ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » "ซน" ความภูมิใจชาวเอเชีย,เรือ-หงส์ยอดทีมแห่งยุค! 5 ประเด็นเกมสุดท้ายพรีเมียร์ฯ

"ซน" ความภูมิใจชาวเอเชีย,เรือ-หงส์ยอดทีมแห่งยุค! 5 ประเด็นเกมสุดท้ายพรีเมียร์ฯ

Posted 23/05/2022 by siamsport

แมตช์สุดท้ายศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้นโดยมีให้ลุ้นกันตั้งแต่แชมป์พรีเมียร์ลีก, ท็อปโฟร์ และการหนีตกชั้น งานนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะใจหายใจคว่ำไปบ้างแต่ก็ยังมีความเก๋าจนได้แชมป์ลีกไปครอบครองสำเร็จ ส่วน ลิเวอร์พูล พยายามทำเต็มที่แล้วแต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้แชมป์ ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าห่วยจนกระทั่งวันสุดท้าย เพราฟอร์มก็ไม่ได้เล่นแถมยังแพ้ คริสตัล พาเลซ อีกต่างหาก ส่วน ซน ฮึง-มิน ต้องบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวเอเชียเมื่อเป็นนักเตะคนแรกจากทวีปเอเชียที่ได้ครองรางวัลดาวซัลโวลีกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

1. สถานการณ์ลุ้นแชมป์พลิกไปพลิกมา
ฤดูกาลนี้เป็นการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่มันเข้มข้นกว่าในซีซั่น 2018/2019 โดยเงื่อนไขเหมือนกันนั่นก็คือนัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ต้องชนะและลุ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดสามแต้ม ซึ่งบทสรุปในซีซั่นนั้นต้องบอกว่า "เรือใบสีฟ้า" เข้าวินแบบกินนิ่ม

สำหรับในซีซั่นนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนเดิม เพราะ แมนฯ ซิตี้ ต้องเจอแรงกดดันมหาศาลเมื่อพวกเขาถูก แอสตัน วิลล่า ที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม "หงส์แดง" ทำหน้าที่กุมบังเหียน สร้างเรื่องสุดช็อกเมื่อบุกมานำเจ้าบ้าน 2-0 โดยสถานการณ์อีกที่สนามแอนฟิลด์ "เดอะ เร้ดส์" ยังเสมอกัน วูล์ฟส์ 1-1 ซึ่งหากสกอร์จบแบบนี้ต่อให้ ซิตี้ แพ้ก็ยังได้แชมป์

อย่างไรก็ตาม เป๊ป แอนด์ โค. ไม่อยากเสี่ยงและสามารถรวมพลังประจัญบานยิงคืนสามประตูรวด ทำให้พวกเขาพลิกนรกกลับมาชนะ 3-2 ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ยำ "หมาป่า" 3-1 แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปาดหน้าสร้างประวัติศาสตร์ในซีซั่นนี้ได้

จบเกมสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ มี 93 คะแนนคว้าแชมป์ด้วยการเฉือน ลิเวอร์พูล เพียงแต้มเดียวเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจก็คือทีมแชมป์กับรองแชมป์มีคะแนนทิ้งห่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี อันดับ 3 ถึง 19 กับ 18 แต้มตามลำดับ 

2. อาร์เซน่อลต้องโทษตัวเอง
อีก 1 สโมสรที่ต้องบอกว่าสุดผิดหวังจริงๆ นั่นคงหนีไม่พ้น อาร์เซน่อล เพราะพวกเขามีโอกาสอยู่ในมือกับการคว้าอันดับท็อปโฟร์ เพราะแต้มมากกว่า และยังแข่งน้อยกว่า สเปอร์ส ในช่วงต้นเดือนนี้ แต่กลับทำพลาดส่งผลให้ต้องมาลุ้นนัดสุดท้าย

จุดเปลี่ยนสำคัญคงหนีไม่พ้นเกม "นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" เยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยก่อนหน้านั้น "ไอ้ปืนใหญ่" ฟอร์มสุดมากๆ เก็บชัยชนะในลีก 4 เกมติดต่อกัน แต่พวกเขาดันพลาดท่าพ่ายยับให้กับ "ไก่เดือยทอง" แต่สถานการณ์ยังคงดีอยู่นิดหน่อยตรงที่มีแต้มเหนือกว่า 1 คะแนน

อย่างไรก็ตามการไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และต้องกลับบ้านด้วยความพ่ายแพ้ ในขณะที่ สเปอร์ส ชนะ เบิร์นลี่ย์ ทำให้สถานการณ์พลิกมาอยู่ในมือพวกเขาทันที และเกมสุดท้ายในการพบกับ นอริช ที่ตกชั้นไปแล้วถือว่าเป็นงานง่ายดายจริงๆ

