นับตั้งแต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกษียณตัวเองเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญกับการจบฤดูกาลที่สุดแสนเลวร้ายในซีซั่นนี้ ทั้งไม่ได้ตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และการไร้แชมป์เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยงานนี้ เอริก เทน ฮาก กุนซือคนใหม่คงต้องทำงานหนักในการสร้างทีมซัมเมอร์นี้
   
"ปีศาจแดง" จำเป็นต้องทุ่มเงินอีกครั้งในการแก้ปัญหาของพวกเขาช่วงซัมเมอร์นี้ และแน่นอนว่าคงมีนักเตะทีมชุดใหญ่หลายคนที่จะต้องอำลาสโมสร เพราะ เทน ฮาก คงต้องมีการยกเครื่องครั้งใหญ่ หลังได้เห็นผลงานของว่าที่ลูกทีมของเขาในเกมที่โดน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ถลุงยังไม่นับญาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะไม่ได้เลวร้ายมากมายขนาดนี้ หากบอร์ดบริหารไม่ทำเรื่องผิดพลาดมหันต์ 6 ข้อนับตั้งแต่หมดยุค บรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ โดยทั้ง 6 ข้อมีอะไรบ้าง ลองมาพิจารณากันดีกว่า

การไล่ เดวิด มอยส์ ออกไป

เดวิด มอยส์ ถือเป็นผู้สืบทอดที่ "เซอร์เฟอร์กี้" ต้องการให้มาคุม แมนฯ ยูฯ ต่อจากเขา โดยนี่ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับเจ้าตัว และแน่นอนว่าการเข้ามาสานต่องาน "ป๋า" ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน

กุนซือชาวสกอตติช ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารมากนัก แถมขุมกำลังที่ เฟอร์กูสัน ทิ้งเอาไว้ให้ก็เป็นพวกแข้งโรยราชราตามสภาพ ขณะเดียวกัน มอยส์ ไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะชั้นยอดที่ล็อกเป้าเอาไว้ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะทั้งสองรอบ นั่นทำให้การสร้างทีมของเจ้าตัวไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

มอยส์ โดนไล่ออกทั้งๆ ที่ทำงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น โดยเหตุผลเพราะทำทีมไม่มีทรง รูปแบบการเล่นก็น่าผิดหวัง อย่างไรก็ตามการสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่งทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้เริ่มงานไม่ถึงปี ถือเป็นการไม่ให้โอกาสเขาได้สร้างทีมตามแนวทางของตัวเอง 

มองข้ามศักยภาพ "จารย์ หลุยส์"

หลุยส์ ฟาน กัล ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำงานแทน มอยส์ และแน่นอนว่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" เนื้อเต้นสุดๆ เนื่องจากผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ "จารย์หลุยส์" สร้างเอาไว้มันช่างเลิศเลอเพอร์เฟกต์ซะเหลือเกินทั้งกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลน่า

ตำนานกุนซือชาวดัตช์ ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากการสร้าง อาแจ็กซ์ ด้วยขุมกำลังคนหนุ่มที่เป็นเด็กปั้นในศูนย์เยาวชน ผสมผสานกับนักเตะจอมเก๋า ซึ่งสามารถนำสโมสรก้าวไปอยู่จุดสูงสุดในการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่การทำงานกับ บาร์ซ่า อาจจะไม่ค่อยสวยหรูแต่ก็สามารถนำทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้

อย่างไรก็ตาม การเข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ยูฯ ดูเหมือนมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ย่ำแย่อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะช่วยให้ "เร้ด เดวิลส์" คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ แต่สุดท้ายก็โดนปลด โดยเหตุผลเพราะบอร์ดบริหารต้องการเปิดทางให้ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาทำงาน

เฉดหัว "เฮียมู" อย่างไม่ใยดี

โชเซ่ มูรินโญ่ ถือว่าเป็นกุนซือที่แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด เนื้อเต้นสุดๆ เพราะประวัติความสำเร็จของเขา และอุปนิสัยที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับ "ปีศาจแดง" ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" มองว่าทีมจะมีความหวังที่จะได้หวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

"เฮียมู" ประสบความสำเร็จพอสมควรกับการคว้าแชมป์สามรายการได้แก่ แชริตี้ ชิลด์, ยูโรปา ลีก และ คาราบาว คัพ ในการคุมแมนฯ ยูฯ 2 ฤดูกาล อย่างไรก็ตามในซีซั่นที่ 3 ทีมเริ่มต้นด้วยผลงานที่ย่ำแย่ และบอร์ดบริหารก็จัดการเฉดหัวกุนซือชาวโปรตุกีสออกไปทั้งๆ ที่ทีมยังได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ

มีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่านักเตะ และทีมสตาฟฟ์ไม่ปลื้มกับการทำงานร่วมกับ มูรินโญ่ โดยเฉพาะสไตล์การเล่นของเขาที่ไม่มี "ดีเอ็นเอ" แบบฉบับ "ผีแดง" แต่สุดท้ายการไล่เขาออกถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด เพราะทีมไม่ได้สัมผัสแชมป์อีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตั้ง "น้าลูกอม" คุมถาวร

หลังจากที่เฉดหัว มูรินโญ่ ออกไปแล้ว บอร์ดบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด บ้าจี้ตามแฟนบอลด้วยการตั้งแต่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทัพแบบชั่วคราว โดยเจ้าตัวสร้างผลงานชั้นยอดเมื่อนำทีมเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่น แถมยังคว่ำ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย

แน่นอนว่าด้วยผลงานและฟอร์มการเล่นของ "ผีแดง" ทำให้ผู้บริหาร และสาวก "เร้ด อาร์มี่" เนื้อเต้นสุดๆ จนนำไปสู่วลีเด็ดที่ว่า "ปลุกปีศาจต้องใช้ปีศาจ" งานนี้จึงไม่รอช้าต้องรีบมอบสัญญาถาวรให้กับ "น้าลูกอม" ทันที

นั่นคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีกครั้งของ แมนฯ ยูฯ เพราะทุกอย่างกลับตาลปัตรทันทีหลังจาก กุนซือซูเปอร์ซับ สลัดน้ำหมึกเซ็นคุมทีมถาวร เนื่องจากผลงานของสโมสรมีแต่สาละวันเตี้ยลง หนึ่งในเรื่องที่หลายคนมองว่าพวกเขาทำพลาดก็คือ ในเวลานั้น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กำลังว่างงาน แต่ดันไปตั้งโซลชา แทนที่จะเอาคนมีประสบการณ์สูงมาทำงาน

"ป็อกแบ็ก" หวนคืนทัพ "ปีศาจแดง"

ไม่มีใครสงสัยในเรื่องศักยภาพของ ปอล ป็อกบา เพราะเขาถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เต็มไปด้วยทักษะในวงการลูกหนัง แต่โชคร้ายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะเขาไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งได้สมกับค่าตัวที่เป็นสถิติสูงสุดของสโมสรได้เลย นับตั้งแต่ย้ายกลับมาร่วมทัพในปี 2016

ป็อกบา อำลาสโมสรไปตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นดาวรุ่งเพื่อไปเล่นกับ ยูเวนตุส ซึ่งเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดช่วยทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยการย้ายกลับมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลายคนมองว่านี่จะเป็นโอกาสดีที่จะสานต่องานที่ค้างอยู่กับ แมนฯ ยูฯ ให้เสร็จสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามการกลับมาของ ป็อกบา ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดของพวกเขา เพราะนอกจากเรื่องทรงผมกับไลฟ์สไตล์เท่ๆ ที่โพสต์ในสื่อโซเชียลแล้ว เรื่องฟอร์มการเล่นก็เป็นแบบสามวันดีสี่วันรั่ว

ว่ากันว่า ป็อกบา เตรียมทำพิษกับต้นสังกัด เมื่อเขาจะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ และเตรียมย้ายไปเล่นกับสโมสรอื่นแบบฟรีเอเยนต์ช่วงซัมเมอร์ ซึ่งมีรายงานว่า ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ จะย้ายข้ามฝากไปเล่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซะด้วย.....แฟนผีเจ็บใจทวีคูณละงานนี้ !!

นโยบายต่อสัญญาของ วู้ดเวิร์ด

เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซึ่งเป็นอดีตรองประธานบริหารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในบุคคบที่แฟนบอล "ผีแดง" ไม่ชอบขี้หน้าอย่างแรงตลอดช่วงระยะเวลาที่เขาบริหารงานกับสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความผิดพลาดในการซื้อขายนักเตะ

อย่างไรก็ตามหนึ่งในนโยบายที่ย่ำแย่ และเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมหันต์ของ วู้ดเวิร์ด ก็คือการยื่นข้อเสนอใหม่ให้กับนักเตะบางคนที่ดูแล้วไม่มีอนาคตกับสโมสร โดยเป้าหมายเพียงแค่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับพวกเขา

วู้ดเวิร์ด จัดการยื่นข้อเสนอขยายสัญญาให้กับ ฟิล โจนส์, เอริก ไบยี่ และ เนมานย่า มาติช โดยรายหลังยังพอที่จะมีประโยชน์กับทีมอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามทั้งสามคงจะย้ายออกจาก "โรงละครแห่งความฝัน" ในช่วงซัมเมอร์นี้