ลิเวอร์พูลย้ำแค้นนัดชิง! แม่นโทษดับเชลซีผงาดเอฟเอคัพสมัยที่8
Posted 15/05/2022 by siamsport
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เดินหน้าลุยโปรเจ็คสี่แชมป์ต่อไป หลังดวลจุดโทษย้ำแค้นใส่ "สิงห์บลูส์" เชลซี ต่อจากนัดชิง คาราบาวคัพ ชนะไป 6-5 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ผงาดแชมป์เอฟเอคัพในรอบ 16 ปี เป็นสมัยที่ 8 ในการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 141 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน (สนามกลาง)
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 141 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ระหว่าง เชลซี รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว พบ ลิเวอร์พูล ซึ่งนับเป็นคู่ชิงเดิมจากถ้วย คาราบาว คัพ เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ "หงส์แดง" จะคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
"สิงห์บลูส์" เข้าชิงทั้งหมด 15 ครั้งคว้าแชมป์ไป 8 สมัย โดยผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และเข้าชิงถึง 5 ครั้งในรอบ 6 ปีล่าสุดอีกด้วย ขณะที่ "หงส์แดง" นับเป็นการเข้าชิงสมัยที่ 14 โดยคว้าแชมป์ไปครองถึง 7 สมัย และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผ่านเข้ามาชิงดำถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ หลังหนล่าสุดเมื่อซีซั่น 2011–12 พวกเขาพ่ายให้ เชลซี 1-2
โธมัส ทูเคิ่ล หวังจะล้างตาซิวแชมป์ใบนี้ให้ได้ วาง โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า โดยมี เมสัน เม้าน์ท และ คริสเตียน พูลิซิช สนับสนุน ขณะที่ มาเตโอ โควาซิช หายเจ็บกลับมาสตาร์ทตัวจริงหลังโดนเสียบหนักในเกมอัด ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ผ่านมา
ส่วนทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมันเช่นกัน เปลี่ยน 5 ตำแหน่งจากเกมบุกคว่ำ แอสตัน วิลล่า 2-1 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงคุมจังหวะแดนกลางร่วมกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และนาบี เกอิต้า ส่วนสามประสานแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และหลุยส์ ดิอาซ
ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาอย่างเข้มข้น "หงส์แดง" โหมบุกเข้าโจมตีอย่างหนัก และนาทีที่ 9 ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำอย่างน่าเสียดายหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดีดไซด์ก้อยทะลุช่องให้ หลุยส์ ดิอาซ ควบบอลเข้าไปซัดติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ก่อนจังหวะต่อมา ชาโลบาห์ จะตามไปเคลียร์พ้นอันตราย ทว่าปลายสตั๊ดไปอัดเข่า ติอาโก ซิลวา จนบาดเจ็บแต่ยังลุกมาเล่นต่อได้
นาที 17 "สิงห์บลูส์" ได้โอกาสส่องหนแรกหลัง คริสเตียน พูลิซิช อัดนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาออกไป
"เดอะ ค็อป" เกือบเงียบกริบ คราวนี้บอลของสิงห์บลูส์ขึ้นทางขวา เจมส์ ให้ เมาน์ท ก่อนปาดมาเสาแรกถึง พูลิซิช โฉบมาซัดเลียดบอลค่อยๆ กลิ้งถากเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น
เชลซีหวิดทำได้นาทีที่ 28 คริสเตียน พูลิซิซ ไหลมาที่ มาร์กอส อลอนโซ่ ทิ้งตัวยิงเขตโ?ษทางซ้ายติดบล็อก อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ออกมาขวางทันเวลา