สุดท้ายทีมของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ ก็ทำได้ตามเป้าหมายด้วยการยำใหญ่ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ส่งท้ายซีซั่นก่อนกลับไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ 5-0 แม้ "เดอะ กันเนอร์ส" จะทุบ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่เพียงพอ บทสรุป สเปอร์ส ปาดหน้าคว้าท็อปโฟร์ไปได้สำเร็จ

3. แมนยู พกดวงมาด้วยเหรอ
แฟนบอล "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเจ็บปวดเหลือเกินกับผลงานของทีมรักในเกมสุดท้าย โดยพวกเขาต้องพยายามคว้าชัยชนะเพื่อรักษาอันดับ 6 จะได้โควตาไปลุยเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้า

พลพรรค "เร้ด เดวิลส์" มุ่งมั่นหมายจะโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดในแมตช์อำลาซีซั่น พร้อมทั้งต้องการแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เข้ามาชมแมตช์นี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว

บทสรุปก็คือนักเตะแมนฯ ยูฯ เล่นได้ย่ำแย่ยกทีมเหมือนเดิม ทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ในเกมสุดท้าย ซึ่งงานนี้ตากล้องก็ช่างรู้งานจับภาพไปที่ใบหน้าของ เทน ฮาก ที่แสดงให้เห็นว่าเขามีงานใหญ่แบบเข็นครกขึ้นภูเขาในการสร้าง "ผีแดง" ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูฯ ยังดวงเฮงเพราะสุดท้ายพวกเขาสามารถคว้าโควตายูโรปา ลีก ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะ "ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดันดวงแตกตกม้าตายเมื่อแพ้พลิก ไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-3

กระนั้นสิ่งที่น่าเจ็บปวดอีกอย่างของสาวก "เร้ด อาร์มี่" ก็คือทีมรักของพวกเขา มีคะแนนตามหลัง แมนฯ ซิตี้ แชมป์ลีก และ ลิเวอร์พูล รองแชมป์  ไกลสุดกู่ถึง 35 กับ 34 แต้ม ซึ่งถือว่าห่างชั้นกันมากๆ แถมยิงได้แค่ 57 ประตูและเสีย 57 ประตู (ทำไปได้) นี่เป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ เทน ฮาก ต้องจัดการให้ดีที่สุด

4. "อาซน" สร้างประวัติศาสตร์ให้ชาวเอเชีย
การลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ต้องบอกเลยว่าเข้มข้นถึงใจในช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆ เพราะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซน ฮึง-มิน มีสิทธิ์ที่จะได้รางวัลรองเท้าทองคำไปครอบครองด้วยกันทั้งสองคน

ในตอนแรก "บังโม" แทบจะลอยลำซิว "โกลเด้น บูท" ไปเชยชมเพราะยิงประตูนำห่างคู่แข่งไปเยอะมาก แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซาลาห์ เกิดอาการฟอร์มฝืด สวนทางกับ "อาซน" ที่ยิงเป็นเข้า และไล่บี้อันดับดาวซัลโวมาติดๆ

กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ สร้างผลงานสอยตาข่ายในลีกอังกฤษได้ 21 ประตูก่อนเกมปิดซีซั่นบุกไปเยือน นอริช ทีมที่ตกชั้นไปแล้วโดยเขามีสถิติเป็นรอง โม ซาลาห์ สตาร์ทีม ลิเวอร์พูล หนึ่งประตู

อย่างไรก็ดี ยอดดาวยิงพลังโสมขาว สามารถงัดฟอร์มเทพจัดการเช็คบิล "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ได้สองเม็ดท้ายของเกมในนาทีที่ 70 และ 75 พาทีมจากลอนดอนบุกกำชัย 5-0 ตีตั๋วลงเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าได้สำเร็จ

สองประตูในเกมที่ แคร์โรว โร้ด ทำให้ ซน เพิ่มผลงานยิงได้ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เป็น 23 ประตู แต่ "หงส์แดง" ส่ง ซาลาห์ ลงเล่นเป็นตัวสำรองไปสอยตาข่ายเพิ่มได้อีกเม็ดพาทีมชนะ วูล์ฟส์ 3-1 จึงให้ทั้งคู่คลำเป้าได้เท่ากันพอดี จึงต้องครองรางวัลร่วมกันตามระเบียบ

นั่นทำให้ ซน ฮึง-มิน สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ผงาดเป็นนักเตะเอเชียคนแรกในศึก พรีเมียร์ลีก ที่ได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดร่วมในเกมส่งท้ายซีซั่น 2021/22 ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของพวกเราทุกคนชาวเอเชียอย่างแท้จริง

