ก่อนดวล แมนฯ ซิตี้ : 5 สิ่งที่เราได้รู้ ปรีซีซัน ลิเวอร์พูล
Posted 29/07/2022 by goal.com
หลังเฉียดความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เปิดฉากซีซั่นใหม่ทัพหงส์แดงยังมีเป้าหมายเช่นเดิม และหวังว่าจะดีขึ้นไปอีก
ทัพหงส์แดงจะยังอยู่ในกลุ่มตัวเต็งลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาเฉียดที่จะได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะคว้าแชมป์ถ้วยในประเทศได้ทั้ง 2 รายการที่เวมบลีย์
ในวันเสาร์นี้ พวกเขามีโปรแกรมพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ในปีน้ีย้ายไปแข่งขันกันที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ เลสเตอร์ ซิตี้
และอีก 24 ชั่วโมงถัดมาพวกเขาจะดวลกับ สตราสบูร์ก ในเกมอุ่นเครื่องที่แอนฟิลด์ ก่อนลีกจะเปิดฉากด้วยการพบกับ ฟูแลม ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้
แม้ว่าปรีซีซั่นคราวนี้จะมีผลการแข่งขันที่ผสมปนเปกันไป เปิดหัวด้วยการแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ประเทศไทย, เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ที่สิงคโปร์, รัวยิง แอร์เบ ไลป์ซิก 5-0 ขาดลอย และในเกมล่าสุดบุกไปพ่าย เรดบลู ซัลซ์บวร์ก 0-1
จริงอยู่ที่เราจะไม่สามารถประเมินผลงานและบทสรุปทั้งหมดได้จากเกมอุ่นเครื่อง แต่นี้คือสิ่งที่ GOAL ได้รู้จากทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตลอดซัมเมอร์ที่ผ่านมา
นูนเญซ พร้อมที่จะลงสนามแต่ ฟีร์มิโน ยังคงมีบทบาทสำคัญ
ด้วยอาการบาดเจ็บของ ดิโอโก้ โจต้า ทำให้การแย่งตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าจะเป็นการชิงตำแหน่งกันของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ ดาร์วิน นูนเญซ
คนเก่า ปะทะ คนใหม่? เราอาจจะเรียกแบบนั้นก็ได้ ถึงอย่างนั้น ฟีร์มิโน ยังคงมีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทัพหงส์แดงอย่างแน่นอน แม้จะตกเป็นข่าวย้ายทีมกับ ยูเวนตุส แต่จุดยืนของ ลิเวอร์พูล ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการเก็บเขาอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลนี้
ฟีร์มิโน เหลือสัญญากับทีมเพียงปีเดียว แต่ถ้าหากเขาสลัดอาการบาดเจ็บที่เล่นงานตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา น่าจะทำให้เขามีบทบาทสำคัญกับฤดูกาลที่อาจเป็นฤดูกาล”สั่งลา”ของเขาก็ได้
ด้าน นูนเญซ ถูกดึงเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในอนาคตและอาจจะในตอนนี้ด้วย แม้จะยังมีอะไรต้องขัดเกลาอีกมาก แต่จากการลงสนามในเกมปรีซีซั่นก็น่าจะเห็นถึงความคาดหวังในตัวเขาได้บ้างแล้ว
เขาจัดการเล่นงานใส่ แอร์เบ ไลป์ซิก ได้อย่างเฉิดฉาย แม้จะทำประตูไม่ได้ในเกมล่าสุดกับ ซัลซ์บวร์ก แต่ก็ได้เห็นว่าเขากำลังปรับตัวเข้าหาทีมได้เรื่อย ๆ
เขาวิ่งทำทางได้ดี คอยช่วงชิงจังหวะกับกองหลังตัวสุดท้าย หาตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่กลัวที่จะลองเสี่ยงทำประตู
แต่ก็ยังมีอีกหลายจุดที่ไม่เข้าที่ทั้ง การจับบอล การอ่านจังหวะเพื่อนร่วมทีม แต่ในตอนนี้ เขามาได้ขนาดน้ี นับว่ายอดเยี่ยมใช้ได้
แน่นอนว่าเดอะ ค็อปคงรอที่จะเห็นเขาลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการแล้ว
ใครที่จะมาจับคู่ เวอร์จิล ฟาน ไดค์?
หลายปีก่อนหน้านี้กว่าที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะหาเซ็นเตอร์เบ็คคุณภาพสูงมาคุมแนวรับของทีมนั้นยากเย็นเหลือเกิน แต่ทว่าในตอนนี้พวกเขามีกองหลังคุณภาพคับแก้วถึง 4 คนให้เลือกส่งลงสนาม
แน่นอนว่าหนึ่งคนที่จะได้ลงสนามเป็นตัวหลักแน่นอนคือ ฟาน ไดค์ ที่กลับมามีสภาพร่างกายสมบูรณ์อีกครั้ง เรื่องความเป็นผู้นำและความสามารถคงไม่ต้องพูดถึงกันอีกแล้ว ทำให้เขาจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ คล็อปป์ ใส่ลงใน 11 ตัวจริงแน่นอน
แล้วใครที่จะมาจับคู่กับเขา? โฌแอล มาติป, อิบราฮิมา โคนาเต้ และ โจ โกเมซ ทำให้ คล็อปป์ มีสามตัวเลือกชั้นยอดให้เลือกใช้งาน ชนิดที่กุนซือในยุโรปทุกคนต้องอิจฉาเขา
มาติป ลงสนามมากที่สุดในฤดูกาลที่แล้ว เขาลงเล่นไป 43 นัดรวมทุกรายการ แต่ทว่าเป็น โคนาเต้ ที่ได้ลงตัวจริงในเกมนัดชิงบอลถ้วย 3 รายการที่ทีมเข้าชิงฯ
สำหรับ โกเมซ โอกาสลงสนามของเขาค่อนข้างจำกัด ได้ลงสนามไปเพียง 11 เกมเท่านั้น แต่ทว่า โกเมซ เพิ่งต่อสัญญาใหม่กับทีมไป และพร้อมสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงของเขาต่อไป นั่นคือทั้ง 4 ตัวเลือกให้ คล็อปป์ เลือกใช้งาน
โอกาสของ คาร์วัลโญ จะมาในไม่ช้า
เราเพิ่งพูดถึงหนึ่งในแนวรุกตัวใหม่ของ ลิเวอร์พูล ไป แล้วอีกคนหนึ่งล่ะ?
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ย้ายมาร่วมทีมด้วยชื่อเสียงที่อาจไม่เปรี้ยงปร้างเท่า นูนเญซ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นการเซ็นสัญญาที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน
ดาวเตะวัย 19 ปีทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในการเล่นปรีซีซั่นกับทีม ซึ่งทำให้อาจใช้เวลาอีกไม่นานก่อนที่เขาจะได้ประเดิมสนามให้กับทีมในเกมอย่างเป็นทางการ
เขามักจะได้ประจำการในพื้นที่เกมรุกฝั่งซ้ายเป็นหลัก รวมถึงตำแหน่งกองกลางตัวรุก เรื่องพรสวรรค์ของเขานั้นชัดเจนอยู่แล้ว และสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ ฮาร์วีย์ เอลเลีตต์
แม้ว่าทั้งคู่อาจไม่ได้เป็นตัวหลักในอนาคตอันใกล้ แต่เชื่อว่าเวลาของเขาจะมาในอีกไม่ช้า
ความเข้มข้นยังเป็นตัวตนของทัพหงส์แดง
เมื่อคุณเฉียดเข้าใกล้คว้าบางสิ่งที่พิเศษ หรือทุ่มสุดตัวเพื่อไล่ล่าสิ่งนั้นมา มันทำให้บางครั้งเป็นเรื่องยากที่คุณจะใส่สุดตัวเหมือนเดิมเพื่อสิ่งนั้นอีกครั้ง
ปกติแล้ว ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ ฟื้นตัวจากความผิดหวังกลับมาได้เสมอ ด้วยความกระหายและไอเดียที่ชัดเจน หลังความพ่ายแพ้ในนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 พวกเขากลับมาคว้าแชมป์ได้ในปี 2019 รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกที่แพ้เพียงแต้มเดียวในปี 2019 ปีต่อมา พวกเขากลับมาเป็นแชมป์ด้วยคะแนนทิ้งห่าง 18 คะแนน
ดังนั้น หลังใกล้ความสำเร็จสูงสุดในฤดูกาลที่ผ่านมา เราต้องมาลุ้นกันว่าทีมของ คล็อปป์ จะฮึดกลับมาได้แค่ไหน?
คุณคิดว่ายังไงล่ะ? “ตัวตนของเราคือความเข้มข้น” เป๊ป ลินเดอร์ส ผู้ช่วยของ คล็อปป์ กล่าวเอาไว้แบบนั้น
จังหวะและความเข้มข้นของ ลิเวอร์พูล นั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ประกอบกับทีมอันแข็งแกร่งที่จะทำให้พวกเขากลับมาลุ้นแชมป์รายการใหญ่อีกครั้ง แม้จะมีฟุคบอลโลกมาคั่นช่วงกลางปีก็ตาม
บาจเซติช โชว์ฟอร์มเตะตา คล็อปป์
ปกติแล้วจะมีดาวรุ่ง 1-2 คนทำผลงานน่าประทับใจในช่วงปรีซีซั่นและก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ
เค้ด กอร์ดอน คือคน ๆ นั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว บิลลี คูเมติโอ ปีก่อนหน้านั้น และในปีนี้ สเตฟาน บาจเซติช คือคนที่ทำผลงานเข้าตา เยอร์เก้น คล็อปป์
ด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาโชว์ฟอร์มเข้าตา ด้วยความสุขุม มั่นใจ และเข้าใจการเล่นทั้งตอนมีและไม่มีบอลอยู่กับตัว ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะได้โอกาสกับทีมชุดใหญ่
แน่นอนมันไม่ง่ายเลย แต่ทีมสตาฟฟ์ชุดอคาเดมีต่างประทับใจในฝีเท้าของเขา หลังย้ายจาก เซลต้า บีโก้ มาร่วมทีมในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ซึ่ง คล็อปป์และทีมงานของเขาได้ทราบข้อมูลกองหลังทีมชาติสเปนชุดเล็กรายนี้แล้ว
นอกจากลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค เขายังสามารถขยับมาเล่นมิดฟิลด์ได้เช่นกัน แม้จะมีนักเตะชื่อดังขวางอยู่ในทีมชุดใหญ่
ไม่แน่ว่าแผงมิดฟิลด์ที่รอวันยกเครื่องในอนาคต อาจทำให้ บาจเซติช ได้โอกาสของเขาในอนาคตข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์