นาทีที่ 33 ข่าวร้ายฝั่งหงส์แดงเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีอาการบาดเจ็บลงไปนอนกับพื้น แพทย์ของทีมเข้ามาปฐมพยาบาท ก่อนจำต้องเปลี่ยนเอา ดีโอโก โชต้า ลงเล่นแทน
ท้ายครึ่งแรกนาที 45 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วางบอลโด่งมาหน้าประตูทางซ้าย ดีโอโก โชต้า โฉบมายิงบอลเหินข้ามคานออกหลังแบบน่าเสียดาย
หมด 45 นาทีแรก เชลซี ยังคงเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
ต้นครึ่งหลังนาที 46 คริสเตียน พูลิซิช เปิดบอลโค้งมาทางด้สนซ้ายในเขตโทษ มาร์กอส อลอนโซ่ พักอกก่อนซัดผ่านหน้าประตูออกหลังอีกด้าน ช็อตต่อมาอีกอึดใจเดียว โรเมลู ลูกากู ใช้ตัวบังป้ายให้ คริสเตียน พูลิซิช สอดยิงโดน อลีสซง เบ็คเกอร์ เซฟเอาไว้
เพียงนาทีเดียว มาร์กอส อลอนโซ่ ซัดฟรีคิกเกือบถึงเส้นหลังฝั่งขวา บอลเลี้ยวหนีมือนายด่านคู่แข่งที่ยื่นมือปัดมุดชนคานอีกด้านกระดอนออกมา สิงห์บลูส์พลาดออกนำอีกหน
หงส์แดงมีโต้บ้างคราวนี้นาที 53 หลุยส์ ดิอาซ เลี้ยงม้วนตัวหนีแข้งเชลซี ตะบันนอกกรอบ บอลกลิ้งเฉี่ยวข้างเสาซ้ายแบบมีลุ้นสกอร์
ผ่านมานาทีที่ 65 ติอาโก้ อัลกันตาร่า ดีดบอลออกขวา นาบี เกอิต้า จับบอลพร้อมส่องทันทีบอลตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ล้มตัวรับไม่มีปัญหา
ช่วงท้ายเกมนาที 83 ดีโอโก โชต้า แตะบอลสั้นให้ ซาดิโอ มาเน่ ส่งตั้งไปที่ หลุยส์ ดิอาซ รีบซัดทางขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลชนข้างเสาเหลี่ยมนอกออกไป ก่อนที่ หงส์แดงเกือบพังประตูได้ เจมส์ มิลเนอร์ ลงสำรองครอสบอลมาที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ชิงจังหวะ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ยกเท้ายิงชนเสาซ้ายอย่างจัง
จบเวลา 90 นาที เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 ต้องยืดเวลาออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาทีมชนะแต่ว่าทั้งสองทีมกลับแทบไร้โอกาสสำคัญหรือจังหวะใกล้เคียงเป็นสกอร์ตัดสิน หมด 120 นาที ยังไม่มีประตูเข้าสู่ช่วงดวลจุดโทษ
ช่วงดวลจุดโทษ
เชลซี 1.มาร์กอส อลอนโซ่ ยิงเข้า ลิเวอร์พูล 1.เจมส์ มิลเนอร์ ยิงเข้า
2.เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยิงไม่เข้า (ชนเสา) 2.ติอาโก้ อัลกันตาร่า ยิงเข้า
3.รีซ เจมส์ ยิงเข้า 3.โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงเข้า
4.รอสส์ บาร์คลี่ย์ ยิงเข้า 4.เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงเข้า
5.จอร์จินโญ่ ยิงเข้า 5.ซาดิโอ มาเน่ ยิงไม่เข้า (ติดเซฟ)
6.ฮาคิม ซิเย็ค ยิงเข้า 6.ดีโอโก โชต้า ยิงเข้า
7.เมสัน เม้าน์ท ยิงไม่เข้า (ติดเซฟ) 7.คอนตาส ซิมิกาส ยิงเข้า
จบการดวลจุดโทษเป็น ลิเวอร์พูล ชนะแม่นเป้า เชลซี ไป 6-5 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ผงาดแชมป์เอฟเอคัพในรอบ 16 ปี เป็นสมัยที่ 8
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (3-4-1-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เทรโวห์ ชาโลบาห์ (เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น.106), ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่ (กัปตันทีม), มาเตโอ โควาซิช (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.66), มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เม้าน์ท, คริสเตียน พูลิซิช (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.106 - รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.120) - โรเมลู ลูกากู (ฮาคิม ซิเย็ค น.85)
ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (โฌเอล มาติป น.91), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอนตาส ซิมิกาส น.111) - นาบี เกอิต้า (เจมส์ มิลเนอร์ น.74), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), ติอาโก้ อัลกันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดีโอโก โชต้า น.33), ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.99)
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ซิลวาคุมหลัง,ลูกากูยืนหอก?คาด11ตัวจริงเชลซีดวลลิเวอร์พูลนัดชิงฯเอฟเอคัพ
คืนวันนี้ "สิงห์บลูส์" เชลซี มีโปรแกรมสุดสำคัญที่จะต้องดวลกับ ลิเวอร์พูล ในศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ณ สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขามุ่งมั่นอย่างมากที่จะแก้แค้น "หงส์แดง" จากการปราชัยในเกม คาราบาว คัพ รอบชิงฯ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริงที่กุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล น่าจะเลือกใช้สำหรับเกมนี้ ซึ่งจะมาในระบบ 3-4-3 หรือมองเป็น 3-4-2-1 ก็ได้ไม่มีเม้ม!อันเชล็อตติเผยแผนรับมือลิเวอร์พูลชิงดำชปล.
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เรอัล มาดริด บอกแผนที่จะใช้เจอกับ ลิเวอร์พูล โดยบอกว่าด้านระบบจะใช้ 4-3-3 เป็นหลัก แถมจะพยายามสร้างความกดดันให้แกนหลักของอีกฝ่ายให้ได้ขาดฟาบินโญ่สู้ไหวมั้ย?เชลซีพร้อมแก้แค้น! 5 ข้อก่อนลิเวอร์พูลพบเชลซีนัดชิงเอฟเอคัพ
ลิเวอร์พูล ต้องเดินหน้าเพื่อลุ้นคว้าแชมป์รายการที่สองในฤดูกาลนี้ โดยมีคิวปะทะกับ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ รอบชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม โดยงานนี้พวกเขาต้องเจอกับปัญหาใหญ่เมื่อไม่มี ฟาบินโญ่ คอยคุมแดนกลางเพราะติดปัญหาบาดเจ็บ ขณะที่ "สิงห์บลูส์" ผู้เล่นแทบจะฟูลทีมที่ลุ้นหนักหน่อยก็แค่ มาเตโอ โควาซิช เท่านั้น สำหรับโทรฟี่รายการนี้ทั้งสองทีมต้องการอย่างมาก โดย "หงส์แดง" อยากได้เพื่อนำไปสู่การสานฝันคว้า 4 แชมป์ในซีซั่นนี้ ส่วน เชลซี ต้องการนำแชมป์เพื่อชดเชยให้กับแฟนบอลหลังทีมเจอปัญหาภายนอกรุมเร้าในช่วงที่ผ่านมาเชลซีหวังถอนแค้น ฮาแวร์ตซ์ ลงซัด, ซาลาห์ ทีเด็ดลิเวอร์พูล ชิงฯ เอฟเอ คัพ
"สิงห์บลูส์" ของ โธมัส ทูเคิ่ล หวังล้างตาหลังพ่าย ลิเวอร์พูล ในเกมคาราบาว คัพ นัดชิงเมื่อกุมภาฯที่ผ่านมา และขอลุ้นถ้วยสมัยที่ 9 ของรายการนี้ หลังได้แค่รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว นัดนี้เต็มสูบ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นทีเด็ดพร้อมตะบัน ส่วนฝั่ง "หงส์แดง" พร้อมคว้าถ้วยที่ 2 และอยู่บนเส้นทางลุ้นสี่แชมป์ นัดนี้พร้อมจัดสามหน้านำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล่าตาข่ายเพื่อแชมป์สมัยที่ 8 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ beIN Sports 1 ยิงสด เวลา 22.45 น.
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์