5. ลุ้นตกชั้นมันไม่แพ้ลุ้นแชมป์
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า นอริช ซิตี้ กับ วัตฟอร์ด โบกมือลาพรีเมียร์ลีกล่วงหน้าไปแล้ว ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ดวงเฮงสุดๆ พลิกนรกชนะ คริสตัน พาเลซ ทันๆ ที่โดนนำไปก่อนสองลูก ทำให้พวกเขารอดตกชั้นไปเรียบร้อย ฉะนั้นเกมสุดท้ายเหลือแค่โควตาที่ต้องแย่งกันระหว่าง เบิร์นลี่ย์ กับ ลีดส์ ยูไนเต็ ซึ่งทั้งสองทีมไม่อยากได้เลย

งานนี้ "ยูงทอง" ทำผลงานได้ดีตามเป้าเมื่อพวกเขาสามารถเฉือน เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ในขณะที่ เบิร์นลี่ย์ โดนทีเด็ดของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำให้ "เดอะ คลาเร็ตส์" ได้รับตั๋วใบสุดท้ายกลับสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไปแบบไม่เต็มใจซักเท่าไหร่

ส่วนทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดก็คือ  "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ที่ผงาดคว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ตามด้วย บอร์นมัธ ขณะที่โควตาสุดท้ายต้องรอลุ้นระหว่าง ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ กับ น็อตติงแฮมป์ ฟอเรสต์ ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องดวลกันในเกมนัดชิง เพลย์ออฟ วันที่ 29 พ.ค. โดยทีมชนะจะได้สิทธิ์ขึ้นมาโชว์ฝีเท้าในเกมพรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ต่อหน้าเทนฮาก!แมนยูบู่โดนพาเลซเชือดยังดีผลเวสต์แฮมเป็นใจจบที่6ยังได้ไปยูโรปาลีก
    ต่อหน้าต่อตาเทนฮาก!! ผีแดง ปิดลีกสุดบู่ต่อหน้านายใหม่ หลังโดน คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเชือดโชว์ พ่าย 2 นัดติดก่อนปิดลีก อย่างไรก็ตามผลอีกคู่ยังเป็นใจ เมื่อ เวสต์แฮม บุกพ่าย ไบรท์ตัน 1-3 ทำให้ แมนฯยูฯ จบอันดับ 6 รักษาตั๋วยูโรปาลีกในมือได้อย่างหวุดหวิด ส่วนทีม ขุนค้อน จบที่ 7 ไปเล่น คอนเฟอเรนซ์ลีก ต่อไป ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565
  • "แชมป์,ตั๋วชปล.,ตกชั้น"วัดกัน!7 ประเด็นร้อนนัดสุดท้าย พรีเมียร์ลีก 2021/22
    พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงเกมสุดท้าย โดยการลุ้นในหมวดต่าง ๆ ยังคงร้อนระอุ ไม่ว่าจะการหาทีมแชมเปี้ยนส์, ตั๋วใบสุดท้ายไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือจะทีมตกชั้นที่ยังขาดอีก 1 ที่
  • รังนิกคุมทัพนัดท้าย! แมนยูไร้"โรนัลโด้"ป้องโควตายูโรปาลีกปิดซีซั่นบุกพาเลซ
    ราล์ฟ รังนิก กุนซือขัดตาทัพ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด คุมทีมนัดสุดท้ายแต่ภารกิจฤดูกาลนี้ยังไม่หมดจำเป็นต้องเฮเพื่อโควตายูโรปาลีก ทว่าไร้ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ที่เจ็บสะโพก เกมปิดซีซั่นนัดบุก คริสตัล พาเลซ ของ ปาทริก วิเอร่า ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นัดสุดท้าย) คืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565
  • จัดหนักส่งท้าย-โด้,บรูโน่ลงยิง!คาด11ตัวจริงแมนยูเยือนพาเลซเกมปิดซีซั่น
    คืนวันอาทิตย์นี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะปิดฉากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 ด้วยการออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ซึ่งถึงแม้ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว แต่พวกเขาจำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้เช่นกัน เพื่อไม่ให้หลุดจากอันดับหก (ได้โควตาลุยถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซีซั่นหน้า) แถมเป็นโอกาสดีสำหรับนักเตะหลายๆ คน ที่จะได้สร้างความประทับใจให้กับ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามาชมเกมที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ด้วย และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-2-3-1 ที่กุนซือ ราล์ฟ รังนิก น่าจะเลือกใช้ในเกมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมสุดท้ายของเจ้าตัวในการคุม "ปีศาจแดง" ด้วย (อ้างอิงจาก The Sun)

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »