ง

     แม้ว่าในช่วงนี้ฟอร์มการยิงประตูของ ซาลาห์ อาจจะมีขึ้นๆ ลงๆ ไปบ้าง แต่เจ้าตัวก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นคีย์แมนที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะการที่เขามักจะมีส่วนในการช่วยทีมในเรื่องการแอสซิสต์

     "บังโม" รั้งอันดับ 1 ดาวซัลโวลีกด้วยจำนวน 22 ประตูโดยมี ซน ฮึง-มิน ไล่บี้ตามมาเหลือแค่ 3 ประตูเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ "คิง ออฟ อียิปต์" โดดเด่นไม่แพ้การตะบันตาข่ายคู่แข่งก็คือการส่งบอลให้เพื่อนยิงประตูโดยเขารั้งอันดับ 1 ด้วยการทำ 13 แอสซิสต์ ในลีกฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

     อย่างไรก็ตาม ซาลาห์ มักจะถูกโฉลกกับการลงเล่นกับ สเปอร์ส โดยเขามักจะยิงประตูใส่ "ไก่เดือยทอง" บ่อยๆ โดยเจ้าตัวตะบันตาข่ายคู่ต่อกรณจากนอร์ธลอนดอนไปถึง 6 ลูกจาก 10 เกมที่เจอกัน ฉะนั้นนี่จึงเป็นข้อได้เปรียบของ "หงส์แดง"

     อีกหนึ่งจุดที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เหลือกว่าทีมเยือนนั่นก็คือการลงเล่นในแอนฟิลด์ พวกเขาเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 12 แมตช์ติดต่อกัน และไม่แพ้ใครในลีก 21 เกมกับการเล่นในสนามของตัวเอง ที่สำคัญยังตะบันไปถึง 52 ประตู และเสียแค่ 9 ลูกเท่านั้น

4. คู่หูไก่สุดโหดโปรดระวัง

     สิ่งที่ คล็อปป์ แอนด์โค. ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ นั่นก็คือสองสตาร์ประจำทีมของ สเปอร์ส ได้แก่ แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน เพราะพวกเขาเล่นกันได้อย่างเข้าขาลงตัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ "อาซน" ที่ตอนนี้ฟอร์มเข้าฝักสุดๆ

     กัปตันทีมชาติอังกฤษ เกี่ยวข้องกับ 9 ประตูจากการเล่น 13 เกมลีกที่พบกับ ลิเวอร์พูล โดยเป็นการยิง 7 ประตู และแอสซิสต์ 2 ครั้ง ส่วนในฤดูกาลนี้ "เดอะ เฮอริเคน" ตะบันไปถึง 13 ประตูพร้อมกับทำแอสซิสต์ไปแล้ว 8 ครั้ง ขณะที่ "อาซน" ทำไป 7 แอสซิสต์

     สำหรับ หัวหอกชาวเกาหลีใต้ ถ้าหากยิงประตูในแอนฟิลด์แมตช์นี้เขาจะกลายเป็นนักเตะ "ไก่เดือยทอง" คนที่สองที่ยิง 20 ประตูในยุคพรีเมียร์ลีกโดยที่ไม่มีจุดโทษเลย เทียบเท่ากับ แกเร็ธ เบล ในฤดูกาล 2012/2013

     ไม่ใช่แค่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน เท่านั้นที่อันตราย สเปอร์ส ยังมีตัวทีเด็ดอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ  เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่ยืมตัวมาจาก ยูเวนตุส ในตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนม.ค. พร้อมกับทำผลงานได้เด็ดสะระตี่เหลือเกิน โดยเขาจัดการทำไป 3 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนับตั้งแต่ที่ได้ลงเล่นเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน

 5. เส้นทาง 4 แชมป์จะอยู่ต่อไปหรือจบแค่นี้

     เป็นอีกครั้งที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะโยนความกดดันใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อพวกเขาได้ลงเล่นก่อนสัปดาห์นี้ แม้ว่าจะต้องเจอกับคู่แข่งสุดหินอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ดูเหมือนกำลังใจจากฝั่ง "หงส์แดง" ค่อนข้างจะเยอะพอสมควร

     ต้องบอกว่านี่เป็นเกมที่ยากที่สุดสำหรับโปรแกรมที่เหลืออยู่ของ ลิเวอร์พูล และหลายคนมองว่าหาก "เดอะ เร้ดส์" จะสะดุดก็คงจะเป็นแมตช์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขารู้ดีหากพลาดท่าไม่ได้ 3 คะแนนคงต้องเก็บฉากรูดม่านการลุ้นแชมป์ไปได้เลย

     กระนั้นในทางตรงกันข้ามถ้า ลิเวอร์พูล คว้าสามแต้มได้ นั่นหมายถึงการส่งแรงกดดันมหาศาลไปให้กับ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งจะต้องปะทะกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกำลังแรง ในวันอาทิตย์นี้

     ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะผิดหวังจากการตกรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยฝีเท้าของ เรอัล มาดริด มาหมาดๆ บางคนมองว่าสภาพจิตใจของพวกเขากำลังระส่ำระส่าย แต่ในขณะเดียวหลายคนชื่อว่า "เรือใบสีฟ้า" คงจะมีสมาธิและใส่เต็มที่เพื่อคว้าแชมป์ลีกมาปลอบใจแฟนบอล

     ก็อย่างที่บอกหาก ลิเวอร์พูล ได้สิทธิ์ขึ้นนำจ่าฝูงก่อน มีความเป็นไปได้ที่นักเตะแมนฯ ซิตี้ จะมุ่งมั่นเกินร้อย และบางครั้งการมุ่งมั่นมากเกินไป อาจจะนำไปสู่การเล่นแบบเกร็งๆ ก็ได้ ใครจะไปรู้ !??

     อย่างไรก็ตามภารกิจแรกของ ลิเวอร์พูล คือต้องเอาชนะ สเปอร์ส ให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องแชมป์ลีก แต่น่าจะหันไปมุ่งมั่นกับเกมนัดชิงฟุตบอลถ้วยที่เหลืออยู่ดีกว่า !!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »